- 17 ก.ค. 2567
เปิดปมปริศนา 6 ศพ ชาวเวียดนาม ในโรงแรมหรูย่านราชประสงค์ สารพัดข้อสงสัยและปมสุดประหลาด แถมมีเซอร์ไพรส์ เอฟบีไอ โผล่ขอแจม
กรณี 6ศพชาวเวียดนาม ภายในห้องพักโรงแรมหรูย่านราชประสงค์ เหตุเกิดวันที่ 16 ก.ค.67 โดยผู้เสียชีวิต เป็นเพศ ชาย 3 และ หญิง 3 ในจำนวนนี้ มี 2 ราย ถือสัญชาติอเมริกัน ซึ่งก็มีสารพัดปมสุดประหลาด ไล่ตั้งแต่ได้ทำการจองโรงแรมหรูทั้งหมด 5 ห้อง แจ้งการจอง Booking มา 7 คน เดินทางช็คอิน 5 คน แต่พบศพ 6 ราย แถมยังมี เอฟบีไอ (FBI) โผล่มาร่วมตรวจสอบยังโรงแรมที่เกิดเหตุอีกด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติม ผู้เสียชีวิตทั้ง6ราย ได้เดินทางมาเข้าพักที่โรงแรมหรูย่านราชประสงค์ ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน แบ่งเป็นวันที่ 13 กรกฎาคม 1 ชุด พักที่ชั้น 7 รวม 4 ห้อง ส่วนที่ชั้น 5 พบผู้เข้าพัก 1 ห้อง มีข้อมูลแจ้งบุ๊คกิ้งทั้งหมด 7 คน แต่พบศพ 6 คน จึงมีการตั้งข้อสังเกต อาจมีผู้เกี่ยวข้องอีก 1 คน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ พบในห้องพักที่เกิดเหตุ กลุ่มผู้ตายได้มีการสั่งอาหารมารับประทานแต่สภาพของอาหารพบว่ายังไม่ถูกรับประทานมีเพียงแก้วเครื่องดื่ม 6 แก้ว ที่ด้านล่างของถ้วยพบสารบางอย่างคล้ายผงซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นสารอะไร คาดอาจจะโดนวางยาพิษ
รายชื่อผู้เสียชีวิต 6 ราย
1. Ms. SHERINE CHONG อายุ 56 ปี สัญชาติอเมริกัน
2. Mr. HUNG DANG VAN อายุ 55 ปี สัญชาติอเมริกัน
3. Ms. THI NGUYEN PHUONG LAN อายุ 47 ปีสัญชาติเวียดนาม
4. Mr. HONG PHAM THANH อายุ 49 ปี สัญชาติเวียดนาม
5. Mr. DINH TRAN PHU อายุ 37 ปี สัญชาติเวียดนาม
6. Ms. THI NGUYEN PHUONG สัญชาติเวียดนาม
ซึ่ง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. กล่าวว่า จากการตรวจที่เกิดเหตุ 4 ห้องในชั้น 7 ต้องเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมเมื่อวานตอนบ่าย โดยได้มีการเก็บกระเป๋าไปรวมไว้ที่ห้องชั้น 5 มีการเดินทางออกไปเพราะบุคคลที่นัดหมายมารับนั้น ไม่พบตัว และทางโรงแรมในเบื้องต้นให้ข้อมูลว่าไม่มีการชำระค่าใช้จ่าย
ผบช.น. ระบุว่า เชื่อว่าเสียชีวิตหลังจากเวลา 13.53 น. เพราะเมนูอาหารที่สั่ง มีลักษณะเป็นอาหารจานเดียว 6 จานวางอยู่ในห้องรับแขก และมีถ้วยเครื่องดื่มลักษณะคล้ายการผสมเครื่องดื่มอีก 6 ถ้วย วางอยู่ที่จัดเตรียม 5 ถ้วย และอยู่บนโต๊ะ 1 ถ้วย และมีเศษตกค้างบนถ้วย ทาง สพฐ. ได้เก็บไว้หมดแล้ว ตรงกับผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย
( ภาพอาหารมื้อสุดท้าย )
ที่สำคัญ เอฟบีไอ FBI หรือ เจ้าหน้าที่จากหน่วยสอบสวนกลางสหรัฐอเมริกา ได้เข้ามาร่วมตรวจสอบยังโรงแรมที่เกิดเหตุ ทั้งที่ตำรวจไทยไม่ได้แจ้งหรือร้องขอ โดยอ้างเหตุผลว่าเนื่องจากมีชาวอเมริกันเสียชีวิต และเจ้าหน้าที่FBI ต้องการขอดูที่เกิดเหตุ แต่ฝ่ายไทยยังไม่อนุญาต
ข้อสังเกตและปมปริศนาความแปลกประหลาด การเสียชีวิตทั้ง 6 ศพ
- คนกลุ่มนี้เดินทางมาจากเวียดนาม แต่คนละเที่ยวบิน และเข้าห้องพักคนละเวลากัน
- ข้อมูลการจองห้องพัก จองสำหรับ 7 คน แต่เช็คอิน 5 คน และเสียชีวิต 6 คน
- ทั้งหมดเสียชีวิตในห้องพักของคนเวียดนามสัญชาติอเมริกัน ในลักษณะเรียกให้ไปรวมตัวกัน แล้วฆาตกรรม
- ตำรวจได้ข้อมูลพาสปอร์ต หรือหนังสือเดินทางทั้งหมดแล้ว กำลังตรวจสอบปูมหลังของแต่ละคน แต่เบื้องต้นชัดเจนว่าไม่ได้มาท่องเที่ยว และไม่ได้มาทำธุรกิจ เนื่องจากเข้าเช็คอินที่โรงแรมวันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค.
