- 07 ต.ค. 2567
เพื่อนบ้านยังสุดทน แจ้งสายไหมต้องรอด ร่วมกรมกิจการผู้สูงอายุ ตำรวจคันนายาว ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือคุณยายวัย 80 ปี หลังถูกลูกหลานทิ้งให้นอนอยู่ตามลำพังภายในบ้านพักย่านสายไหม
สายไหมต้องรอด ร่วมกรมกิจการผู้สูงอายุ ตำรวจคันนายาว ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือคุณยายวัย 80 ปี หลังถูกลูกหลานทิ้งให้นอนอยู่ตามลำพังภายในบ้านพักย่านสายไหม
ภายหลังลงพื้นที่ในหมู่บ้านชุมชนวัดอาวุธ ซอย 2 เขตสายไหม พบนางสำอางค์ อายุ 88 ปี นอนอยู่ในสภาพอิดโรย เนื้อตัวผอมแห้งหุ้มกระดูก ไม่สวมใส่เสื้อผ้า ไร้ลูกหลานคอยดูแล โดยมีนางรวน ใจใส อายุ 62 ปี เพื่อนบ้านที่คอยดูแลนางสำอางค์ ให้ข้อมูลว่า นางสำอางค์ถูกลูกสาวแท้ๆ ทอดทิ้งให้นอนรอความตายแบบนี้มาได้ประมาณ 2-3 ปีแล้ว
โดยก่อนที่ลูกสาวจะหนีไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ ได้ว่าจ้างให้เธอเข้ามาดูแลยายสำอางค์ โดยมีค่าจ้างเดือนละ 12,000 บาท ซึ่งเธอก็ได้ตอบตกลง และเข้ามาดูแลคอยหาข้าวหาน้ำ เช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ยายสำอางค์อยู่ตลอด ก่อนที่ 3-4 เดือนให้หลัง ลูกสาวของยายสำอางค์ จะเริ่มเบี้ยวค่าจ้างเลี้ยงดูโดยอ้างว่าติดปัญหาเรื่องการเงิน
นางรวน เผยอีกว่าส่วนตัวไม่ได้ติดใจเรื่องค่าจ้างที่ค้างคากัน แต่อยากให้ลูกสาวของนางสำอางค์กลับมาดูแลแม่แท้ๆ ของตัวเองบ้าง เพราะไม่รู้ว่านางสำอางค์จะมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกนานแค่ไหนในสภาพแบบนี้ ตนที่ต้องทนเห็นแบบนี้ก็รู้สึกสงสาร เวทนา อีกทั้งยังทราบว่าลูกสาวได้เซ็นบริจาคร่างกายของนางสำอางค์ให้กับโรงพยาบาลแห่งหนึ่งไว้แล้ว
ขณะที่ นางสาวพัฒนาวดี ธรรมรัตนพฤกษ์ ผอ.กลุ่มคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือผู้สูงอายุ เผยว่า หลังจากนี้จะนำตัวคุณยายเข้าสู่กระบวนการการรักษาเนื่องจากตัวคุณยายมีสภาพร่างกายอ่อนเพลีย หลังจากนั้นจะนำตัวไปตรวจหาโรคต่างๆ เพื่อเข้ารับบริการของกรมกิจการผู้สูงอายุต่อไป ส่วนในเรื่องของลูกสาวนั้น จะมีการติดต่อตามข้อมูลที่ได้รับมา เพื่อพูดคุยปรับความเข้าใจหาสาเหตุที่แท้จริง และจะมีการทำบันทึกข้อตกลง ประเมินว่าตัวลูกสาวนั่นมีศักยภาพในการเลี้ยงดูคุณยายหรือไม่ต่อไป แต่หากดูแลไม่ได้จริงๆ จะต้องมีการพูดคุยกันเพื่อให้ลูกสาวรับทราบว่าปัญหาส่วนนี้ไม่ใช่มีแค่คุณยายที่เจ็บป่วยร่างกาย แต่เป็นในเรื่องของปัญหาด้านเศรษฐกิจสังคมที่เกี่ยวกับครอบครัวของลูกสาวด้วย
