- 06 มี.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
หลวงพ่อทองวัดนรนาถบรรพต (วัดเขากบ)
สภาพปัจจุบัน
ปัจจุบัน วัดนรนาถบรรพต มีเนื้อที่ดินตามโฉนดของวัด ๑๐๙ ไร่ ๑ งาน ๑๐ ตารางวา วัดแบ่งออกเป็น ๒ เขต คือ เขตที่สังฆาวาส และเขตที่ธรณีสงฆ์ วัดนี้ได้รับการคัดเลือกจากกรมการศาสนาให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๙ ได้ทำการพัฒนาและปรับปรุงมาโดยลำดับ ทั้งส่วนที่อยู่บนยอดเขาล้างล่าง ดังเป็นที่ปรากฏอยู่ขณะนี้
เขากบ
เขากบเป็นโบราณสถานส่วนหนึ่งของวัดนรนาถบรรพต เพราะวัดนี้ตั้งอยู่ที่เชิงเขา มีอาณาเขตติดต่อขึ้นไปจนถึงบนยอดเขา วัดนี้จึงมีนามเรียกกันจนติดปากว่า วัดกบบ้าง วัดเขากบบ้างจนทุกวันนี้ บนยอดเขามีรอยพระพุทธบาทจำลองที่พระเจ้าลิไทได้มาจากลังกาทวีป ประดิษฐานอยู่ในวิหารอันสวยงาม มีเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุ มีกุฎิสงฆ์และพระสงฆ์อยู่จำพรรษาเป็นประจำ พื้นที่บนยอดเขามีบริเวณกว้างขวาง มีความสงบร่มรื่น เหมาะแก่การที่ขึ้นไปบำเพ็ญกุศลและพักผ่อนหย่อนใจ ชมทิวทัศน์อันสวยงามของตัวเมืองนครสวรรค์โดยรอบ
ทางเดินเท้ามีบันไดขึ้นไปจนถึงบนยอดเขา ๔๓๗ ขั้น ทางรถยนต์มีถนนลาดยางขึ้นไปจนถึงยอดเขาเช่นเดียวกัน มีลานสำหรับเป็นที่จอดรถกว้างขวางสะดวกสบาย มีสถานีถ่ายทอดโทรทัศน์ของกองทัพบกช่อง ๕ และของ อส มท. ช่อง ๙ ตั้งอยู่บนนั้นด้วย ตามปกติวันธรรมดาจะมีประชาชนชาวนครสวรรค์และต่างจังหวัดที่ผ่านมา นิยมขึ้นไปนมัสการและพักผ่อนหย่อนใจชมทิวทัศน์ของตัวเมืองมิได้ขาด
งานเทศกาลที่สำคัญก็คือ เทศกาลตรุษจีนของชาวตลาดปากน้ำโพ ปรากฏว่ามีประชาชนทั้งไทยและจีนเป็นจำนวนมาก เกือบทุกจังหวัดของประเทศ จะหลั่งไหลพากันขึ้นไปนมัสการและพักผ่อนหย่อนใจชมทิวทัศน์ของตัวเมืองเป็นจำนวนมาก จนเป็นที่กล่าวกันโดยทั่วไปว่า เมื่อมานครสวรรค์แล้ว ถ้าไม่ได้ขึ้นไปบนยอดเขากบก็เหมือนกับว่าไม่ได้มาเมืองนครสวรรค์ หรือถึงนครสวรรค์อะไรทำนองนั้น
วิหารพระนอนใหญ่
วิหารพระนอนใหญ่ ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเจดีย์องค์ใหญ่ อยู่ในบริเวณวัดนรนาถบรรพต พระนอนองค์นี้มีความสวยงามมาก มีความยาวถึง ๑๐ วาเศษ เป็นของเก่ามีความศักดิ์สิทธิ์และมีอภินิหาร เป็นที่เคารพเลื่อมใสของประชาชนมาก ทางกรมศิลาปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุเข้าไว้ ปัจจุบันตัววิหารเล็กและแคบ ซึ่งทางวัดกำลังมีโครงการที่จะปรับปรุงตัววิหารอยู่
ประวัติของหลวงพ่อทอง
