- 03 มิ.ย. 2567
เปิดไทม์ไลน์"มด"ภรรยาเสี่ยต้น วางแผนจ้างวานฆ่าสามีตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม หาคนรับงานผ่านแอป ค่าจ้าง 3แสนบาท
กรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับ"มด"เมียเสี่ยต้น น.ส.วรรณิภา หะมาลา ภรรยานายพิชิต กลีบจินดา หรือเสี่ยต้น อายุ 44 ปีจากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า น.ส.วรรณิภา หรือมด ทำหน้าที่จ้างวานพยายามฆ่า เสี่ยต้น เนื่องจากมีสาเหตุโกรธเคืองกับนายพิชิตเพราะถูกสามีนอกใจ และมีการทะเลาะกันหลายครั้งจนถึงขั้นมีการทำร้ายร่างกาย
จากนั้นจึงเริ่มมีการวางแผนที่ฆ่าเอาชีวิตนายพิชิต โดยมีการว่าจ้างนายสาโรจน์ในการจัดหาอุปกรณ์อาวุธปืนในการก่อเหตุครั้งนี้
พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า นายสาโรจน์ และนายวี ให้การรับสารภาพว่าอยู่ในกลุ่มกระบวนการก่อเหตุ ส่วนนางสาววรรณิภานั้นให้การภาคเสธ ส่วนมือปืนยังอยู่ระหว่างการติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งคดีนึ้จะมีความเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของเสี่ยต้นในจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งทางตำรวจภูธรภาค 4 กำลังดำเนินการในส่วนของคดีนั้น โดยยืนยันว่าไม่ว่าใครก็ตามที่เกี่ยวข้อง จะถูกดำเนินคดีทั้งหมด
เบื้องต้นในชั้นการจับกุม นายสาโรจน์และนายวีรภัทรให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก โดยให้การรับสารภาพว่า อยู่ร่วมขบวนการพยายามลอบสังหารเสี่ยต้นจริง โดยได้รับเงินค่าจ้างจาก น.ส.วรรณิภา ภรรยาเสี่ยต้นจำนวน 300,000 บาท แบ่งเป็น เงินโอนให้แก่มือปืนจำนวน 45,000 บาท โอนเงินเป็นค่าจ้างวานจัดหาอาวุธให้แก่นายสาโรจน์อีก 33,000 บาท และที่เหลือเป็นเงินสด
ส่วนนางสาววิภา ยังคงให้การภาคเสธ อ้างว่าเป็นปมความขัดแย้งเรื่องภายในครอบครัวกับเสี่ยต้น ทั้งเรื่องหึงหวงและการทำร้ายร่างกายกัน ซึ่งมูลเหตุจูงใจนั้น นอกจากเรื่องความขัดแย้งแล้ว ยังเป็นเรื่องผลประโยชน์ที่ภรรยาเสี่ยต้นจะได้รับหลังจากการเสียชีวิตของเสี่ยต้นด้วย
จากแนวทางการสืบสวนพบว่า นางสาววรรณิภา มีปัญหากับเสี่ยต้นในเรื่องของความขัดแย้งภายในครอบครัว สาเหตุได้ตั้งไว้ 2 ประเด็นคือ มาจากการทะเลาะกัน และหวังในมรดกทรัพย์สินของเสี่ยต้น
ไทม์ไลน์วางแผนสังหารเสี่ยต้น
โดยเริ่มมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา จากนั้นนางสาววรรณิภาได้เริ่มปรึกษาวางแผนก่อเหตุในช่วงปลายเดือนมีนาคม
มีการหามือปืนผ่านทางแอปพลิเคชัน จากนั้นในช่วงต้นเดือนเมษายนชุดทีมที่ก่อเหตุก็ได้ลงพื้นที่กรุงเทพมหานครเพื่อชี้เป้าและวางแผนก่อเหตุ โดยในวันเกิดเหตุนางสาววรรณิภาได้นัดเสี่ยต้นมาทานอาหารที่ร้านโรงเหล้าแสงจันทร์ย่านเลียบด่วนรามอินทรา วันที่ 8 เมษายน เพื่อส่งพิกัดชี้เป้าให้กลุ่มมือปืนสะกดรอยตามและก่อเหตุยิงในคืนเดียวกัน
เมื่อเสี่ยต้นไปถึงร้านก็นั่งรับประทานและดื่มสุราไปได้ไม่นาน นางสาววรรณณิภาก็โทรศัพท์มาบอกว่าไม่ไปแล้ว เสี่ยต้นจึงออกจากร้านเดินทางกลับ ซึ่งทีมมือปืนมารออยู่ที่หน้าร้านก่อนจะขับรถจักรยานยนต์ตามไปประกบยิงแต่งานไม่สำเร็จ
สำหรับกรณีการเสียชีวิตของเสี่ยต้นที่ จ.มหาสารคาม นั้น จากการสอบสวนพบว่า กลุ่มขบวนการที่สามารถจับกุมได้ในวันนี้นั้น มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกัน เพราะพบว่า มีการพูดคุยวางแผนกันหลังจากไม่สามารถยิงเสี่ยต้นได้และพบการนัดหมายให้เสี่ยต้นไปที่ จ.มหาสารคาม ซึ่งกำลังขยายผลเพิ่มเติม เพื่อให้ได้สาเหตุการตายว่า มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มมือปืนผู้รับจ้างเหล่านี้อย่างไร
ส่วนประเด็นที่ว่า จะมีคนในครอบครัวของภรรยาเสี่ยต้นเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น หากดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลและพบความเชื่อมโยง ก็จะดำเนินคดีทั้งหมด ทั้งนี้จากการสอบประวัติพบว่า ตัวนายณัฐกร มือปืน เคยมีประวัติอาชญากรรมในคดีอื่น ๆ มาก่อน