ด้านนายเอกภพ ระบุว่าได้รับประสานงานมาจากทางให้เข้ามาดูคุณยายวัย 88 ปี ซึ่งตอนแรกลูกสาวของคุณยายสำอาง ก็ได้มีการจ้าง นางรวน ใจใส เพื่อนบ้านให้เข้ามาดูแลคุณยายสำอาง โดยตกลงค่าจ้างไว้เดือนละ 12,000 บาท ซึ่งลูกสาวก็ไม่เคยกลับมาดูแลคุณยายอีกเลย ซึ่งหน้าที่ในการดูแลคุณยายสำอางที่มีอายุมากขึ้นเรื่อยๆ ควรเป็นหน้าที่ของลูกหลานแต่กลับปล่อยแม่ทิ้งไว้ซึ่งตอนที่ยังเป็นเด็กคุณยายสำอาง ก็เลี้ยงคุณมาได้ทั้งที่การเลี้ยงเด็กทารกคนหนึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก
แต่พอแม่เริ่มมีอายุมากขึ้นก็กลับไม่ดูแล นายเอกภพบอกว่าอย่างน้อยถ้าหากงานยุ่งมากก็ควร ที่จะกลับมาดูแลแม่อย่างน้อยอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง หลังจากที่เข้ามาดูคุณยายจึงได้ตัดสินใจประสานงานไปยัง อธิบดีกรมการกิจการผู้สูงอายุกระทรวงพม. และประสานไปยังผู้กำกับสน. คันนายาวร่วมกันลงพื้นที่เพื่อมาดูความเป็นอยู่ของคุณยายสำอาง และทันทีที่พบก็รู้สึกว่าสงสารคุณยายเป็นอย่างมาก จึงขอประสานไปยังพม.ให้นำตัวคุณยายเข้ารับการคุ้มครองรวมถึงรักษาพยาบาล และจากการตรวจสอบร่างกายของคุณยายก็พบว่าตามตัวของคุณยายมีรอยมดกัดเนื่องจากคุณยายนอน และกินอยู่บนเตียงเดียวกัน
และสภาพความเป็นอยู่ของคุณยายก็ไม่เหมาะสมทุกอย่างบริเวณรอบบ้านมีเพียงไม้กระดานที่พังถ้าหากฝนตกลงมาคุณยายก็น่าจะต้องเปียก ก็เลยอยากจะให้ลูกดูไว้ว่าสภาพของคุณยายเป็นแบบนี้ นายเอกภพยังบอกอีกว่าคนที่เป็นเพื่อนบ้านยังรู้สึกสงสารมาคอยดูแลให้แต่คนที่เป็นลูกแท้ๆกลับไม่มาดูแลแม่ตัวเอง
ส่วนหลังจากนี้จะให้ทางกระทรวงพม. เป็นคนประสานติดต่อไปยังลูกสาวของคุณยาย และ ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่พม.เองก็มีรายละเอียดเกี่ยวกับลูกสาวของคุณยายเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการของกระทรวงพม. ในช่วงท้ายในเอกภพได้พูดว่า "สุดท้ายแล้วไม่ว่าจากกระทรวง พม. จะรับไปดูแลหรือเพื่อนบ้านจะดูแล คุณเชื่อผมเถอะเขารักคุณอยู่แล้วมันไม่มีใครที่อยากจะอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่ลูกหลานตัวเองในยามแก่เฒ่า" พร้อมฝากบอกว่าถ้าหากดูข่าวอยู่ก็อยากให้นึกถึงผู้เป็นแม่ให้มากกว่านี้ และควรมาดูแลคุณแม่บ้าง เพราะตัวคุณยายเองก็น่าจะอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นานถ้าหากไม่มาดูแลตอนนี้แล้วจะไปดูแลตอนไหน
นอกจากนี้ยังทราบอีกว่าลูกสาวของคุณยายสำอางมีการบริจาคร่างกายของคุณยาย หากคุณยายเป็นอะไรขึ้นมาก็ไม่ต้องมาบอกลูกสาวของคุณยายสามารถดำเนินการจัดการได้เลยจึงมองว่าเรื่องนี้ลูกสาวของยายสำอางค่อนข้างที่จะใจดำ