- 02 ส.ค. 2564
มูรัด อาลีเยฟ นักชกชาวฝรั่งเศส นั่งประท้วงบนเวทีสังเวียน 30 นาที หลังถูกปรับแพ้นักชกสหราชอาณาจักร ในการแข่งขันโอลิมปิก เกมส์ 2020
โดยสำหรับเหตุการณ์ล่าสุด ในการแข่งขันมวยสากล รุ่นซูเปอร์เฮฟวีเวทชาย รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา เมื่อ มูรัด อาลีเยฟ นักชกชาวฝรั่งเศส ใช้ศีรษะปะทะใส่ เฟรเซอร์ คลาร์ก นักชกจากสหราชอาณาจักร แบบไม่ตั้งใจจนอีกฝ่ายมีเลือดออกที่ดวงตาในยกที่ 2
ก่อนที่กรรมการจะตัดสินใจยุติการชก ปรับให้ อาลีเยฟ ถูกจับแพ้ฟาวล์ทันที ซึ่งเจ้าตัวแสดงอาการไม่พอใจอย่างมาก เพราะมองว่าเขาไม่ได้มีเจตนาทำร้ายคู่แข่ง ก่อนแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมด้วยการต่อยกล้องถ่ายทอดสดที่พยายามจะซูมใบหน้าของเขา และมีปัญหากับการ์ดสนามถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน ซึ่งต่อมาแม้สถานการณ์จะคลี่คลายลงแล้ว แต่ อาลีเยฟ ก็ไม่ยอมรับผลการตัดสิน นั่งประท้วงอยู่บนเวทีนาน 30 นาที ก่อนจะลุกไปประท้วงนอกเวทีต่อ และท้ายสุดเหตุการณ์จึงสงบลง
ทั้งนี้ อาลีเยฟ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า "ตนเองไม่ได้ตั้งใจที่จะใช้หัวโขกคู่ชก ดังนั้นจึงไม่ควรถูกปรับแพ้แบบนี้ เนื่องเตรียมตัวมาอย่างยาวนานสำหรับการแข่งขันโอลิมปิกที่ 4 ปีมีครั้ง แต่ทำไมต้องมาเจอกับการตัดสินแบบนี้ ตนเองควรจะได้รับการเตือนจากกรรมการ ไม่ใช่มาปรับใหเแพ้แบบนี้ คะแนนของตนก็นำ จึงคิดเป็นอื่นไปไม่ได้เลยนอกจากพวกเขาโกงตนเองในการชกครั้งนี้"
ขณะที่ คล้าร์ก นักชกจากสหราชอาณาจักร ผู้ซึ่งรับประกันได้เหรียญทองแดงแล้วนั้น เผยว่า "ได้เข้าไปปลอบใจคู่ชก ให้ใจเย็น ตัวเขาเองก็เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เช่นกัน ตนรู้ว่ามันยากและเขาโกรธมาก แต่ไม่ต้องการให้เขาสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของเขาเอง หรือแสดงพฤติกรรมหยาบคายต่อผู้ตัดสินและเจ้าหน้าที่ สิ่งที่ดีที่สุดที่ต้องทำคือสงบสติอารมณ์ และกลับไประบายความโกรธของเขาที่อื่น"