- 08 เม.ย. 2567
พบสารอันตราย ห้ามเข้าพื้นที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี lสั่งด่วนประกาศห้ามเข้าพื้นที่ พบกากแคดเมียม 90 วัน
จากการพบกากแคดเมียมที่เหลือ ซุกโกดังแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี กว่า 7000 ตัน สืบเนื่องกรณีพบกากแคดเมียมจากโรงงานในจังหวัดตากจำนวน 13,000 ตันเศษ ถูกขนออกจากพื้นที่ และพบกากแคดเมียมที่โรงงานในจังหวัดสมุทรสาครจำนวนประมาณ 2,500 ตัน ที่เหลืออีกกว่า 10,000 ตันไม่พบในบริเวณโรงงาน อัปเดตล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีประกาศห้ามเข้าพื้นที่ สั่งปิดพื้นที่พบ "แคดเมียม" 90 วัน
เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจ บริษัทแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ใน จ.สมุทรสาคร ซึ่งผลการตรวจค้นพบกากแคดเมี่ยม กว่า 15,000 ตัน อยู่ในบริเวณโรงงาน และมีบางส่วนถูกลักลอบขนออกไปยังนอกโรงงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ทำการสืบสวนขยายผล จนพบเอกสารการขนส่งของแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบริษัทรับจ้างขนกากสินค้า (กากแคดเมี่ยม และกากสังคะสี) ให้แก่บริษัทดังกล่าว จึงได้สอบถามพนักงานของบริษัทขนส่งแห่งนั้น ทราบว่าได้รับการว่าจ้างให้ทำการขนกากแคดเมียม ดังกล่าวไปยังโกดังหนึ่งใน จ.ชลบุรี
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส. จึงได้ร่วมกับ กก.2 บก.ปทส. ได้อาศัยอำนาจเจ้าพนักงานมลพิษ เข้าตรวจสอบโกดังดังกล่าว ใน จ.ชลบุรี ผลการตรวจสอบพบ กากแคดเมี่ยมบรรจุอยู่ในถุงบิ๊กแบค น้ำหนักรวมกว่า 7000 ตัน และพบกากแคดเมี่ยมบางส่วน ที่ผ่านกรรมมาวิธีหลอมมาแล้วกองไว้อยู่ในโกดัง จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กรมโรงงาน และอุตสาหกรรม จ.ชลบุรี ร่วมตรวจสอบ จากนั้นจึงได้ทำการอายัดกากแคดเมี่ยมไว้ทั้งหมด และสุ่มจัดเก็บตัวอย่างกากแคดเมี่ยมเพื่อตรวจพิสูจน์ และจะได้ดำเนินคดีแก่กลุ่มคนจีนเจ้าของโกดังแห่งนี้ต่อไป
ซึ่งเรื่องดังกล่าว นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ร่วมกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ตรวจสอบข้อมูลการขนย้ายตลอดจนแหล่งปลายทางการขนย้ายทั้งหมด เพื่อให้สามารถติดตามและนำกากแคดเมียมกลับไปฝังกลบที่ต้นทางจังหวัดตาก นั้น
นางสาวพิมพ์ภัทราฯ เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ บก.ปทส. ว่าตรวจพบถุงบิ๊กแบ็กจำนวนมาก กระจายอยู่ในพื้นที่โรงเรือน ซึ่งตั้งอยู่ที่ ตำบลคลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี คาดว่าจะเป็นกองกากแคดเมียมที่มาจากโรงงานที่สมุทรสาคร โดยขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. กรมโรงงาน อุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี กำลังตรวจสอบกองกากดังกล่าว เบื้องต้น นับได้ประมาณ 4,200 ถุง คาดว่าน่าจะมีน้ำหนักรวม ประมาณ 6,720 ตัน และได้ทำการยึดอายัดไว้เป็นที่เรียบร้อย
“ดิฉันจะได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และอธิบดีกรมโรงงาน อุตสาหกรรมเร่งจัดการนำกากแคดเมียมทั้งหมด กลับไปฝังกลบยังแหล่งต้นทางให้เร็วและปลอดภัยที่สุด พร้อมทั้งต้องตรวจสอบว่ายังคงมีกากแคดเมียม หลงเหลือในพื้นที่อื่นอีกหรือไม่ เพื่อคลายความกังวลให้กับประชาชน ซึ่งในวันนี้ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์โรงงานที่สมุทรสาครไว้กับ บก.ปทส.เรียบร้อยแล้ว”
คืบหน้าล่าสุด ได้มีประกาศ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี เรื่อง ห้ามมิให้บุคคลใด ๆ เข้าไปอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดในพื้นที่ใกล้จะเกิดสาธารณภัย
ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีประกาศห้ามเข้าพื้นที่ พบกากแคดเมียม 90 วันในโกดังเก็บสินค้าของบริษัท อิฟง จำกัด ตำบลคลองกิ่ว อำเภอบ้านบึง พร้อมสั่งการหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการป้องกันอันตรายประชาชนทั้ง เฝ้าระวังโรค ตรวจสอบสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบอาคาร และจัดแผนไม่ให้ส่งผลกระทบประชาชน
วันที่ 7 เม.ย. 67 นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในฐานะผู้อำนวยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี ได้ลงนามในประกาศจำนวน 1 ฉบับ หลังมีการตรวจพบกากของเสียอุตสาหกรรม ประเภทกากสังกะสีที่มีสารตะกั่วและแคดเมียมปนเปื้อน จำนวนมาก
โดยประกาศฉบับดังกล่าวเป็นเรื่อง ห้ามมิให้บุคคลใด ๆ เข้าไปอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดในพื้นที่ใกล้จะเกิดสาธารณภัย
