- 23 ส.ค. 2567
เฝ้าระวัง ระดับน้ำแม่น้ำโขง เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบช่วงวันที่ 25 - 31 สิงหาคม 2567 พร้อมรับมือน้ำท่วมริมแม่น้ำโขง ในพื้นที่บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
ประกาศเตือน น้ำโขงเพิ่มขึ้น สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เตือน เฝ้าระวัง ผลกระทบจากระดับน้ำแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้น ช่วงวันที่ 25 - 31 สิงหาคม 2567 พร้อมรับมือน้ำท่วมริมแม่น้ำโขง ในพื้นที่จังหวัด บึงกาฬ-หนองคาย-นครพนม
โดย สทนช. สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ติดตามสถานการณ์แม่น้ำโขง เนื่องจากฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และ สปป.ลาว ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้น ในช่วงวันที่ 25 - 31 สิงหาคม 2567 บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ประมาณ 0.5 - 1.0 ม.
จึงขอให้เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นและเตรียมรับมือจากสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและท่วมขังบริเวณริมแม่น้ำโขง และริมลำน้ำบางสาขาของประเทศไทยที่ไม่สามารถระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงได้โดยสะดวก
โดย นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)เปิดเผยว่า เนื่องจากช่วงนี้มีปริมาณฝนตกชุกในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงบริเวณประเทศเมียนมาร์ ไทย และลาว ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สทนช. ในฐานะผู้แทนประเทศไทยในคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) มีประเทศสมาชิกประกอบด้วยประเทศลาว เวียดนาม กัมพูชา และไทย และยังมีประเทศเมียนมาร์และจีนที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงด้วย โดย สทนช. เป็นผู้ประสานงานหลักของฝ่ายไทย ในวันนี้จึงได้มาตรวจติดตามสถานการณ์น้ำและความพร้อมสถานีวัดระดับน้ำริมแม่น้ำโขงจุดต่างๆ
ซึ่งจะต้องรายงานข้อมูลระดับน้ำให้ MRC ได้รับทราบทุกวันเวลา 07.00 น. เพื่อนำเข้าแบบจำลองประเมินสถานการณ์น้ำและการคาดการณ์ในภาพรวมรายงานให้ประเทศสมาชิกได้ทราบ
สำหรับประเทศไทย สทนช.จะเป็นผู้รับข้อมูลและกระจายส่งต่อให้หน่วยงานและประชาชนในพื้นที่ริมแม่น้ำโขงได้รับทราบสถานการณ์น้ำเพื่อดำเนินการต่อไป จากการลงพื้นที่วันนี้พบว่า สถานีวัดระดับน้ำหลายจุดใน จ.หนองคาย ยังต้องเฝ้าระวังเนื่องจากการคาดการณ์ ของ MRC ระดับน้ำที่สถานีหนองคาย ต่ำกว่าระดับเตือนภัยเพียง 14 ซม.
คาดว่าอีก 4 วันระดับน้ำจะเพิ่มสูงถึงระดับตลิ่ง จึงขอให้หน่วยงานต่างๆ เตรียมการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ล่วงหน้า เช่น เร่งปิดทางระบายน้ำในจุดที่มีพื้นที่ต่ำเพื่อป้องกันน้ำโขงล้นเข้าพื้นที่ชุมชน พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องมือเตือนภัยระดับน้ำเพิ่มในทุกจุด และได้ขอให้วางแผนช่วยเหลือชุมชนและประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำหากเกิดอุทกภัย นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำกับทุกหน่วยงานคือให้เพิ่มประสิทธิภาพการแจ้งเตือนภัยและสร้างเครือข่ายการประชาสัมพันธ์ โดยต้องมีข้อมูลคาดการณ์ล่วงหน้าที่แม่นยำเพื่อประชาชนสามารถเตรียมตัวล่วงหน้าได้ทัน
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดบึงกาฬ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงบริเวณลำน้ำสาขาห้วยฮี้ ต.โป่งไฮ อ.เซกา พบว่าเป็นน้ำท่วมขังส่งผลกระทบพื้นที่การเกษตรลุ่มต่ำ ซึ่งไม่สามารถระบายน้ำลงสู่แม่น้ำสงครามได้ นอกจากนี้ในพื้นที่ อ. เมืองบึงกาฬ ซึ่งเคยมีน้ำท่วมบริเวณศาลากลางจังหวัดเป็นประจำทุกปี ในปีนี้กรมชลประทานได้ก่อสร้าง ปตร.ห้วยกำแพงแล้วเสร็จ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยลดอุทกภัยในพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