- 06 ธ.ค. 2567
เปิดวาร์ป 7 ตำรวจจราจร ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ก่อนรุมทำร้ายร่างกายลูกชายอดีต สารวัตร บก.ปทส. ได้รับบาดเจ็บ
สืบเนื่องจากกรณีของ น.ส.ธนัชตา เกิดศรี น้องสาวบาดเจ็บ เดินทางมาร้องทุกข์ พงส.บก.ปปป.ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังพี่ชายถูกตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจร 7 นาย ทำร้ายร่างกายขณะตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์อยู่บนถนนประเสริฐมนูกิจ เมื่อคืนวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ช่วงเวลา 02:14 น.
โดย น.ส.ธนัชตา เปิดเผยว่า ขณะที่พี่ชายของตัวเองขับรถยนต์ เข้าตรวจวัดแอลกอฮอล์ ตามปกติและไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย จึงขับออกจากด่านตรวจ ก่อนที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถจักรยานยนต์ 3 คัน และรถกระบะ 1 คัน ตามมาประกบ พร้อมบังคับให้ลงจากรถโดยพยายามเข้าควบคุมตัว ซึ่งพี่ชายก็พยายามขัดขืนเนื่องจากตัวเองไม่ได้กระทำความผิด แต่ตำรวจกลับใช้กำลังเกินกว่าเหตุ เข้าควบคุมตัวจนได้รับบาดเจ็บ
โดยตำรวจอ้างว่าพี่ชายของตัวเองพยายามขับรถแหกด่าน แต่เมื่อตำรวจเข้าไปตรวจสอบจากกล้องบันทึกภาพบริเวณด่านตรวจ กลับพบว่าไม่ใช่รถของพี่ชายที่เป็นผู้กระทำความผิด และนำตัวพาส่งโรงพยาบาล ของเก่าขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น ทางครอบครัวมองว่าการกระทำของตำรวจเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ จึงเดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลบางเขนเมื่อคืนที่ผ่านมา
เบื้องต้นตำรวจทั้ง 7 นายได้รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือกระทำตามที่ถูกกล่าวหาจริง ส่วนกรณีที่เดินทางเข้ามาร้องทุกข์กับตำรวจสอบสวนกลางให้ช่วยดำเนินคดี เนื่องจากกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในการดำเนินคดี และอยากเรียกร้องให้ตำรวจทั้ง 7 นายเป็นผู้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด และถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และให้ออกจากราชการ
ความคืบหน้าล่าสุดพบว่า พล.ต.ต. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวยืนยัน จะให้ความเป็นธรรม โดยยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น จะไม่ให้ความช่วยเหลือนายตำรวจที่ร่วมกันกระทำความผิดทั้ง 7 นาย ซึ่งผลจากการสอบข้อเท็จจริง ของคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง กองบังคับการตำรวจจราจรนั้น
พบว่ามีมูล สอดคล้องกับที่ญาติของผู้เสียหายให้ข้อมูล รวมถึงตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 7 คนได้รับสารภาพ ว่าร่วมกันกระทำการดังกล่าวจริง ซึ่งเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ผู้บังคับบัญชาของทั้ง 7 คน ได้ควบคุมตัวไปมอบตัว กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางเขน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย สำหรับการดำเนินคดี เบื้องต้นจะดำเนินคดี กับกลุ่มนายตำรวจทั้ง 7 คนในข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายแก่กายและใจ ก่อน ส่วนข้อหาอื่นๆ หากตรวจสอบพบเข้าข่ายครบองค์ประกอบข้อหาใดก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติม
"กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะไม่ปกป้อง ให้ความช่วยเหลือหรือทำให้คดีบิดเบี้ยว อย่างที่สังคมตั้งข้อสังเกต โดยจะทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา เพราะคดีนี้ข้อเท็จจริงมีเพียงอย่างเดียวประกอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากความผิดพลาดของตำรวจทั้ง 7 นายเอง ที่ไม่มีการตรวจสอบให้ละเอียดรอบคอบว่ารถที่แหกด่านเป็นรถของผู้กระทำความผิดจริงหรือไม่ และแม้ว่าหากผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นผู้ที่ขับรถฝ่าด่านจริงตำรวจก็ไม่มีสิทธิ์กระทำการในลักษณะดังกล่าว" พล.ต.ต. นพศิลป์ กล่าว
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพว่า ตำรวจทั้ง 7 นายมีชื่อและยศในราชการดังนี้ 1. ร.ต.อ.ทวีพงษ์ 2. ส.ต.อ.วีรพงษ์ 3. ส.ต.อ.ปพนธีร์ 4. ส.ต.อ.กีรติ 5. ส.ต.อ.วัชรวี 6. ส.ต.อ. จักรินทร์ 7. ส.ต.ท. ณัฐพงษ์