- 07 ส.ค. 2567
ครอบครัวแจ้งข่าวเศร้า "น้องลูกหยี" เสียชีวิตแล้ว หลังหมดสตินานกว่า 1 เดือน จากอุบัติเหตุรถนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งขับตกข้างทาง
จากกรณีที่ รถนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดน่าน ประสบอุบัติเหตุขับตกลงข้างทาง ทำให้มีนักเรียนบาดเจ็บสาหัสหลายราย หนึ่งในนั้นคือ "น้องลูกหยี ปานดาว พลจันทร์" ที่มีอาการบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เช้าวันที่ 4 ก.ค. 2567 จนถึงวันที่ 26 ก.ค. 22 วันแล้ว น้องยังไม่ฟื้นคืนสติ และหายใจเองยังไม่ได้ ต้องใช้เครื่องช่วยให้มีออกซิเจนเข้าปอดตลอดเวลา
ทว่าล่าสุดครอบครัวได้แจ้งข่าวเศร้าว่า "น้องลูกหยี" เหยื่อรถตู้ตกข้างทางได้เสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งทางครอบครัวของน้องได้โพสต์ข้อความไว้อาลัยต่อการจากไปของ "น้องลูกหยี" เอาไว้ว่า "หนูจะอยู่ในความทรงจำของพี่และพอใจตลอดไปนะ ขอบคุณหนูนะที่ร่วมทุกข์ ร่วมสุขมาด้วยกัน
ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้โตมาด้วยกัน อย่างน้อยพี่ก็ได้มีโอกาสทำหน้าที่พี่สาวคนหนึ่งดูแลหนูเท่าที่จะทำได้ โชคดีจังเลยเนอะที่ยังได้ใช้ชีวิตด้วยกัน สุดท้ายนี้พี่อยากให้หนูอโหสิกรรมให้ซึ่งกันแหละกันนะ หนูไม่ต้องห่วงอะไรแล้วนะบนโลกใบนี้มันคงโหดร้ายเกินไปสำหรับหนู ไปสบายนะน้องพี่ พี่ไม่เคยบอกรัก แต่พี่รักหนูเสมอมา รักแบบไม่แสดงออกด้วยคำพูดและรักจากใจจริงด้วยการกระทำ
ฝันดีนะ ปานดาว พลจันทร์ น้องสาวของปานตะวัน รักและรักตลอดไป เดินทางกลับดาวให้ปลอดภัยนะไอ้ตูดหมึก หวังว่าหนูมองจากบนฟ้าลงมาก็คงจะคิดถึงพี่กับพอใจนะ"
ทั้งนี้หลังจากที่ "น้องลูกหยี" ประสบอุบัติเหตุดังกล่าว ด้านพี่ชายของ "น้องลูกหยี" ได้ออกมาโพสต์ถึงเหตุการณ์นี้ว่า "ข่าวรถนักเรียนประสบอุบัติเหตุ ในจังหวัดน่าน มีนักเรียนบาดเจ็บสาหัสซึ่งเป็นน้องของผมเอง น้องลูกหยี ปานดาว พลจันทร์ เป็นน้องคนสุดท้องของพวกเราพี่ๆ ทั้ง 3 คน ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้เกิดจาก ความประมาท ละเลย ของผู้ใหญ่แบบเราเพราะเราชอบใช้คำว่า "แค่นี้" แค่นิดหน่อย แค่แป๊บเดียว
แต่คำว่า "แค่นี้" ที่เรา ปล่อยปะละเลยมันกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ในตอนนี้
ก็รถนักเรียนในจังหวัดน่านเรา มี"แค่นี้""
คนขับ "แค่" ประมาท "แค่"วูบเดียว
อวัยวะภายในน้องดีหมด น้อง"แค่"ไม่หายใจ
น้อง "แค่" ขาดออกซิเจนเลี้ยงสมอง
น้อง "แค่" ขาดออกซินเจนไป 12 นาที
คำว่า"แค่" ที่หมายถึงความเป็นหรือความต...ย มันยังดูเล็กอยู่อีกมั้ย
ก็ "แค่"
ตั้งแต่วันเกิดเหตุ เช้าวันที่ 4 ก.ค. จนถึงวันนี้ วันที่ 26 ก.ค. 22 วันแล้ว น้องยังไม่ฟื้นคืนสติ และหายใจเองยังไม่ได้ ต้องใช้เครื่องช่วยให้มีออกซิเจนเข้าปอดตลอดเวลาให้ยากระตุ้น ให้หัวใจ ทำงานตลอดเวลา อาการน้องยังไม่มีคำว่า "ยินดีด้วย น้องอาการดีขึ้น" ผมไม่รู้ว่าน้องจะเป็นยังไงต่อ อาการแต่ละวันต้องบอกว่า "ไม่คงที่"
มันเกิดเป็นคำถามในใจที่ว่า ทำไมบ้านเมืองเรา ชอบจุกจิกเรื่องพิธีการ จุกจิกกับเรื่องเอกสารต้องเคาะ วรรค ให้ตรง ไปร่วมงานถ่ายรูปรึยัง จุกจิกว่า นี่เขตพื้นที่ฉัน นั่นเขตพื้นที่เธอ แต่กับเรื่องที่ควรใส่ใจ กลับถูกมองข้ามละเลย แล้วกลายเป็นว่าเรา "เรื่องเยอะ" หาว่าเรา "ย่อย" เมื่ออยาก "ป้องกันไว้ก่อน" และกลายเป็นเรื่องที่ไม่ถูกกวดขันอย่างเข้มงวด
เยาวชนเขาไม่รู้หรอกครับ ว่าเขาต้องระวังแบบไหน ต้องป้องกันแบบไหน ถ้า"ผู้ใหญ่"อย่างพวกเราไม่บอก ไม่สอน ไม่กำกับดูแล เราจะอยู่กันต่อไปแบบนี้ จริงๆ หรอ วัวหายค่อยล้อมคอกแบบนี้หรอ เราจะไม่พัฒนาไปกว่านี้แล้วจริงๆ หรอ เราจะทำงานแบบ passive ไม่ active ต่อไปหรอ เรามองเห็น Hazzard เห็นภาวะ Swiss Cheese Model แต่จะไม่ป้องกันจริงๆ หรอทั้งนี้ต้องขอขอบคุณ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ใส่ใจในเรื่องที่เกิดขึ้น"
อย่างไรก็ตามยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า รถโรงเรียนมีกฎบังคับใช้ ต้องบรรทุกนักเรียนได้ไม่เกิน 12 คน แต่พบว่าในที่เกิดเหตุ มีการระบุจำนวนผู้บาดเจ็บจากทางโรงพยาบาลน่านถึง 17 คน รวมผู้ขับ (ในรถตู้รถโรงเรียน)