และกำหนดเช็คเอาต์ วันจันทร์ที่ 15 ก.ค. คาดว่าเสียชีวิตเวลาราวๆ หลัง 4 โมงเย็นของวันที่ 15 ก.ค. เพราะมีการใช้โทรศัพท์ครั้งสุดท้ายเวลาประมาณก่อน 16.00 น. ส่วนอาหารทั้งหมดสั่งมารับประทานตั้งแต่วันที่ 15 และมีร่องรอยการดื่มน้ำชา กาแฟ
- คนทั้งหมดไม่ได้มาประเทศไทยเพื่อเสียชีวิต ไม่ได้ตั้งใจมาตายในไทย แต่น่าจะมีการทำให้ตาย
ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่เกิดเหตุชาวต่างชาติเสียชีวิต 6 ราย ภายในโรงแรมชื่อดังย่านราชประสงค์ โดยระบุว่า ก็รับฟังสรุปจากผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แต่ยังไม่มีผลสรุปอย่างเป็นทางการ ก็ต้องรอทางตำรวจแถลงอย่างเป็นทางการ
เมื่อถามว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ท่านก็เป็นห่วง และท่านได้มาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเรื่องของการชันสูตรพลิกศพ หรือการเก็บพิสูจน์หลักฐานต่างๆ ก็ต้องรอตามขั้นตอน เพราะเหตุพึ่งเกิด และเพื่อให้ทำทุกอย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นขั้นตอนที่มีรายละเอียด ซึ่งเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่ถือว่าสะเทือนขวัญ จึงจะต้องรอให้ข้อมูลนั้นนิ่งก่อน
เมื่อถามว่าจะมีการกำชับอะไรในหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ต้องกำชับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่นอกเหนือการควบคุมใดๆ ไม่ใช่เรื่องการทะเลาะวิวาท หรือการฆาตกรรมด้วยสาเหตุที่มีความขัดแย้งกันแต่อย่างใด หากสรุปสั้นๆ ก็คือ “ณ วินาทีนี้ ดูเหมือนเป็นการทำร้ายตัวเอง แต่ก่อนที่จะไปพูดอะไรก็ให้ตำรวจใช้ขั้นตอนการพิสูจน์หลักฐาน และรอการแถลงดีกว่า”
ส่วนจะทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเสียหายหรือไม่นั้น นายอนุทิน ระบุว่า เรื่องนี้ประเทศไทยไม่ได้มีอะไรเสียหาย ผู้เสียชีวิตก็เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา และไม่ได้ถูกคนไทยทำร้าย เราต้องแยกแยะ อย่าไปด่วนสรุปแบบนั้น ประเทศเรากำลังมาดีๆ นักท่องเที่ยวกำลังเข้ามาในประเทศ กำลังสร้างรายได้ให้กับเราอย่างมหาศาล จึงขออย่าพึ่งไปด่วนสรุป
“ผู้เสียชีวิตก็เป็นคนแวดวงเดียวกัน มาด้วยกัน อยู่ในห้องเดียวกัน ซึ่งดูแล้วเบื้องต้นก็ไม่มีใครเข้าไปลอบทำร้าย หรือใช้อาวุธใดๆ เขาคงมี Mission ของเขาอะไรบางอย่าง ซึ่งตรงนี้ก็ต้องรอการพิสูจน์"
เมื่อถามว่าการมีนักท่องเที่ยวเข้ามาพร้อมกันหลายคน และเกิดการเสียชีวิตถือว่าเป็นความผิดปกติอะไรหรือไม่ นายอนุทิน ย้ำว่า ก็ต้องรอ เพราะตอนนี้เราทราบแล้วว่า กลุ่มดังกล่าวมีการเดินทางเข้ามาในประเทศหลายครั้ง การเดินทางเข้าประเทศไทยก็ปกติทุกอย่าง เราก็ต้องดูสถานที่เกิดเหตุ และหน่วยพิสูจน์หลักฐานก็จะดูพื้นที่อย่างละเอียด
ทั้งนี้ รายละเอียดอื่นๆ ยังไม่ทราบ ซึ่งตนเองอยู่ในพื้นที่พอดี จึงเดินทางมาตรวจสอบว่ามีอะไรที่จะกระทบเรื่องการท่องเที่ยวหรือมีขบวนการก่อการร้ายหรือไม่ แต่ในเบื้องต้น ไม่ใช่ ก็ถือว่ายังไม่มีอะไรที่คนปกติทั่วไป หรือประชาชนจะต้องตื่นตระหนก เพราะเหตุการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมทุกอย่าง