เปิดผัก 5 ชนิด ห้ามเก็บในตู้เย็น อาจปล่อยสารเป็นพิษต่อตับ

หลายคนทราบดีว่าเนื้อสัตว์และปลาสดควรเก็บในตู้เย็นเพื่อป้องกันการเน่าเสีย แต่กลับไม่รู้ว่าผักบางชนิดอาจได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิต่ำและความชื้นในตู้เย็น ซึ่งอาจทำให้เกิดเชื้อรา เสียรสชาติ หรือเปลี่ยนเนื้อสัมผัส นักวิทยาศาสตร์ด้านอาหารแนะนำว่าผัก 5 ชนิดนี้ควรเก็บไว้ในที่แห้งและอากาศถ่ายเท แทนที่จะนำเข้าตู้เย็น

 

 

 

 

 

1. หอมใหญ่

หอมใหญ่เป็นพืชในตระกูลอัลลิอัม (Allium) และไม่จำเป็นต้องแช่เย็น อุณหภูมิต่ำและความชื้นในตู้เย็นจะทำให้แป้งในหอมใหญ่เปลี่ยนเป็นน้ำตาล ส่งผลให้เน่าเสียเร็วขึ้น ควรเก็บไว้ในที่แห้งที่มีอุณหภูมิไม่เกิน 18 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตาม หากปอกเปลือกหรือหั่นแล้ว ควรเก็บในกล่องปิดสนิทในตู้เย็น

Margaret Cooper ผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีววิทยาและความปลอดภัยของอาหารจากมหาวิทยาลัยแอริโซนา ระบุว่าหอมใหญ่ทั้งหัวสามารถเก็บได้นานถึง 3-6 เดือน หากอยู่ในที่แห้งและมีการระบายอากาศที่ดี ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงการเก็บในถุงพลาสติกที่ไม่สามารถระบายอากาศได้ เพราะจะทำให้เกิดความชื้นสะสม ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเชื้อราและจุลินทรีย์อื่น ๆ

2. กระเทียม

กระเทียมอยู่ในตระกูลเดียวกับหอมใหญ่และควรเก็บในลักษณะเดียวกัน การแช่ตู้เย็นอาจทำให้กระเทียมงอกเร็วขึ้น ซึ่งลดอายุการเก็บรักษาและทำให้รสชาติเปลี่ยนไปเป็นขม แม้จะไม่มีอันตรายต่อสุขภาพอย่างรุนแรง แต่ก็อาจส่งผลต่อรสชาติของอาหาร

 

3. ขิง

ขิงที่ยังไม่ได้ปอกเปลือกสามารถเก็บได้นานหลายสัปดาห์ในที่แห้งและเย็น แต่หากอยู่ในตู้เย็น อุณหภูมิต่ำและความชื้นจะกระตุ้นการเกิดเชื้อราและทำให้เน่าเร็วขึ้น อีกทั้งยังลดความเผ็ดของขิง ซึ่งอาจเปลี่ยนรสชาติของอาหาร

การสูดดมสปอร์เชื้อราจากขิงอาจทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น จาม คัดจมูก หรือผื่นผิวหนัง บางกรณีอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้เกิดปัญหาทางเดินอาหารหรือส่งผลเสียต่อตับและไตได้

 

 

4. แตงกวา

แตงกวาไวต่ออุณหภูมิต่ำและความชื้นสูง ซึ่งอาจทำให้นิ่มและเน่าเร็วขึ้น สภาพแวดล้อมที่ชื้นในตู้เย็นสามารถกระตุ้นการเติบโตของแบคทีเรีย เช่น Salmonella และ E. coli ได้ หากเก็บโดยไม่มีภาชนะปิดสนิท ความชื้นจะสะสมและเร่งกระบวนการเน่าเสีย

ควรบริโภคแตงกวาภายใน 3 วันหลังเก็บ และควรหลีกเลี่ยงการวางใกล้ผลไม้ที่ปล่อยก๊าซเอทิลีน เช่น แอปเปิ้ล กล้วย และมะเขือเทศ เพราะเอทิลีนจะเร่งการเน่าเสียของแตงกวา

 

5. พริกหวาน

พริกหวานหลายสีมีแนวโน้มสูญเสียความกรอบเมื่อเก็บในตู้เย็น อุณหภูมิต่ำและความชื้นสามารถทำลายโครงสร้างเซลล์ของพริกหวานได้ Maddy Rotman ผู้อำนวยการของ Imperfect Foods บริษัทจัดส่งผักผลไม้ถึงบ้าน แนะนำว่าความชื้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พริกหวานสูญเสียความกรอบ ดังนั้น ควรเก็บให้ห่างจากความชื้นเพื่อรักษาความสดของพริกหวานให้นานขึ้น

สรุปแล้ว ผักเหล่านี้ควรเก็บในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเพื่อรักษาคุณภาพและลดความเสี่ยงของเชื้อราและแบคทีเรียที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