รวบอดีตทหารเปิดคลินิกทำแท้ง สวมรอยเป็นหมอ 20 ปี ลั่นไม่เคยหลับเต็มตา

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2567  สืบนครบาล ได้บุกรวบหมอเก๊คาเตียงคนไข้ โดยพบว่าเป็นอดีตทหารเรือ เปิดคลินิกทำแท้งเถื่อน  ในซอยเพชรบุรี 31 เขตพญาไท กรุงเทพฯ ซึ่งขณะจับกุมได้กำลังทำการฉีดยาบางอย่างให้กับคนไข้บนเตียง เมื่อขอตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพ ไม่มีใบยืนยันว่าเป็นแพทย์

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายธนบูลย์ อายุ 55 ปี ในข้อหา "เป็นบุคคลประกอบอาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525" ตรวจพบประวัติเคยถูกดำเนินคดีในข้อหา "ทำให้ตนเองแท้งลูก" เมื่อ พ.ศ.2552 พื้นที่ สภ.บางปู สามารถจับกุมได้ บริเวณคลินิกเวชกรรมแพทย์ปัญญา ซ.เพชรบุรี 31 แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ

สืบเนื่องจากได้รีบการร้องเรียนจากพลเมืองดีในพื้นที่ว่า มีกลุ่ม "หมอเก๊" ลักลอบทำแท้งเถื่อน แฝงตัวอยู่ในคลินิกย่านถนนเพชรบุรี จึงได้สั่งการให้ บก.สส.บช.น. ส่งชุดสารวัตรแจ๊ะลงพื้นที่สืบสวน กระทั่งชุดสืบสวนสืบทราบว่า มีหมออดีตทหารเรือมีพฤติกรรมปลอมตัวเป็นหมอมาแฝงตัวอยู่ในคลินิกเวชกรรมแพทย์ปัญญาซ.เพชรบุรี 31 โดยมีประวัติเคยถูกดำเนินคดีเรื่องการทำแท้งตั้งแต่ปี 2552 แต่เจ้าตัวหลบหนีจนคดีหมดอายุความ

กระทั่งในวัน 6 ก.ย. 2567 เวลาประมาณ 15.00 น. สารวัตรแจ๊ะ นำกำลังเข้าไปถึงพบหมอเก๊รายนี้กำลังจะฉีดยาให้กับผู้ป่วยที่มารักษาอยู่บนเตียง โดยมีหญิงสาวสัญชาติเมียนมาร์เป็นพยาบาล จึงได้เรียกตรวจสอบ โดยตอนแรกหมอเก๊อ้างอย่างมั่นใจกับสารวัตรแจ๊ะว่ามีใบหมอถูกต้อง แต่เมื่อได้ตรวจสอบกับระบบออนไลน์ของแพทยสภากลับไม่พบข้อมูลใดของหมอเก๊รายนี้

จนต่อมาเจ้าตัวก็ยอมรับว่า "ปลอมเป็นหมอมา 20 ปี" โดยเริ่มเดินเส้นทางนี้มาตั้งแต่ถูกออกจากราชการตั้งแต่ปี 2547 จากการตรวจค้นคลินิกแห่งนี้พบว่าเปิดทำการมาเป็นเวลาหลายสิบปี ด้านบนเป็นห้องพักไข้สำหรับผู้ป่วย ซึ่งมีสภาพทรุดโทรม และชุดสืบสวนได้ตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์ของหมอเก๊รายนี้พบภาพถ่ายการตรวจภายในผู้หญิงจำนวนมาก มีภาพคนใข้บางรายถูกทำคลอดภายในคลินิกแห่งนี้ ชุดสืบสวนจึงทำการจับกุมตัวทันที

 

ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อหากล่าวหา โดยให้การว่า ในปี 2532 ตนจบการศึกษาระดับ ปริญญาตรี สาขา การพยาบาลและผดุงครรภ์ (บุรุษพยาบาล) จากนั้นเข้ารับราชการทหาร ติดยศ เรือตรี ตำแหน่ง นายทหารการแพทย์ ประจำอยู่ รพ.ชื่อดังใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี คอยดูแลทหารที่ป่วย ระหว่างนั้นปี 2547 ตนต้องการหารายได้เสริมโดยการไปนั่งปลอมเป็นหมอรับตรวจคนไข้ตามคลินิกหลังเลิกงาน จนปี 2552 ระหว่างที่ตนกำลังทำงานเสริมตรวจอยู่ที่คลินิก ได้มีหญิงท้องอายุครรภ์ 3 เดือน มาติดต่อเข้ารักษา ผู้หญิงท้องคนดังกล่าวต้องการมาทำแท้งลูก ตอนนั้นตนถูกจับกุมด้วยแต่ได้ประกันตัวและหลบหนีคดีจนคดีขาดอายุความ และตนก็ถูกออกจากราชการทหาร

โดยตลอดการหลบหนี 20 ปีที่ผ่านมา ตนก็ได้ปลอมเป็นหมอมารักษาคนไข้ตามคลินิกต่างๆ โดยเอาวิชาการรักษาคนไข้ตอนเป็นทหารมาใช้ ยอมรับว่าตลอดระยะเวลา 20 ปี ทุกๆวันที่ไม่สามารถนอนหลับเต็มตา เพราะมักจะฝันถึงเด็กเล็กๆ และมักจะรู้สึกว่ามีเด็กอยู่ข้างตัวตลอดเวลา เหมือนรู้สึกว่า เด็กที่ตนทำแท้งนั้น จะมาขอส่วนบุญส่วนกุศล ในบางครั้งจะระลึกและอธิฐานว่า ยอมรับว่าชีวิตไม่ค่อยประสบความสำเร็จในชีวิต ครั้งนี้ก็เช่นกัน ตนเริ่มจะมีอาชีพที่เป็นหลักเป็นแหล่งและมั่นคง ก็มาประกอบกิจการคลินิค โดยที่ตนรู้อยู่เต็มอกว่า เป็นระเบิดเวลาที่ตนนั่งทับไว้ รอการระเบิด และสิ่งที่ตนกลัวมาตลอดเวลา ก็เกิดขึ้นจริงๆ โดยภายหลังจับกุมตัวนำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.กล่าวว่า ไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา ผู้ต้องหาปลอมเป็นหมอเป็นเวลา 20 ปี คอยวินิจฉัยโรค รักษาคนไข้ มีความเสี่ยงต่อผู้เข้าการรักษา เพราะวิชาชีพหมอเป็นวิชาชีพเฉพาะทาง หากรักษาผิดพลาดอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ และฝากถึงสถานพยาบาลทุกแห่ง ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเบาะแสว่ามีบุคคลที่ไม่ใช่หมอมานั่งตรวจคนไข้ จะดำเนินการจับกุมทันที