ฝากขัง คัดค้านประกันตัว "ชาคิด" คนขับรถพาจ่าเอ็มหนี ยอมสารภาพค่าจ้าง

ตำรวจคุมตัวชาคิต คนขับรถกระบะพาจ่าเอ็ม หลบหนี ไปฝากขังศาลอาญา คัดค้านการประกันตัว - ยอมรับได้รับค่าจ้าง 4,500 บาท

จากกรณีเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 ตำรวจควบคุมตัว นายชาคิต บัวปลี หรือ "ชำนาญ" อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.168/2568 ลงวันที่ 13 ม.ค. 68 คนขับรถพาจ่าเอ็ม กองเรือ หลบหนี ข้อหา "กระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิดแม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นก็ตามผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดในฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน"

 

ฝากขัง คัดค้านประกันตัว ชาคิด คนขับรถพาจ่าเอ็มหนี ยอมสารภาพค่าจ้าง

ฝากขัง คัดค้านประกันตัว ชาคิด คนขับรถพาจ่าเอ็มหนี ยอมสารภาพค่าจ้าง

 

จับกุมตัวได้ที่ หน้าบ้านน็อคดาวน์ไม่มีเลขที่ ม.10 ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กล่าวคือ  "น.1 ขยายผลรวบเพิ่ม ผู้สนับสนุนจ่าเอ็ม" หลังจากที่มีการสืบสวนสอบสวนขยายผลการจับกุม "จ่าเอ็ม" อย่างละเอียดจนวินาทีสุดท้ายก่อนส่งตัวฝากขังต่อศาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พบพยานหลักฐานถึง "ผู้สนับสนุน" รายหนึ่ง ซึ่งมีหลักฐานบ่งชี้ไปถึงการวางแผนกับจ่าเอ็มตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ไปจนถึงหลังเกิดเหตุยังได้เป็นผู้ขับขี่รถกระบะ โตโยต้า 4 ประตูสีเทา พาจ่าเอ็มหลบหนีไปยังจุดข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณด่านเขาดิน ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 68 เวลาประมาณ 23.45 น. 

ซึ่งจากการขยายผลทราบว่าผู้สนับสนุนรายนี้คือ นายชาคิต บัวปลี หรือ "ชำนาญ" อายุ 47 ปี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้คณะพนักงานสอบสวนนำโดย พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม นำชุดพนักงานสอบสวนขอหมายจับต่อศาลอาญาในทันที หลังหมายจับได้รับการอนุมัติพล.ต.ท.สยามฯ ได้ส่งชุดสืบนครบาลออกติดตามตัวในทันที โดยสืบทราบว่า นายชาคิตฯ ได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี

 

ฝากขัง คัดค้านประกันตัว ชาคิด คนขับรถพาจ่าเอ็มหนี ยอมสารภาพค่าจ้าง

 

จากนั้น 13 ม.ค. 68 เวลาประมาณ 18.00 น.พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังชุดสืบนครบาลเข้าจับกุมตัว นายชาคิตฯ ได้ที่บริเวณหน้าบ้านน็อคดาวน์ไม่มีเลขที่ ม.10 ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยขณะจับกุมชุดจับกุมพบรถกระบะ โตโยต้า 4 ประตูสีเทาหมายเลขทะเบียน 3ขก 83XX กรุงเทพฯ จอดอยู่บริเวณหน้าที่กบดาล ซึ่งตรวจสอบแล้วพบว่ามีตำหนิรูปพรรณตรงกับภาพจากกล้องวงจรปิดขณะที่จ่าเอ็มกำลังหลบหนีข้ามชายแดนด้วยช่องทางธรรมชาติ โดย นายชาคิตฯ ก็ยอมรับว่าเป็นรถที่ใช้ขับพาจ่าเอ็มไปที่ชายแดนในวันเกิดเหตุจริงๆ และชายเสื้อเขียวในภาพจากกล้องวงจรปิดก็คือตนเองจริงๆ และจากการขยายผลพบข้อมูลในโทรศัพท์ของ นายชาคิตฯ ว่ามีการติดต่อสื่อสารกับจ่าเอ็มตั้งแต่เวลา 13.54 น. ซึ่งเป็นเวลาเกือบ 4 ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุ ชุดสืบนครบาลจึงทำการจับกุมตัวตามหมายจับ 

ในชั้นจับกุม นายชาคิตฯ ให้การภาคเสธ โดยให้การว่า "ตนเองรู้จักกับจ่าเอ็มมาได้ประมาณ 2 ปี ตั้งแต่สมัยที่จ่าเอ็มยังรับราชการอยู่ ตนเองทำอาชีพขับรถรับจ้าง โดยจะรับผู้โดยสารไปๆมาๆ ส่งระหว่างชายแดน เขาดิน , บ้านแหลม และ ผักกาด โดยคดีนี้ตนเองยอมรับว่าเป็นคนไปส่งจ่าเอ็มจริง และชายเสื้อเขียวที่เห็นในภาพกล้องวงจรปิดก็คือตนเองจริง ส่วนรถกระบะคันที่ขับไปส่งนั้น ตนได้ยืนมาจากพวกละแวกบ้าน ส่วนที่จ่าเอ็มไปก่อคดีมานั้นตนเองไม่ทราบ" 

หลังการจับกุมได้นำตัวนายชาคิตฯส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม โดยมี พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. นำคณะพนักงานสอบสวนทำการขยายผลต่อไป

 

ฝากขัง คัดค้านประกันตัว ชาคิด คนขับรถพาจ่าเอ็มหนี ยอมสารภาพค่าจ้าง

 

ล่าสุดวันที่ 14 มกราคม 2568 พนักงานสอบสวน สน. ชนะสงคราม คุมตัวนายชาคิต บัวปลี หรือ ชำนาญ ไปขออำนาจศาลอาญาถนนรัชดาฝากขังผัดแรก ในข้อหาให้การช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดในฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน หลังถูกชุดสืบสวนนครบาลเข้าจับกุมภายในบ้านพักชั้นเดียวไม่มีเลขที่ ในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อวานที่ผ่านมา ท้ายคำร้องได้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เพราะเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เนื่องจากในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ 

 

ฝากขัง คัดค้านประกันตัว ชาคิด คนขับรถพาจ่าเอ็มหนี ยอมสารภาพค่าจ้าง

 

นายชาคิต ยอมเปิดปากสารภาพว่า ตนไม่ทราบว่านายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือ จ่าเอ็ม กองเรือ ไปก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต แต่เมื่อวันที่ 7 จ่าเอ็ม ได้โอนเงินมาให้ 4,500 บาท เพื่อเป็นค่าจ้างให้ไปส่งที่จุดผ่านแดน ให้เหตุผลว่าจะไปกินเลี้ยงหลังย้ายไปประจำการที่อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว ซึ่งระหว่างเดินทางจ่าเอ็มไม่ได้มีอาการตื่นตระหนกหรือมีพิรุธ ส่วนบริเวณจุดผ่านแดนที่ไปส่งนั้น ยืนยันไม่ทราบว่าห้ามเดินทางไปในยามวิกาล เพราะคิดว่าเป็นตลาดส่วนรถกระบะคันดังกล่าวยืมมาจากเพื่อนบ้าน