"น้ำท่วม ปี67"ไม่รุนแรงเท่าปี 54 ห้ามประมาท จับตาพายุอีก2ลูก ก.ย.- ต.ค.นี้

น้ำท่วม 2567 สทนช.เชื่อสถานการณ์ปีนี้ไม่รุนแรงเท่าปี 54 แต่ต้องไม่ประมาทพายุจรช่วง ก.ย. - ต.ค. อยู่ระหว่างเปลี่ยนผ่านเข้าลานีญา คาดยังมีพายุอีก 2 ลูกช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.

อัปเดตสถานการณ์"น้ำท่วม"ล่าสุด ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทยในขณะนี้ ทำให้เกิดข้อกังวลของพี่น้องประชาชนว่าสถานการณ์จะมีความรุนแรงเทียบเท่ากับที่เคยเกิด น้ำท่วม ปี2554 และจะส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก สทนช. จึงได้รวมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นโดยวิเคราะห์ เปรียบเทียบแนวโน้มความเสี่ยงอุทกภัยระว่าง 3 ปี ได้แก่ 

ปี 2554 ปี 2565 และ ปี 2567 ในประเด็นต่างๆ ดังนี้ การประเมินพายุจรที่พัดผ่านเข้าประเทศไทย พบว่า ในปี 2554 มีพายุพัดผ่านเข้าไทย จำนวน 5 ลูก  ในปี 2565  มีพายุพัดผ่านเข้าไทย จำนวน 1 ลูก ได้แก่ พายุโนรู (เดือน ก.ย.) และยังได้รับอิทธิพลจากพายุดีเปรสชันและไต้ฝุ่นที่เข้ามาบริเวณประเทศเพื่อนบ้าน

\"น้ำท่วม ปี67\"ไม่รุนแรงเท่าปี 54 ห้ามประมาท จับตาพายุอีก2ลูก ก.ย.- ต.ค.นี้

สำหรับปี 2567 คาดการณ์ว่าจะมีพายุพัดผ่านเข้าประเทศไทย จำนวน 2 ลูก โดยมีโอกาสสูงที่จะเคลื่อนผ่านบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือในช่วงเดือนกันยายนหรือตุลาคม เมื่อเปรียบเทียบปริมาณฝนสะสม  พบว่า ปี 2554 ฤดูฝนในประเทศไทยเริ่มต้นเร็วกว่าปกติและมีฝนตกสะสมต่อเนื่อง โดยไม่มีภาวะฝนทิ้งช่วง ปริมาณฝนเฉลี่ยทั้งปีสูงกว่าค่าปกติ 24% และมีค่ามากที่สุดในคาบ 61 ปี (นับจาก พ.ศ.2494) ในปี 2565 มีปริมาณฝนเฉลี่ยทั้งประเทศ 1,876 มม. สูงกว่าค่าปกติ 27% หรือมากที่สุดเมื่อเทียบกับข้อมูลในอดีตย้อนหลัง 40 ปี

\"น้ำท่วม ปี67\"ไม่รุนแรงเท่าปี 54 ห้ามประมาท จับตาพายุอีก2ลูก ก.ย.- ต.ค.นี้

ซึ่งหมายรวมถึงมากกว่าปี 2554 ที่ประเทศไทยเกิดอุทกภัยร้ายแรง แต่ในปี 2565 กลับพบว่าสถานการณ์อุทกภัยไม่รุนแรงและยาวนานเหมือนปี 2554 สำหรับปี 2567 ณ เดือนสิงหาคมนี้ปริมาณฝนในภาพรวมของประเทศไทย ยังคงต่ำว่าค่าปกติ ร้อยละ 4 และต่ำกว่า ปี 2554 

 

เมื่อเปรียบเทียบศักยภาพในการรองรับน้ำของ 4 เขื่อนหลัก ณ วันที่ 24 ส.ค. ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อยบำรุงแดน และป่าสักชลสิทธิ์ พบว่า ปี 2554 สามารถรองรับได้ 4,647 ล้าน ลบ.ม.

\"น้ำท่วม ปี67\"ไม่รุนแรงเท่าปี 54 ห้ามประมาท จับตาพายุอีก2ลูก ก.ย.- ต.ค.นี้

ส่วน ปี 2565 สามารถรองรับ 11,929 ล้าน ลบ.ม. สำหรับปี  2567 ยังสามารถรองรับน้ำได้อีก 12,071 ล้าน ลบ.ม. เมื่อดูที่ปริมาณน้ำท่า ณ วันที่ 24 ส.ค. พบว่า ปี 2554 สถานี C.2 มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,284 ลบ.ม./วินาที (ค่าสูงสุด 4,689 ลบ.ม./วินาที) และการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา (C.13) 1,832 ลบ.ม./วินาที (ค่าสูงสุด 3,726 ลบ.ม./วิ)

\"น้ำท่วม ปี67\"ไม่รุนแรงเท่าปี 54 ห้ามประมาท จับตาพายุอีก2ลูก ก.ย.- ต.ค.นี้

ในปี 2565 สถานี C.2 มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,582 ลบ.ม./วินาที (ค่าสูงสุด 3,099 ลบ.ม./วินาที) และการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา (C.13) 1,500 ลบ.ม./วินาที (ค่าสูงสุด 3,169 ลบ.ม./วินาที) สำหรับปี 2567 ปริมาณน้ำท่ายังคงอยู่ในการควบคุมและเป็นไปตามแผน กล่าวคือ ที่สถานี C.2 มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 837 ลบ.ม./วินาที (คาดว่าจะสูงสุด 2,860 ลบ.ม./วินาที) และการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา (C.13) 499 ลบ.ม./วินาที (คาดว่าสูงสุด 2,700 ลบ.ม./วินาที) 

 

“เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ปรากฏการณ์เอนโซ จากสภาวะเอลนีโญสู่สภาวะลานีญา ประกอบกับอิทธิพลของมรสุมทำให้เกิดฝนตกหนักสะสมในพื้นที่ต่างๆ  และส่งผลให้เกิดน้ำหลากในหลายพื้นที่ จากการติดตามประเมินสถานการณ์และแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอย่างใกล้ชิดของหน่วยงานต่างๆ พบว่า ปริมาณฝนตกในทุกพื้นที่ขณะนี้ระดับความรุนแรงยังเทียบไม่ได้กับปี 2554

 

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้าระวังและเตรียมแผนบริหารจัดการกรณีเกิดพายุที่อาจจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยด้วย สำหรับผลกระทบและความเสียหายที่ประชาชนได้รับขณะนี้ จะขอให้หน่วยงานต่างๆ พิจารณาใช้งบกลางปี 2567 ในการแก้ไขปัญหาและเข้าให้ความช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เนื่องจาก สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นลักษณะของน้ำหลากทะลักเข้าท่วมในพื้นที่อย่างฉับพลันเกินกว่าจะทันตั้งตัว ทั้งนี้ หน่วยงานต่างๆ ก็ได้มีกลไกในการดำเนินการอยู่แล้วในลักษณะการตั้งรับปัญหาไว้ล่วงหน้า ซึ่งจะเร่งเข้าแก้ไขให้สถานการณ์กลับสู่ปกติโดยเร็วต่อไป”