- 26 ก.ค. 2567
พบแล้ว "นายยอดรัก" หายตัวออกจากบ้านนานกว่า 5 วัน ญาติโพสต์ตามหาตั้งแต่วันอาทิตย์ ล่าสุดเจออยู่บ่อหลังบ้านญาติ
จากที่ก่อนหน้านี้ ญาติๆ ได้โพสต์ประกาศตามหาคนหายคือ นายยอดรัก แป้นเพชร ที่หายตัวไปตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2567 โดยใช้รถมอเตอร์ไซค์ ฮอนด้าเวฟ แดงดำ ทะเบียน 5462 หายออกไป ทั้งนี้โพสต์ดังกล่าวคนในพื้นที่ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ต่างแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่า พบตัว นายยอดรัก แล้ว
ตามรายงานจากตำรวจ สภ.ท่าตะโก ที่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยท่าตะโก ระบุว่า ได้นำทีมนักประดาน้ำมางมน้ำในบ่อใหญ่ พื้นที่หมู่ 4 ต.ท่าตะโก อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ เพื่องมหาร่างผู้สูญหาย ตามที่นางประยงค์ แป้นเพชร 76 ปี ชาวบ้านได้ร้องขอให้ช่วยตามหาลูกชาย คือ นายยอดรัก อายุ 53 ปี ซึ่งหายออกจากบ้านไปประมาณ 5 วัน
โดยญาติๆ ต่างสงสัยว่าน่าจะถูกล่อลวงไป แล้วนำศพมาอำพรางไว้ภายในบ่อน้ำ ซึ่งปรากฏว่า พบร่างของผู้เสียชีวิตจริง โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงงมพบศพก่อนจะประสานตำรวจ และแพทย์เวรโรงพยาบาลให้มาตรวจสอบ ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่าที่เกิดเหตุเป็นบ่อน้ำ สำหรับการเกษตรขนาดใหญ่ของชาวบ้าน และบ่อดังกล่าวอยู่ห่างจากบ้านของนายยอดรัก คนตายประมาณ 1 กิโลเมตร
จากการตรวจสอบสภาพศพ พบว่าร่างเน่าเปื่อย อยู่ในชุดสวมเสื้อและกางเกงยีนส์ขาสั้นดีดำ ถูกเชือกมัดติดเอาไว้กับรถไสเข็นของ รวมถึงมีถุงบรรจุ อิฐ หิน และ ปูน มัดไว้ที่ร่าง เพื่อถ่วงน้ำหนักในการนำศพมาอำพรางอีกทีด้วย และทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุนำศพถ่วงน้ำในครั้งนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน กลับเป็นญาติห่างๆ ของผู้เสียชีวิตที่มีอาการทางประสาท คือ นายรุ่ง อายุ 54 ปี
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ที่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากบ่อน้ำที่พบศพเพียง 50 เมตรเท่านั้น ส่วนคำให้การขณะนี้ ยังอยู่ในระหว่างการสอบปากคำ ซึ่งเจ้าตัวยังให้การวกไปวนมา จนหาจับความจริงทั้งหมดแทบไม่ได้ แต่ในเบื้องต้น ทราบว่า เกิดมาจากเรื่องที่ผู้เสียชีวิตหึงหวงหญิงสาวรายหนึ่งในพื้นที่ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์
โดยมีการระบุว่า ทั้งผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุ ได้ไปหลงรักหญิงคนเดียวกัน จนเกิดความหึงหวง และในวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 คือวันที่นายยอดรักเสียชีวิต ซึ่ง นายยอดรัก ได้มีการไปพบเจอกับนายรุ่ง ที่บ้าน แล้วมีการบังคับให้คนก่อเหตุรับสารภาพในเรื่องหลงรักหญิงสาวคนเดียวกัน จนกลายเป็นเหตุการสลดใจดังกล่าว
เนื่องจากผู้ก่อเหตุระบุว่า ถูกบีบคั้นบังคนจนทนไม่ได้ จึงได้ใช้ของแข็งทุบจนเสียชีวิตคาบ้าน ก่อนจะมีการนำร่างไปมัดเอาไว้กับรถไสเข็นของแล้วนำศพไปทิ้งในบ่อน้ำด้านหลังบ้าน อีกทั้งผู้ก่อเหตุยังบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ตั้งแต่ที่ลงมือแล้วนำศพไปโยนทิ้งน้ำ ก็หมั่นเพียรไปนั่งเฝ้ามองดูศพ นายยอดรักตลอด เพราะกลัวความผิดที่ก่อขึ้น
อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ นายรุ่งยังบอกอีกด้วยว่า เห็นศพ นายยอดรัก มีการลอยอืดขึ้นมา 2 ครั้ง จึงได้ใช้มืดไปไล่จ้วงแทงซ้ำ หวังจะให้น้ำในบ่อซึมซับร่างของผู้เสียชีวิต ในการใช้ถ่วงน้ำหนัก รวมถึงยังมีการนำของหนักไปมัดถ่วงเสริมไว้ที่ร่างของผู้เสียชีวิตอีกด้วย
ภาพจาก มูลนิธิกู้ภัยร่มไทร