เนื้อหาระบุว่า ด้วยปรากฎข้อเท็จจริงว่า พบกากของเสียอุตสาหกรรม ประเภทกากสังกะสีที่มีสารตะกั่ว และแคดเมียมปนเปื้อน จำนวนมากอยู่ภายในโกดังเก็บสินค้าของ บริษัท อิฟง จำกัด ตั้งอยู่ตำบลคลองกิ่ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ซึ่งไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน
โดยที่กากของเสียอุตสาหกรรม ประเภทกากสังกะสีที่มีสารตะกั่วและแคดเมียมปนเปื้อน ซึ่งเป็นกากแร่อุตสาหกรรมอันตรายในปริมาณมากดังกล่าว มีลักษณะที่ใกล้จะเกิดสาธารณภัยอันเนื่องมาจากสารเคมีและวัตถุอันตรายขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว และการอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใด ๆ ในพื้นที่นั้นจะเป็นอันตรายอย่างร้ายแรงต่อชีวิตและร่างกายของประชาชน
เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและร่างกายของประชาชน ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัดตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 อาศัยอำนาจ ตามมาตรา 29 ของพระราชบัญญัติเดียวกันนี้
ประกาศห้ามมิให้บุคคลใด ๆ เข้าไปอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดๆ ในพื้นที่ดังกล่าว ตั้งอยู่เลขที่ 394/2 หมู่ที่ 4 ตำบลคลองกิ่ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี โฉนดที่ดินเลขที่ 64842 เป็นระยะเวลา 90 วัน นับแต่วันประกาศนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ หากผู้ใดมีความจำเป็นต้องเข้าไปดำเนินกิจการใด ๆ ตามสิทธิหรือตามกฎหมายที่ให้อำนาจ หรือการดำเนินการเพื่อเป็นการบำบัดปัดป้องภัยพิบัติสาธารณะหรือการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้แจ้งต่อนายอำเภอบ้านบึงในฐานะผู้อำนวยการอำเภอก่อนเข้าดำเนินการให้ผู้อำนวยการอำเภอใช้ดุลพินิจพิจารณาผ่อนปรนให้บุคคลใดเข้าพื้นที่ไปดำเนินการใด ๆ ได้โดยพิจารณาจากสิทธิหรืออำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ความจำเป็น มาตรการป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย และมาตรการป้องกันไม่ให้กากของเสียอุตสาหกรรม ประเภทกากสังกะสีที่มีสารตะกั่วและแคดเมียมปนเปื้อนส่งผลกระทบต่อประชาชนประกอบกัน ประกาศ ณ วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2567
นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ทำถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระบุเรื่อง การดำเนินการมาตรการป้องกันอันตรายจากกากของเสียอุตสาหกรรม
เนื้อหาระบุว่า ด้วยปรากฎข้อเท็จจริงว่า มีกากของเสียอุตสาหกรรม ประเภทกากสังกะสีที่มีสารตะกั่วและแคดเมียมปนเปื้อน ซึ่งเป็นกากอุตสาหกรรมอันตราย ภายในโกดังเก็บสินค้าของบริษัท อิฟง จำกัด(ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน) ตั้งอยู่ตำบลคลองกิ่ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เป็นจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัดได้ประกาศห้ามมีให้บุคคลใดเข้าไปอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดในพื้นที่ดังกล่าวและได้สั่งการให้หน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการ ดังนี้
1. มอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี จัดให้มีการเฝ้าระวังโรคที่เกิดจากกากอุตสาหกรรมอันตรายดังกล่าว พร้อมทั้งดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนได้รับอันตรายจากกากอุตสาหกรรมอันตรายข้างต้น หากพบว่ามีการเจ็บป่วยเนื่องจากกรณีข้างต้น ให้รายงานกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรีทราบทันที
2.มอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชลบุรี ประสาน
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบสิ่งแวดล้อมบริเวณโดยรอบพื้นที่เกิดเหตุ โดยดำเนินมาตรการป้องกันไมให้เกิดมลพิษ และให้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ หากเกิดภาวะมลพิษให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
3.มอบหมายให้องค์การบริหารส่วนตำบลคลองกิ่ว ดำเนินการตรวจสอบอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 หากพบว่าไม่เป็นไปตามกฎหมายให้มีคำสั่งห้ามใช้อาคารและให้ปรับปรุงแก้ไข พร้อมทั้งให้ดำเนินการไปตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 อย่างเคร่งครัด
รวมทั้งให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองกิ่ว ในฐานะผู้อำนวยการท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จัดให้มีแผนและมาตรการไม่ให้กากอุตสาหกรรมอันตรายดังกล่าวส่งผลกระทบต่อประชาชน
4.มอบหมายให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรีใช้อำนาจดำเนินการตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตรายและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสาร ปฏิบัติตามคำแนะนำเจ้าหน้าที่ไม่ควรเข้าไปในพื้นที่ที่มีการประกาศห้าม