พารู้จัก สุนิสา ลี สาวน้อยชาวม้ง คว้าเหรียญทองให้กับทีมชาติสหรัฐอเมริกา

เปิดฉากมหกรรมกีฬาโอลิมปิกมาได้ครึ่งทางแล้วกับโตเกียว เกมส์ 2020 โอลิมปิกครั้งที่ 32 ณ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีหลากหลายชนิดกีฬาที่รู้ผลแพ้ชนะ และได้ยลโฉมของผู้ที่คว้าเหรียญทองอย่างมากหน้าหลายตา แต่เชื่อว่าในการแข่งขันต่างๆ นั้นหลายๆ คนคงจะสะดุดกับเจ้าของเหรียญทองกีฬายิมนาสติกหญิงที่ชื่อ สุนิสา ลี เป็นแน่

 

 

วันนี้ทีมข่าวไทยนิวส์จะพาไปทำความรู้จักประวัติสุนิสา ลี ที่บอกเลยว่าไม่ธรรมดามากๆ เพราะเธอเป็นนักกีฬาเชื้อสาย ม้ง - อเมริกัน คนแรกที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกในนามทีมชาติสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จสร้างความภาคภูมิใจให้ชุมชนม้งทั่วโลก  โดยเฉพาะในรัฐมินนิโซตา บ้านเกิดของเธอ

สุนิสา ลี นักกีฬายิมนาสติกหญิงดาวรุ่งวัย 18 ปี สร้างชื่อเสียงจนเรียกสายตานับล้านคู่จับจ้องไปที่เธอ ในการเเข่งขันโอลิมปิก2020 ที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นซึ่ง ครอบครัวของเธอที่รัฐมินนิโซตา กำลังลุ้นอย่างเต็มที่เช่นกัน จนกระทั่งได้สมหวังในที่สุด

สาวน้อยวัย 18 ปีคนนี้ สร้างชื่อให้กับตัวเองและทีมสหรัฐ หลังคว้าเหรียญทองประเภทบุคคลรวมอุปกรณ์มาครองได้สำเร็จ ในฐานะตัวแทนของสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ เธอยังสร้างประวัติศาสตร์เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายม้งคนแรกที่คว้าเหรียญทองให้กับทีมสหรัฐได้สำเร็จ

ความสามรถของเธอเรียกได้ว่าคับแก้วจริงๆ เพราะก่อนหน้านั้น สุนิสา ลี คว้าเหรียญเงินกับให้กับทีมชาติสหรัฐในการแข่งขันยิมนาสติก ประเภททีมรวมอุปกรณ์ กระทั่งเปิดฉากโอลิมปิกครั้งนี้ สุนิสาถือเป็นความหวังของครอบครัวและชุมชนชาวม้งในสหรัฐ ในฐานะนักยิมนาสติกหญิงอายุน้อยที่สุดที่เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว

ประวัติส่วนตัวสุนิสา ลี
เธอเกิดเมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2546 ในเมืองเซนต์พอล รัฐมินนิโซตา ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนม้งขนาดใหญ่ในอเมริกาที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่ยุคหลังสงครามเวียดนาม และสุนิสาก็ใช้ชีวิตเติบโตในเมืองเซนต์พอลมาจนถึงปัจจุบัน

 

ทั้งนี้ นอกจากรัฐมินนิโซตาจะเป็นถิ่นฐานขนาดใหญ่ของชาวม้งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดว่ามีประชากรถึง 80,000 คนแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่คุณแม่ของสุนิสา ลีได้พบรักกับพ่อบุญธรรมขณะเธออายุเพียง 2 ขวบในปี 2548 ด้วย

โดยคุณแม่ของเธอเป็นชาวม้งชื่อ ยีฟ ทอจ (Yeev Thoj) ในขณะที่ทางคุณพ่อบุญธรรมของเธอเองก็เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายม้งเช่นกัน ชื่อ ฮัว จอห์น ลี (Houa John Lee) แต่คุณพ่อบุญธรรมก็คอยเลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เล็กๆ กระทั่งโตขึ้น สุนิสาก็ตัดสินใจใช้นามสกุล ลี ตามคุณพ่อบุญธรรม

ทว่าแม้ จอห์น ลี จะมีลูกติดอีก 2 คนจากอดีตภรรยาชื่อว่า โจนาห์และไชเอนน์ แต่ลูกๆ ทั้ง 3 คนรวมถึงสุนิสา ต่างรักใคร่กลมเกลียวกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะไชเอนน์ที่อายุห่างกับสุนิสาเพียง 12 วัน มีหน้าตาคล้ายกับสุนิสาจนเพื่อนร่วมชั้นเรียนเคยเข้าใจผิดว่าทั้งคู่เป็นฝาแฝด

ชีวิตของ สุนิสา ลี กว่าจะมีวันนี้ถือว่าไม่ง่ายเลยจริงๆ เพราะเธอต้องลี้ภัยสงครามข้ามแปซิฟิก ซึ่งทั้งคุณพ่อบุญธรรมและคุณแม่ของเธอต่างเกิดในลาวในยุคสงครามเวียดนาม และสมัยนั้น กลุ่มชาติพันธุ์ม้งร่วมรบเคียงไหล่กับทหารอเมริกันในลาว แต่นั่นก็ต้องแลกมาด้วยราคามหาศาลที่ต้องจ่าย

