ส่งข้อกระดาษคำตอบ "ครูเบญ" ให้กองพิสูจน์หลักฐาน สพฐ. ลั่น ต้องมีคนรับผิดชอบ

สพฐ. เผย ขณะนี้ได้ทำการส่งกระดาษคำตอบของครูเบญ ให้กองพิสูจน์หลักฐาน ให้ตำรวจช่วยตรวจสอบอีกครั้ง เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ

วันที่ 20 กันยายน 2567 หลังจากการเปิดเผยผลสอบ "ครูเบญ" ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กพฐ.ระบุว่า ผลสอบ "ครูเบญ" อายุ 24 ปี ผู้เสียหายกรณีการสอบบรรจุพนักงานราชการตำแหน่งครู ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) สระแก้ว ได้อันดับ 1 แต่ภายหลังชื่อกลับหายไป ไม่ผ่านเกณฑ์สอบบรรจุครู ทั้งภาค ก. และภาค ข.ไม่ติด 1 ใน 10 

 

ส่งข้อกระดาษคำตอบ ครูเบญ ให้กองพิสูจน์หลักฐาน สพฐ. ลั่น ต้องมีคนรับผิดชอบ

โดย ว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ผลสืบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ สพฐ. เสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังไม่สามารถออกมาแถลงได้ เนื่องจากต้องการให้หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง และต้องการให้ครูเบญมาร่วมแถลงด้วย

 

ส่งข้อกระดาษคำตอบ ครูเบญ ให้กองพิสูจน์หลักฐาน สพฐ. ลั่น ต้องมีคนรับผิดชอบ

 

แต่เนื่องจากครูเบญ ติดซ้อมรับปริญญาในช่วงนี้ จึงไม่สะดวก วันนี้จะส่งเอกสารทั้งหมดให้กับผู้บัญชาการพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส ขณะที่ผลสืบเบื้องต้นของสพฐ.พบว่าผลสอบของครูเบญ คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ทั้งภาค ก. และ ภาค ข.จริง และไม่ติด 1 ใน 10 ซึ่งให้ครูเบญยืนยันแล้ว 

 

สพฐ. ได้ส่งเอกสาร ทั้งข้อสอบ กระดาษคำตอบ ทั้งของครูเบญ และผู้ที่มีชื่อมาแทน ไปยังกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อให้ยืนยันว่าเอกสารเหล่านี้เป็นเอกสารจริงหรือไม่ อย่างไร เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญ มีเครื่องมือ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย จึงขอให้ช่วยตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ผลออกมาเป็นที่น่าเชื่อถือ ซึ่งข้อสอบเป็นการฝนด้วยดินสอสองบี ตรวจกระดาษคำตอบด้วยระบบคอมพิวเตอร์ จากการตรวจสอบด้วยสายตาของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของสพฐ. ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ เป็นไปตามนโยบายรมว.ศึกษาธิการ และรมช.ศึกษาธิการ ที่อยากทำให้กระบวนการตรวจสอบมีความโปร่งใส เป็นธรรมกับทุกฝ่ายมากที่สุด จะได้ไม่มีความคลางแคลงใจ

การเยียวยาครูเบญอย่างไรนั้น จะดูความเหมาะสมเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่เรื่องนี้จะต้องมีผู้รับผิดชอบแน่นอน โดยเฉพาะผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ ซึ่งถือเป็นผู้กำกับดูแลโดยตรง ซึ่งการตรวจสอบผู้อำนวยการ สพม.สระแก้ว และเจ้าหน้าที่ในสังกัด พบว่ามีมูลความผิดจริง เข้าข่ายประมาท และบกพร่องในหน้าที่ ซึ่งจะมีการตั้งคณะกรรม การสอบวินัยทั้งหมดอีกครั้ง ก่อนที่จะลงโทษตามกฎหมาย

ส่วนคนที่ได้ที่ 1 ก็พบว่า คะแนนสูงสุดจริง ซึ่งบุคคลดังกล่าว มีผลการเรียนที่ได้เกียรตินิยม และสภาพแวดล้อมหลายอย่าง ยืนยันว่าน่าจะสอบได้จริง แต่ก็ต้องรอผลการสอบของผู้เชี่ยวชาญยืนยันอีกครั้ง