หลวงพ่อทอง หรือ หลวงปู่ทอง ท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดนรนาถบรรพต เป็นพระเถระที่มีชื่อเสียงมากในด้านมีวิชาอาคมขลังรูปหนึ่งของจังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดใกล้เคียง ทราบว่าท่านมีวัยรุ่นราวเดียวกับหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน และหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ถึงแม้ท่านจะมรณภาพนานมาแล้วก็ตาม แต่ชื่อเสียงกิตติคุณของท่านก็หาได้หมดไปไม่ ยังอยู่ในความทรงจำของประชาชนตลอดมา โดยเฉพาะชาวตลาดปากน้ำโพและบ้านใกล้เคียง เกือบจะพูดได้ทั้งหมดว่า ทุกคนล้วนเป็นลูกหลานของหลวงพ่อทองทั้งนั้น หลังจากท่านมรณภาพแล้ว ทางวัดได้จัดหล่อรูปเหมือนเท่าองค์จริงของท่านไว้ในวิหาร ทุกวันจะมีประชาชนทั้งใกล้และไกลพันมากราบไหว้ ขอพรความศักดิ์สิทธิ์จากท่านเป็นประจำมิได้ขาด
ประวัติของหลวงพ่อทองนั้น เท่าที่ทราบมาจากคำบอกเล่าของพระเถระบางรูปและผู้ที่เป็นศิษย์ใกล้ชิดท่านมา พอจะได้ความว่า ท่านเป็นคนชาวทุ่งยั้ง จังหวัดอุตรดิตถ์ ท่านได้เดินธุดงค์จากเหนือ เพื่อจะไปทางใต้มาพบวัดเข้า จึงปักกลดพักอยู่ ต่อมาเมื่อท่านได้รับนิมนต์จากญาติโยมให้อยู่ช่วยบำรุงศรัทธาและบูรณะวัด ท่านจึงได้รับนิมนต์และอยู่ช่วยบูรณะวัด ทำให้วัดร้างได้คืนสภาพมาเป็นวัด มีพระสงฆ์ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ดังได้กล่าวมาแล้วตอนต้นว่า หลวงพ่อทองท่านเป็นพระที่มีอาคมขลังและเคร่งครัดในข้อวัตรปฏิบัติมาก จึงใครขอนำมากล่าวเพื่อเป็นที่เชิดชูเกียรติคุณของท่านไว้ ณ ที่นี้ เท่าที่พอจะรวบรวมมาได้
ธุดงควัตร
หลวงพ่อทอง ท่านเป็นพระที่เคร่งครัดในวินัยข้อวัตรปฏิบัติ ตามปกติหลวงพ่อจะออกบิณฑบาตเป็นประจำทุกวันมิได้ขาด ในตอนหลังเมื่อท่านมีอายุมากเดินไม่ไหว ท่านก็ไม่ละกิจวัตรของท่าน ได้นั่งรถสามล้อออกไปบิณฑบาตเป็นประจำทุกวันจนถึงมรณภาพ หลวงพ่อทองท่านเป็นพระที่มักน้อยสันโดษ ไม่สะสม ฉันอาหารหนเดียว นุ่งห่มผ้า ๓ ผืนตลอดมา
เรื่องความเคร่งครัดในข้อวัตรปฏิบัติของท่าน ได้มีผู้เล่าให้ฟังว่า มีพระรูปหนึ่งมาจากวัดบ้านนอก เข้ามาหาหลวงพ่อและขอพักอาศัยสัก ๑ คืน หลวงพ่อท่านถามพระรูปนั้นว่า คุณเอาผ้ามากี่ผืน เอาบาตรมาด้วยหรือเปล่า พระรูปนั้นตอบว่า มีผ้าห่มมาผืนเดียว บาตรก็ไม่ได้เอามา หลวงพ่อท่านตอบไปว่า คุณไปพักโรงแรมดีกว่าจ๊ะ ที่วัดพักไม่ได้หรอก เพราะพระเขาต้องมีบาตร ไตรจีวรครบชุด ผลก็คือพระรูปนั้นไม่ได้พัก
เมตตาธรรม
หลวงพ่อทอง นอกจากท่านจะเคร่งในวินัยสงฆ์และขัดวัตรปฏิบัติแล้ว ท่านยังเป็นผู้เปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรม ทุกเช้าที่ท่านออกบิณฑบาตจะมีคนมารอคอยตักบาตร บางคนก็ขอศีลขอพรจากท่าน บางคนก็ขอให้ท่านช่วยเป่าศีรษะ เพื่อให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ บางคนก็อุ้มลูกจูงหลานมาเพื่อยกให้เป็นลูกหลานของหลวงพ่อ ซึ่งท่านก็รับและให้การสงเคราะห์ทุกรายไป กว่าจะกลับมาถึงวัดก็สายมาก
