- 20 ม.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://panyayan.tnews.co.th
วันที่ 20 -21 มกราคม 2560 เป็นวันที่ทางราชการจัดพิธีบำเพ็ญ พระราชกุศล สตมวาร (100) วัน กับการ เสด็จ สวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทางทีมข่าวจึงขอยกข่าวเกี่ยวกับการน้อมรำลึกถึงพระองค์ท่าน มาให้ได้อ่านอีกครั้งเพื่อเผยแพร่ให้ปวงชนชาวไทยได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และได้ภูมิใจที่เราได้เกิดมาในยุคสมัยที่มีพระมหากษัตริย์ที่ชาวโลกยกย่อง
"การที่เราจะพิจารณาผลงานของพระประมุขของชาติของเรานี้ ผู้ที่มีใจเป็นธรรมทั้งหลายจะมองเห็นทั้งๆ ที่เราอยู่ไกลพระองค์ จะมองเห็นว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชของเรานี้มิได้ทรงเห็นแก่ความสุขส่วนพระองค์เลย ทรงเห็นแต่ความสุข ความผาสุกของประชาชน ทรงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับประชาชน ทุกข์ของประชาชนก็คือทุกข์ของท่าน
อันนี้ปรากฏชัดแจ้งมาเป็นหลายลำดับการณ์แล้ว ประจักษ์พยานก็จะเห็นได้ว่า ปีหนึ่งๆ พระเจ้าอยู่หัวได้ทรงประทับอยู่ในนครหลวงเป็นเวลาไม่กี่เดือนเลย ทรงออกบ้านนอกทั้งสิ้น ทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และอาจจะจ่อไปทิศอื่นๆ อีกทุกปี มาไม่มีขาด
อย่างในเวลานี้เป็นปรากฏว่า พระองค์ท่านทรงอ่านแผนที่ทางเทคนิค ไม่ใช่แผนที่ที่เราอ่านในโรงเรียน แผนที่ทางเทคนิคเรียกว่า “Contour Map” ความสูงต่ำของแผ่นดิน แล้วก็ทางน้ำ ทางภูเขา ทรงอ่านได้เร็ว และบางทีก็เหนือกว่าเจ้าหน้าที่ของเราเสียอีก คือทรงศึกษาวิริยะอุตสาหะมาก และทรงสนพระราชหฤทัยอย่างยิ่งในเรื่องเกษตรกรรม เพราะทรงทราบดีเหมือนอย่างเราทราบกันทุกคนว่า ไทยยังคงเป็นประเทศเกษตรกรรม แม้จะมีอุตสาหกรรมก็เป็นสิ่งส่งเสริมเกื้อกูลเกษตรกรรม และทรงเป็นห่วงเป็นทุกข์เรื่องน้ำ การขาดแคลนน้ำอย่างที่นราธิวาส เจ้าหน้าที่ชลประทานไม่สามารถจะแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วมในตำบลหนึ่งได้ ได้ทรงไปศึกษาอยู่ปีเศษถึงสภาวะของดินฟ้าอากาศและภูมิแผ่นดิน ในที่สุดก็พระราชทานพระราชดำริว่า เขาเห็นชอบไหม ถ้าจะแก้อย่างนี้ เขาก็ศึกษาเห็นชอบพร้อมกัน บัดนี้สภาวะน้ำท่วมไม่มีแล้ว หายไปแล้ว อย่างนี้เป็นที่ประจักษ์
รัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกรัฐบาลได้เห็นความตั้งพระทัยของพระองค์ท่านจึงร่วมงานกับพระองค์ท่านอย่างสุดฝีมือ คือส่งคนออกติดตามรับพระราชดำริ ลงมือกระทำการศึกษาวิจัย และเพื่อใคร ก็เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยามทั้งสิ้น ไม่ใช่เพื่อชนหนึ่งชนใดหรือกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด แต่เป็นทั่วไปทั้งสิ้น
เรียบเรียงจากหนังสือ : สองธรรมราชา โดย "อัครวัฒน์ โอสถานุเคราะห์"
...........................................................................
นอกจากนั้น ยังมีข้อความบางส่วน ที่แสดงถึงเหตุผลที่ทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 และสมเด็จฯพระบรมราชินีนาถ
ไม่สามาถจะมีเวลาส่วนพระองค์ได้ ทรงอุทิศพระวรกาย เสียสละเพื่อประโชน์สุข ของพสกนิกรอย่างแท้จริง
ดังที่ สมเด็จฯ พระบรมราชินีนาถ เคยได้พระราชทานสัมภาษณ์ และถูกรวบรวมไว้ในหนังสือ "70 ปี รักแท้ ในหลวงและพระราชินี" ดังจะขอคัดบางตอนมาลงไว้ ณ ที่นี้
"พระสวามีของข้าพเจ้าและข้าพเจ้าไม่ได้แค่อยากที่จะเข้าไปเยี่ยมเยือนเท่านั้น เราต้องพยายามทำให้ได้ดีกว่านั้น เราต้องพยายามช่วยรัฐบาลในการสนับสนุนและพัฒนาความเป็นสุขของประชาชน เพราะว่าเราเป็นประเทศที่ด้อยพัฒนา ดังนั้นภาระหน้าที่ของเราในการเยี่ยมเยือนประชาชนในฐานะประมุขของประเทศจึงไม่เกิดประโยชน์ ถ้าเราไม่สามารถมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือประชาชนได้ ก็ถือว่าเราล้มเหลวในฐานะเป็นประมุขของประเทศ"
“ทูลพระเจ้าอยู่หัวว่า ปีหนึ่ง ขอให้ทรงพาไปต่างประเทศสักเดือนหนึ่ง สองเดือน แทนที่จะไปหัวหินก็ยังดีท่านบอกว่า “เสียเงินตราต่างประเทศ” เรื่องไปเมืองนอก พระเจ้าอยู่หัวก็รับสั่งว่าเงินตราต่างประเทศยิ่งแพ้เปรียบ เสียดุลอยู่แล้ว ท่านก็ไม่ยอม ความที่จริง ท่านสนุกกับการหาแหล่งน้ำของท่าน คือท่านทรงเขม็ดแขม่มาก”
สนใจหนังสือสั่งซื้อได้ที่
Line ID: @gppbook
Facebook : Gppbook
โทรศัพท์. 0 2525 4242 ต่อ 201-202
เขียนข่าวโดย : ไญยิกา เมืองจำนงค์ (ทีมข่าวปัญญาญาณ ทีนิวส์)