คริสเตียน อีริคเซน ไม่อยากเลิกอาชีพที่รัก หวังติดทีมชาติไปบอลโลกกาตาร์

เชื่อว่าหลายคนที่ได้ชมเกมฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมาต้องยังช็อกไม่หายแน่ๆ กับเหตุการณ์ที่ คริสเตียน อีริคเซน (Christian Eriksen) นักเตะตัวเก๋ากองกลางทีมชาติเดนมาร์ก เกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ฟุบหมดสติคาสนาม จนทีมแพทย์ต้องช่วยปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต กระทั่งเจ้าตัวฟื้นคืนกลับมาได้ในที่สุด ในเกมระหว่าง เดนมาร์ก พบกับ ฟินแลนด์ ในศึกบอลยูโร 2020

ต่อมา ดร.เมอร์ฟีย์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านโรคหัวใจของสาธารณสุขแห่งชาติของอังกฤษ (เอ็นเอชเอส) เชื่อว่า อีริคเซน ซึ่งเล่นให้ อินเตอร์ มิลาน คงต้องจบอาชีพในวัยแค่ 29 ปี แถมใน อิตาลี มีมาตรการเข้มงวดในเรื่องการป้องกันภาวะหัวใจวาย นั่นยิ่งทำให้เขาคงไม่ได้หวนลงสนามกับงูใหญ่ ซึ่ง ดร.เมอร์ฟี่ย์ ยังได้กล่าวถึง อีริคเซน อีกว่า 

 

"บางทีอาชีพของเขาคงจะจบไปแล้วชาวอิตาเลียนจะสั่งห้ามผู้คนเข้าไปมีส่วนร่วมในเกมกีฬาถ้าพวกเขาพบว่าคนๆ นั้นมีสัญญาณผิดปกติเกี่ยวกับหัวใจ มันเป็นกฎหมาย พวกเขาทำแบบนี้มานานแล้ว มากกว่า 20 ปี และพวกเขาสามารถลดอัตราการเสียชีวิตในวงการกีฬาจากเดิมมีสูงกว่า 3 เปอร์เซนต์เหลือต่ำกว่า 1 เปอร์เซนต์"

แต่ล่าสุด คริสเตียน อีริคเซน ได้ปลุกไฟของนักสู้ให้ลุกโชนอีกครั้งเมื่อ เจ้าตัวยืนยันแล้วว่าจะค้าแข้งต่อไป โดยตอนนี้เขากำลังซุ่มฝึกซ้อมกับสโมสรในบ้านเกิด ซึ่งเขาระบุว่า "เป้าหมายของผมคือไปเล่นฟุตบอลโลกกาตาร์ ผมคิดว่าผมรักการเล่นฟุตบอล ผมจะอยู่โดยไร้ฟุตบอลได้อย่างไร ในเมื่อแพทย์บอกว่าผมลงเล่นได้"

"ไม่มีอะไรในตัวผมที่บอกว่าผมไม่ต้องลงเล่นแล้ว ผมโชคดีนะที่ยังมีชีวิตอยู่ ผมไม่ได้อยากให้ผู้คนส่งดอกไม้ให้ เพราะผมหมดสติไป 5 นาที แต่มันพิเศษมาก ๆ ทุกคนน่ารักมาก ๆ ที่อวยพรจนผมหายดี ตอนแรกผมกังวลนะว่า หัวใจของผมจะรับไหวหรือเปล่าหลังจากเหตุการณ์นั้น แต่ตอนนี้ผมไม่กลัวเลยว่ามันจะเกิดขึ้นอีก เพราะแพทย์ได้ตรวจสอบจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว" เขากล่าวอย่างมุ่งมั่น

อย่างไรก็ตาม อดีตแข้งสเปอร์สรายนี้ต้องจำใจโบกมือลา อินเตอร์ มิลาน เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากสมาคมฟุตบอลอิตาลีไม่อนุญาตให้นักเตะที่ฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจลงเล่นในลีก

ภาพจาก chriseriksen8