สำหรับครอบครัวชาวม้งของคุณพ่อและคุณแม่แท้ๆ ของ สุนิสา ลี สมัยที่ทั้งคู่ยังเล็ก ได้เสี่ยงอันตรายหนีออกจากลาวข้ามแม่น้ำโขงมาอยู่ที่ค่ายผู้ลี้ภัยในประเทศไทยอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนลี้ภัยไปตั้งรกรากในในรัฐมินนิโซตากระทั่งได้เติบโตที่นั่น

จอห์น ลี คุณพ่อบุญธรรมสุนิสาเล่าเรื่องราวในอดีตอันเจ็บปวดว่า "เมื่อสหรัฐถอนทัพออกจากลาว สงครามยังไม่จบลงในทันที ผู้คนจำต้องหนีไปประเทศไทยเพื่อความปลอดภัย และเพื่อโอกาสมีชีวิตที่ดีกว่า"

ต่อมา จอห์น ลี ได้ย้ายไปอยู่สหรัฐตอนอายุ 7 ขวบ เมื่อปี 2522 ส่วนคุณแม่สุนิสาย้ายไปสหรัฐตอนอายุ 12 ปี เมื่อปี 2530 ซึ่งปัจจุบัน ยีฟ คุณเเม่ของสุนิสา ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยด้านการเเพทย์ ส่วนจอห์น ลี คุณพ่อของสุนิสา ทำงานด้านวิศวกรรมที่บริษัท Cummins Power Generation 

สุนิสา ลี ใช้ชีวิตและเติบโตที่สหรัฐอเมริกาและมีความชื่นชอบในการทำกิจกรรมหลายอย่างจากที่คุณแม่ได้สอนและปลูกฝัง เพราะทั้งคุณพ่อบุญธรรมและคุณเเม่ของสุนิสาชอบกีฬาเหมือนกัน

 

คุณเเม่สุนิสาเล่าว่า ลูกสาวของเธอมีพรสวรรค์ตั้งเเต่เล็กๆ ในกีฬายิมนาสติกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เเละเมื่อได้เเรงกระตุ้นด้านวินัย จึงทำให้เก่งขึ้นในกีฬานี้ เเละมีความพร้อมในด้านอื่นๆ เมื่อโตขึ้นมา

นอกจากนี้คุณแม่ของสุนิสายังเล่าที่มาของชื่อไทยอันไพเราะให้ฟังอีกด้วยว่า ตั้งชื่อลูกสาวตามนักแสดงละครไทยคนหนึ่งที่ตนชื่นชอบในยุคนั้น และจับลูกเรียนยิมนาสติกตั้งแต่เล็กๆ หลังเห็นแววจากการโชว์ท่าตีลังกากลับหลังบ่อยครั้ง ขณะเล่นซุกซนตามประสา

ทั้งนี้ในเรื่องของเป้าหมายสิ่งหนึ่งที่ทำตามเป้าหมายได้สำเร็จในฐานะนักยิมนาสติก คือ การร่วมแข่งขันและคว้าเหรียญโอลิมปิก 2020 ซึ่งถึงแม้เธอจะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยกับการที่มีเหตุการณ์โควิดระบาด จนมหกรรมกีฬานี้ต้องเลื่อนมา 1 ปี แต่เธอประกาศเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาว่า "กำหนดการเปลี่ยน แต่เป้าหมายไม่เปลี่ยน"

คำพูดครั้งนั้นเป็นเครื่องยืนยันว่า เหรียญทองโอลิมปิก คือเป้าหมายต่อไปในชีวิตของเธอเพราะความฝันนี้เป็นสิ่งที่พ่อและเธอตั้งเป้าหมายร่วมกันมาตลอด 10 ปี หรือนับตั้งแต่วันแรกที่เธอเริ่มเรียนยิมนาสติก

เธอพูดด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจว่า "มันไม่ใช่แค่ฝันของฉัน มันคือฝันที่พ่อกับฉันตั้งเอาไว้ร่วมกัน มันจึงมีความหมายมาก ฉันอยากทำมันให้สำเร็จอีก ฉันอยากให้พ่อภูมิใจ เพราะเขาคือคนที่สนับสนุนฉันมา ตั้งแต่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันจะทำได้ดีหรือไม่กับทางเดินนี้"

ขณะที่คุณพ่อบุญธรรมของเธอได้เปิดใจกับสื่อก่อนลูกสาวเข้าร่วมทีมลุยโอลิมปิก 2020 ว่า ไม่ว่าผลการเเข่งขันจะเป็นอย่างไร การที่ สุนิ เป็นชาวม้งอเมริกันคนเเรกในการเเข่งโอลิมปิกให้กับประเทศสหรัฐ ก็ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไปเรียบร้อยเเล้ว

อย่างไรก็ตาม หลังจากคว้า 1 เหรียญทองและ 1 เหรียญเงิน (ณ วันที่ 29 ก.ค.) สุนิสา ลี ก็ยังมีโอกาสเก็บเหรียญโอลิมปิกเพิ่มจากการแข่งขันช่วงวันที่ 1 ส.ค. และ 3 ส.ค.นี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ไม่น้อยที่เธอจะได้เหรียญรางวัลมาครองอีกครั้งก่อนกลับแผ่นดินสหรัฐอมเริกา

ภาพจาก กรุงเทพธุรกิจ