หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ไขข้อสงสัย "หม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิตผู้สละชีวิตเพื่อราชพลี ต้องสิ้นชีพิตักษัยเพราะกฎของกรรมที่ทำไว้ในชาติปางก่อนใช่หรือไม่?"

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ไขข้อสงสัย \"หม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิตผู้สละชีวิตเพื่อราชพลี ต้องสิ้นชีพิตักษัยเพราะกฎของกรรมที่ทำไว้ในชาติปางก่อนใช่หรือไม่?\"

          บทพระราชปฏิสันถารปุจฉาวิสัชนาธรรมจากความทรงจำของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ในโอกาสเฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพิธีตัดลูกนิมิตผูกพัทธสีมาอุโบสถวัดจันทาราม (วัดท่าซุง) อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี วันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๐

พระราชปุจฉาวิสัชนาธรรม

ระหว่าง

‘สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ’ กับ ‘หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ’

 

สมเด็จพระนางเจ้าฯ :

พระองค์หญิงวิภาวดี รังสิต ต้องสิ้นชีพิตักษัยเพราะกฎของกรรมที่ทำไว้ในชาติปางก่อน ใช่ไหม ?

 

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ไขข้อสงสัย \"หม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิตผู้สละชีวิตเพื่อราชพลี ต้องสิ้นชีพิตักษัยเพราะกฎของกรรมที่ทำไว้ในชาติปางก่อนใช่หรือไม่?\"

หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ :

         ถ้าจะกล่าวถึง “กฎของกรรมเดิม” ก็ถือว่ามีความสำคัญเหมือนกัน  แต่กรรมที่ใหญ่ไปกว่านั้นคือ “กรรมดีในปัจจุบัน”  ในเมื่อท่านเข้าถึงแล้วก็มีความจำเป็นต้องสิ้นชีพิตักษัยในวันรุ่งขึ้น  เพราะตามธรรมดา ความดีที่มาก เขาถือว่าความดีล้น ร่างกายของคนทนไม่ไหวจะต้องตาย  อันนี้ถ้าไปถามหมอดูหลายๆ ท่าน จะรู้  แต่บางท่านอาจจะรู้หรือไม่รู้  อาตมาไม่ทราบ

          เคยทราบมาตั้งแต่เป็นเด็กๆ  มีขุนนางท่านหนึ่งเป็นพระยา  อยู่ๆ ก็ปรากฏว่า มีต้นบัวหลวงมาขึ้นอยู่บนหลังคาของท่าน ซึ่งไม่มีน้ำ มันก็ขึ้น แล้วก็มีดอกงามไสว  ท่านไปนิมนต์พระมาสวดต่อนาม  บังเอิญอย่างยิ่ง อาตมาก็มีส่วนไปด้วย ก็ถามท่านว่า  การที่มีต้นบัวหลวง ดอกบัวหลวง เกิดอยู่บนหลังคาซึ่งไม่มีน้ำ จัดว่าเป็นมหามงคล ทำไมท่านเจ้าคุณจึงต้องทำบุญอย่างนี้ คือคล้ายๆ ทำบุญต่ออายุ  ท่านบอกว่า  มันเป็นมหามงคลจริงขอรับ เป็นโชคใหญ่  แต่ร่างกายของคนเรา โบราณท่านถือว่า “โชค” ถ้ามันใหญ่จริงๆ ละก็ ร่างกายมันทนไม่ไหว มันต้องพัง  ท่านก็เลยทำบุญกันไว้ก่อน  ไม่ใช่กันตาย แต่รับความดีคือรับกิจที่จะพึงตายเอาไว้  เมื่อทำบุญแล้ว ต่อมาท่านจะตายหรือไม่ตาย อาตมาไม่ได้ติดตามเรื่อง

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ไขข้อสงสัย \"หม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิตผู้สละชีวิตเพื่อราชพลี ต้องสิ้นชีพิตักษัยเพราะกฎของกรรมที่ทำไว้ในชาติปางก่อนใช่หรือไม่?\"

         สำหรับพระองค์หญิงวิภาวดีก็เหมือนกัน  ความดีของท่านล้นจนร่างกายทนไม่ไหว ท่านจึงต้องสิ้นชีพิตักษัย ในฐานะที่เป็นฆราวาส ไม่สามารถจะทรงความดีนั้นไว้ได้ เพราะร่างกายต้านทานไม่พอ  เหมือนกับคนคนหนึ่งมีกำลังเท่านี้  เขายกทองคำให้หนึ่งก้อน มีน้ำหนักหนึ่งตัน ให้เราแบกไว้ เราแบกไม่ไหว ทองคำมันก็ทับตาย  ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ความดีก็เหมือนกัน  มันก็มีสภาพความดีหนึ่งตันทับคนที่รับไว้ตายนั่นเอง

สมเด็จพระนางเจ้าฯ :

ถ้าเป็นพระแล้วมีความดีขนาดนี้ จะทรงความดีไว้ได้ไหม ?

 

หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ :

ทรงอยู่ได้...  การทรงอยู่ของบุคคลที่ทรงความดีประเภทนี้ เขาจะอยู่เพื่อความสุขของส่วนสาธารณะ  หมายความว่า ต้องการทำสาธารณประโยชน์ให้มีความสุข แบ่งความสุขให้กับปวงชนทั่วไป

 

สมเด็จพระนางเจ้าฯ :

เฉพาะฝ่ายธรรมะใช่ไหม ?

 

หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ :

ไม่ใช่เฉพาะธรรมะ  คือเป็นทั้งทางโลกและทางธรรม

 

 

คลิกอ่าน : เผยช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตก่อนสิ้นชีพิตักษัย ! หม่อมเจ้าวิภาวดีรังสิต แม้ถูกยิงกลับไม่แสดงอาการเจ็บปวด! คำพูดสุดท้าย "ขอลาไปนิพาน"

 

 

 

จากหนังสือ มหาบพิตร ในหลวงทรงถาม พระอรหันต์ตอบ โดย วีรวัฒน์ ชลสวัสดิ์

จินต์จุฑา สำนักข่าวทีนิวส์ รายงาน

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ไขข้อสงสัย \"หม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิตผู้สละชีวิตเพื่อราชพลี ต้องสิ้นชีพิตักษัยเพราะกฎของกรรมที่ทำไว้ในชาติปางก่อนใช่หรือไม่?\"

ติดต่อสั่งซื้อหนังสือ Line ID : @gppbook / FB : Gppbook

สอบถามเพิ่มเติม โทร 02 525 4242 ต่อ 201-202