นายกิจจา คนขับรถของนายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์  หลานชายชาดา ไทยเศรษฐ์ โวยตำรวจไม่ให้ญาติเข้าเยี่ยม ด้านตำรวจเล่าพฤติกรรมคลุ้มคลั่งและมีการทะเลาะกันเองระหว่างนายกิจจาและนายนรเศรษฐ์

ล่าสุดวันที่ 12 มิถุนายน 2567ที่ สน.มักสัน นายกิจจา คนขับรถของนายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ หลานชายชาดา ไทยเศรษฐ์โวย ตำรวจไม่ให้ญาติเยี่ยม ลั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ด้านตำรวจเผยพฤติกรรมคลุ้มคลั่งโวยวาย และทะเลาะกันเองระหว่างนายกิจจา และ นายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์

 

คนขับรถหลานชาดาโวยตำรวจไม่ให้ญาติเยี่ยม พฤติกรรมคลั่ง ทะเลาะกันเอง

 


 

โดยเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 มิถุนายน 2567 ภรรยาและน้องสาวของ นายกิจจา จุลมุสิทธ์ ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นคนขับรถของ นายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ ได้เดินทางมาเยี่ยมสามี โดยไม่ได้ประสงค์ที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ซึ่งทั้งคู่พยายามอยากจะเข้าเยี่ยมนายกิจจา แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ชี้แจงว่า ยังไม่ถึงเวลาเข้าเยี่ยม จะต้องรอ 12.00 น. ก่อน 

 

คนขับรถหลานชาดาโวยตำรวจไม่ให้ญาติเยี่ยม พฤติกรรมคลั่ง ทะเลาะกันเอง

 

จากนั้นนายกิจจาได้ตะโกนโวยวาย บอกผู้สื่อข่าวที่ยืนอยู่ด้านหน้าห้องควบคุมผู้ต้องหา บอกว่าญาติของผู้ต้องหาคนอื่นก็มาเข้าเยี่ยมไม่ตรงกำหนดเวลาแต่ทำไมตำรวจถึงให้เข้าเยี่ยมได้ ทำไมกรณีของตนไม่สามารถทำได้

คนขับรถหลานชาดาโวยตำรวจไม่ให้ญาติเยี่ยม พฤติกรรมคลั่ง ทะเลาะกันเอง

 

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า นายกิจจา มีลักษณะคลุ้มคลั่ง มักจะตะโกนเสียงดังตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องแยกนายกิจจาและนายนรเศรษฐ์ออกจากกัน เพราะทั้งคู่มีปากเสียง เหมือนทะเลาะกัน นายกิจจา เข้าใจว่า นายนรเศรษฐ์ จะทำร้ายร่างกายด้วย ตำรวจเห็นท่าไม่ดี จึงตัดสินใจแยกทั้งคู่ออกจากกัน 

 

คนขับรถหลานชาดาโวยตำรวจไม่ให้ญาติเยี่ยม พฤติกรรมคลั่ง ทะเลาะกันเอง

 

ซึ่งจากการสังเกตท่าทีของนายกิจจาที่อยู่ในห้องควบคุมผู้ต้องหา ได้กระโดดไปมาอยู่ในห้อง ปีนลูกกรง โบกไม้โบกมือ และตะโกนคลุ้มคลั่งตลอดเวลา ตำรวจจึงได้สังเกตอาการอย่างใกล้ชิดผ่านกล้องวงจรปิด

ขณะที่จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายกิจจา จุลมุสิทธ์ เคยถูกดำเนิน 2 คดี ข้อหานำเข้า ส่งออกจำหน่าย มีไว้ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ในจังหวัดอุทัยธานี เมื่อปี 2566 และคดีฉ้อโกง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำเข้าข้อมูลปลอม ในพื้นที่สน.ทุ่งครุ เมื่อปี 2565 ส่วนนางสาววาลิส ทัศนเอกจิต พบมีประวัติลักทรัพย์อีกด้วย