บอร์ดยาสูบแห่งชาติเห็นชอบสกัดกั้น บุหรี่ไฟฟ้า ห้ามนำเข้าไทย โทษจำคุก 10 ปี

“สมศักดิ์”เผยบุหรี่ไฟฟ้าห้ามนำเข้าไทย โทษจำคุก 10 ปี แต่ก็มีคนลักลอบปกปิด-สำแดงเท็จ ทำคนไม่สูบต้องรับอันตรายจากควันบุหรี่ โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก คผยช.เห็นชอบมาตรการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกรูปแบบ

บอร์ดยาสูบแห่งชาติเห็นชอบสกัดกั้น บุหรี่ไฟฟ้า ห้ามนำเข้าไทย โทษจำคุก 10 ปี 

บอร์ดยาสูบแห่งชาติเห็นชอบสกัดกั้น บุหรี่ไฟฟ้า ห้ามนำเข้าไทย โทษจำคุก 10 ปี

 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ (คผยช.) ครั้งที่ 2/2567  ว่า   ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นภาคีของกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองประชากรโลกให้ปลอดภัยจากผลร้ายของการบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบและเป็นกลไกทางกฎหมายระหว่างประเทศในการสกัดกั้นไม่ให้ผลิตภัณฑ์ยาสูบแพร่กระจายไปทั่วโลกโดยเมื่อวันที่  5 - 10 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้แทนประเทศไทยได้เข้าร่วมการประชุมรัฐภาคีฯ ครั้งที่ 10 ณ สาธารณรัฐปานามา  และที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ประเทศรัฐภาคีดำเนินการตาม “ปฏิญญาปานามา (Panama Declaration)” เพื่อกระตุ้นให้ภาคีต่าง ๆ เร่งดำเนินการตามกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลกและร่วมกันปกป้องสิทธิเด็ก เยาวชนและมนุษยชน จากผลกระทบด้านสุขภาพ สังคม สิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการบริโภค/สัมผัสกับควันบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกรูปแบบ รวมถึงการแสวงหาผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมยาสูบ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้มีเรื่องเพื่อพิจารณาประเด็นองค์การอนามัยโลก ห่วงใยเรื่องสิทธิเด็ก อย่างบางคนสูบบุหรี่ แต่บางคนไม่สูบกลับต้องรับควันบุหรี่ โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้า อย่างกลิ่น อย่างควัน ผู้ปกครองไม่สามารถรู้ว่าเป็นบุหรี่ไฟฟ้า เพราะกลิ่นไม่เหมือนบุหรี่ทั่วไป เนื่องจากทำกลิ่นให้หอม กลายเป็นปัญหาในการติดตามสอดส่องดูแล เรื่องนี้คณะรัฐมนตรี(ครม.) ให้ความสนใจและมีมติในการป้องกันปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งนำเข้า จำหน่าย ไม่ให้มีการลักลอบเข้ามา ซึ่งคนลักลอบมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ส่วนกฎหมายของ สคบ. มีโทษจำคุก 3 ปี

ดังนั้น ต้องดำเนินการในเรื่องนี้ โดยกระทรวงยุติธรรมจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจ สคบ. ศุลกากร กระทรวงศึกษาธิการมาเป็นคณะทำงาน นำร่องให้เห็นว่าบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่มีกลิ่นให้สังเกตเลยว่าเป็นสิ่งเสพติด เป็นการทำลายมนุษยชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็ก จึงต้องดำเนินการตามแนวทางองค์การอนามัยโลกให้ดูแลคุ้มครองผู้เสพให้เลิกเสพและผู้รับควันบุหรี่มือสองต้องได้รับการปกป้องดูแล ให้สธ.ร่วมกับคณะทำงานไปหาทางที่จะสร้างความเข้าใจโดยด่วนกับประชาชน ผู้ปกครองให้รับทราบว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายมากและหยุดยั้งให้ได้ ให้ประชาชนมีส่วนร่วม เพราะจะไปจับกุมอย่างเดียวคงไม่สำเร็จ

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุม คผยช. ในวันนี้ มีมติเห็นชอบมาตรการการดำเนินงานควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกรูปแบบ เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนและสิทธิเด็กของประเทศไทย

1.การพัฒนา/ปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ มาตรฐาน ของกระทรวงและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มประเด็นการคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกรูปแบบ รวมถึงยกระดับการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง

2.การสนับสนุนให้ประชาชนสามารถเข้าถึงยาเลิกบุหรี่ (Cytisine) ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

3.การให้ความรู้เกี่ยวกับโทษพิษภัยและอันตรายของบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกรูปแบบ และรู้เท่าทันกลยุทธ์ของอุตสาหกรรมยาสูบ รวมถึงการสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนมีบทบาทในการรณรงค์เพื่อการไม่บริโภคบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกรูปแบบ และการขับเคลื่อนงานด้านการควบคุมยาสูบทุกระดับ

 และ 4.การคุ้มครองจากการแสวงผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมยาสูบ โดยได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการมาตรการข้างต้นตามบริบทของหน่วยงาน เพื่อป้องกันการเข้าถึง ควบคุม และคุ้มครองสุขภาพอนามัยประชาชนจากพิษภัยของบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกรูปแบบ