- 14 ส.ค. 2567
จากกรณีประเด็นถกเถียงเรื่องช้างป่าเขาใหญ่พังรถนักท่องเที่ยวรายหนึ่งที่เป็นไวรัลในโลกออนไลน์ ล่าสุดเจอต้นเหตุที่แท้จริง ฝีมือมนุษย์
จากกรณีสาวนักท่องเที่ยวโพสต์คลิปช้างป่าเขาใหญ่พังรถที่จอดอยู่ โดยขณะไปเที่ยวบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จู่ๆมีช้างป่าเข้ามางัดรถเก๋งพังจนพลิกคว่ำ สุดท้ายได้เจ้าหน้าที่อุทยานเข้ามาช่วยเหลือ ผลักดันเจ้าช้างป่าเขาใหญ่กลับเข้าป่า ซึ่งในคลิปมีเสียงคนบอกว่า พื้นที่ดังกล่าวเขาห้ามจอดรถ ทำเอาคอมเมนต์ในโลกออนไลน์เสียงแตก
ต่อมา เจ้าของคลิปได้ชี้แจงว่า "ขอแจงเรื่องนี้ค่ะ ก่อนจะเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่มาดูแลความปลอดภัยแล้วและตรงนั้นก็ไม่ได้มีป้ายบอกว่าเป็นที่ที่ห้ามจอดเพราะเป็นหน้าบ้านพัก เจ้าหน้าที่มาเตือนบอกเพียงว่าอาจจะมีน้องช้างลงมาหากินเพราะเมื่อวานน้องก็ลงมาและเจ้าของรถคันนี้ก็ไม่ได้อยู่ตอนที่เจ้าหน้าที่บอก
ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จอดรถดูแลความปลอดภัยนานมากเกือบๆ 2 ชม. จนแน่ใจว่าน้องช้างคงไม่น่าลงมาแล้ว ก็เลยขับออกไป แต่หลังจากนั้นไม่นานน้องลงมาจากป่าจริงๆด้วยประมาณ 5 ตัว น่าจะลงมาหาไรกินตามปกติ ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตกใจมาก
เพราะจะมีแค่คนที่มาพักบ้านเท่านั้น ต่างคนก็หยิบมือถือถ่ายปกติ คิดแค่ว่าน้องแค่เดินลงมาแล้วก็จะเดินผ่านเข้าป่าไปเอง แต่มันไม่ใช่แบบนั้น น้องช้างก็เดินตรงมาดมๆที่รถเพราะรถคันนี้อยู่ใกล้น้องที่สุดแล้วก็เหตุการณ์ ก็เกิดขึ้นตามคลิปเลย ซึ่งเจ้าของรถน่าจะพักผ่อนอยู่ในห้องพักไม่รู้เรื่องเลยด้วยซ้ำรู้อีกทีตอนรถหงายไปแล้ว ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่มีใครผิดใครถูก เป็นเหตุสุดวิสัยที่ทุกคนไม่คาดคิดมาก่อน และก็ไม่อยากให้เกิดด้วย ถ้าจะคิดว่าเป็นภัยธรรมชาติก็ว่าได้
น้องไม่ได้ดุร้ายทำร้ายใคร ทุกคนตรงนั้นปลอดภัยไม่มีใครได้รับอันตรายใดๆ น้องอาจจะแค่หิวแล้วจังหวะเดินผ่านใกล้รถพอดี ปล.อย่าดราม่าว่าใครเป็นคนผิดเลยค่ะ เราไปเที่ยวในที่ที่เป็นธรรมชาติสร้างมา ต่อไปเราก็แค่ระวังตัวให้มากขึ้นเท่านั้นเองค่ะ"
ล่าสุด หัวหน้าอุทยาน ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นและเผยต้นตอที่แท้จริงที่ทำให้ช้างป่าพังรถคันนี้ว่า "สาเหตุคือมีกลุ่มนักท่องเที่ยวบางกลุ่มซึ่งไม่ใช่นักท่องเที่ยวเจ้าของรถ แอบประกอบอาหารในที่พักด้านบน ทั้งที่มีกฎระเบียบห้ามประกอบอาหาร ทำให้กลิ่นลอยตามอากาศ ช้างป่าได้กลิ่นเลยออกมาตามหา และเมื่อเจอรถคันนี้ก็อาจเกิดความสับสนและพยายามรื้อหาของกินนั่นเอง"