- 15 ส.ค. 2567
หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าหน่วยโรคระบบทางเดินหายใจ หัวหน้าห้อง ICU โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เผยเคสผู้ป่วย วัย 67 เป็นลมหมดสติ เตือน โรคนี้กำลังระบาดหนัก
"หมอมนูญ" หัวหน้าหน่วยโรคระบบทางเดินหายใจ หัวหน้าห้อง ICU โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ระบุว่า ผู้ป่วยชายอายุ 67 ปี ปกติแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัว ได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่เมื่อ 2 เดือนก่อน 1 สัปดาห์ก่อนเริ่มไอ มีไข้ต่ำๆ ปวดหัว อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ขณะที่นั่งทานอาหาร หน้ามืด เป็นลมหมดสติ 2 นาทีที่บ้าน
ไปห้องฉุกเฉิน เอกซเรย์ปอดพบฝ้าขาวที่ปอดด้านบนข้างขวาเล็กน้อย เจาะเลือดเม็ดเลือดขาวต่ำ 2,200 ทำคลื่นหัวใจพบหัวใจเต้นพลิ้ว Atrial Fibrillation (AF) ผู้ป่วยปฏิเสธการนอนในโรงพยาบาล กลับไปกินฟ้าทะลายโจร
มาตรวจอีกครั้งวันที่ 12 สิงหาคม 2567 อุณหภูมิ 37.3 องศาเซลเซียส หัวใจยังเต้นผิดปกติ 110 ครั้ง/นาที ระดับออกซิเจนที่ปลายนิ้ว 95% ฟังปอดปกติ ทำเอกซเรย์ปอดฝ้าขาวด้านขวาบนหายไปเอง เจาะเลือดเม็ดเลือดขาวขึ้น 10,810 ตรวจคลื่นหัวใจ หัวใจยังเต้นพลิ้ว AF ทำคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ Echocardiogram หัวใจทำงานปกติ แยงจมูกตรวจรหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัส พบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A
วินิจฉัย: ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ทำให้ปอดอักเสบ และหน้ามืดเป็นลมจากหัวใจเต้นพลิ้ว AF
ให้ยาต้านไวรัส Xofluza ( Baloxavir) 20 มก.กินเพียง 2 เม็ดทันที และให้ยา amiodarone รักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจกลับมาเต้นปกติ คนไข้ดีขึ้น นอนในรพ. 1 คืน กลับบ้านได้ ผู้ป่วยรายนี้ได้รับการวินิจฉัยและรักษาไข้หวัดใหญ่ค่อนข้างช้า 1 สัปดาห์หลังเริ่มป่วย
ไวรัสไข้หวัดใหญ่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ก่อให้เกิดอันตรายต่อหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น หัวใจเต้นผิดจังหวะ หน้ามืด เป็นลมหมดสติได้อย่างผู้ป่วยรายนี้
ช่วงนี้มีการระบาดหนักของไข้หวัดใหญ่ แนะนำให้ทุกคนรีบไปรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพื่อลดความรุนแรงของโรค ไม่ได้ฉีดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ถ้าติดเชื้อต้องรีบวินิจฉัย และเริ่มยาต้านไวรัสให้เร็วภายใน 1-2 วันหลังป่วย