- 06 มิ.ย. 2567
ประหารชีวิต"หมวดนัท" อดีตตำรวจหัวหมาก ยิงนักธุรกิจดับบนทางด่วน แต่รับสารภาพ ศาลลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ชดใช้ค่าเสียหาย 13 ล้านบาท
กรณีตำรวจหัวหมากยิงนักธุรกิจบนทางด่วน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2566 โดย หมวดนัท ร.ต.ท.ณรงค์วัส รอง สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก ก่อเหตุยิง นายกฤษฏิ์ อายุ 30 ปี เสี่ยเจ้าของโรงงาน เสียชีวิตบนทางด่วนฉลองรัช กม.10 เหนือถนนประดิษฐ์มนูธรรม ขาออกมุ่งหน้าไปลาดพร้าว ก่อนชิงเอาผู้เสียชีวิต ขับหลบหนีไป ล่าสุด ศาลอาญาสั่งประหารชีวิต หมวดนัท แต่รับสารภาพ ศาลลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต
คืบหน้าล่าสุดวันที่ 6มิ.ย.67 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีฆ่าผู้อื่น ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้อง นายหรืออดีต ร.ต.ท.ณรงค์วัส (สงวนนามสกุล) หรือนัท อายุ 26 ปี ชาว จ.นครปฐม อดีตรอง สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก เป็นจำเลยในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน , พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ คดีนี้ มีญาติผู้ตายซึ่งเป็นผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีรวม 3 คน
โดยอัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดจำเลยสรุปความว่า เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 66 เวลากลางคืน จำเลยได้ใช้อาวุธปืน ออโตเมติก ยิ่ห้อกล็อค (GLOCK) ขนาด 9 มม. หมายเลขประจำปืน BPCM 975 ทะเบียน 03/6400069 ยิงนายกฤษฎิ์ (สงวนนามสกุล) เสี่ยนักธุรกิจเจ้าของโรงงาน 7 นัดที่บริเวณศีรษะ และอวัยวะส่วนอื่นจนถึงแก่ความตาย แล้วหลบหนีไป ต่อมา พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลางได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา ติดตามจับกุมจำเลยได้ที่ห้องพักรายวันแห่งหนึ่งย่านสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลางดำเนินคดี
เหตุเกิดบริเวณทางด่วนฉลองรัช (ลาดพร้าว ขาออก) แขวง-เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ
โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33,91,288,289,371,376 ฯ
จำเลยถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ศาลจึงให้สืบพยานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพ พิเคราะห์คำเบิกความ และพยานหลักฐานโจทก์ ประกอบคำรับสารภาพจำเลยแล้ว
ศาลพิพากษา ว่า
จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4),371, 376 พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง, 72 ทวิ วรรคสอง
การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและฐานยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้ประหารชีวิต ฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและไม่มีเหตุสมควร เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุก 2 ปี
จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 (2) ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน คงจำคุกตลอดชีวิต ฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองฯ คงจำคุก 1 ปี
เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วให้จำคุกตลอดชีวิตสถานเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (3) และให้จำเลยชำระเงินแก่โจทกก์ร่วมที่ 1 จำนวน 2,750,000 บาท ชำระเงินแก่โจทก์ร่วมที่ 2 จำนวน 4,600,000 บาท ชำระเงินแก่โจทก์ร่วมที่ 3 จำนวน 6,040,000 บาท รวมจำนวนทั้งสิ้น 13,390,000บาท ริบอาวุธปืนพร้อมซองกระสุนปืนของกลาง