หลวงพ่อท่านปกติฉันอาหารหนเดียว ก่อนที่จะฉันอาหาร หลวงพ่อจะต้องแบ่งถวายข้าวพระพุทธเสียก่อน จากนั้นก็จะเอากับข้าวและขนมที่ได้มาเทรวมกันลงไปในบาตรแล้วจึงฉัน จากนั้นก็จะแบ่งอาหารที่ท่านฉันเหลือให้เป็นทานแก่ นก กา ไก่ และสุนัขที่พากันมารุมล้อมรอบๆตัวท่านเป็นประจำทุกวัน
อาคมขลังและความศักดิ์สิทธิ์
จากผู้ใกล้ชิดกับหลวงพ่อทองที่ยังมีชีวิตอยู่และได้สิ้นชีวิตไปแล้ว เคยเล่าให้ฟังว่า หลวงพ่อท่านเป็นพระสันโดษ ชอบสงบ และไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับใคร สนใจในด้านก่อสร้างและมักจะทำด้วยมือของท่านเอง เช่น ร้านตักบาตร โบสถ์ วิหารพระนอน กำแพงวิหาร และเจดีย์ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ยังมีหลักฐานปรากฏอยู่จนบัดนี้ เรื่องเกี่ยวกับการซ่อมเจดีย์องค์ใหญ่ มีเรื่องเล่าว่า หลวงพ่อท่านได้จัดทำนั่งร้านขึ้นไปจนถึงยอดเจดีย์ วันหนึ่งขณะที่หลวงพ่อท่านกำลังพอกปูนเจดีย์อยู่นั้น ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด หลวงพ่อท่านได้ตกลงมาจากนั่งร้านยอดเจดีย์ลงมาถึงพื้นดิน พวกพระและลูกศิษย์ที่ช่วยงานอยู่ข้างล่าง ต่างพากันตกใจวิ่งเข้าไปดู แทนที่จะเห็นหลวงพ่อท่านบาดเจ็บ กลับเห็นหลวงพ่อท่านลุกขึ้นยืนปัดฝุ่นที่เปื้อนจีวร แล้วกลับขึ้นไปใหม่
เรื่องนี้ต่างเป็นที่โจษขานกันมากว่า หลวงพ่อทองท่านมีวิชาทำให้ตัวเบาได้ มาจนถึงทุกวันนี้
เรื่องบิณฑบาต ดังได้กล่าวมาแล้วในตอนต้น หลวงพ่อทองท่านถือธุดงค์บิณฑบาตเป็นวัตร มีผู้เล่าให้ฟังว่า สมัยนั้นปากน้ำโพยังไม่มีรถลาวิ่งเหมือนสมัยนี้ จะไปไหนมาไหนมีการเดินเท้าเป็นส่วนใหญ่ เช้าวันนี้ผู้เล่ามีธุระขี่ม้าไปที่ตลาดใต้ เห็นหลวงพ่อท่านกำลังเดินบิณฑบาตอยู่ที่ตลาดใต้ เขาเห็นก็เพียงนึกอยู่ในใจว่า หลวงพ่อท่านทำไมจึงมาบิณฑบาตไกลนัก ท่านมาได้อย่างไร นี่ก็สายแล้ว เขาขี่ม้าวิ่งกลับมาผ่านมาทางวัด กลับเห็นหลวงพ่อกำลังนั่งฉันข้าวอยู่ที่วัด ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลก
นอกจากนั้นก็ยังมีคนเคยเห็นหลวงพ่อไปบิณฑบาตที่บ้านหาดทรายงามบ้าง ที่ตลาดแก้ว อำเภอบรรพตพิสัยบ้าง จากที่กล่าวมานี้ก็เป็นที่โจษขานกันมาก ว่าหลวงพ่อทองท่านมีวิชาหายตัวบ้าง ย่นหนทางได้บ้าง ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกเรื่องหนึ่ง
พระครูวิศิษฏ์จริยาวัตร วัดวรนาถบรรพต นครสวรรค์ ๒๘ ก.พ.๒๕๒๕...
เรื่องกระสุนวิถีโค้ง ตามปกติหลวงพ่อทองท่านจะมีคันกระสุนและลูกไว้เสมอ เพื่อป้องกันคนมาลักตัดไม้ไผ่รวก ลักไก่ ยิงนกในบริเวณวัดของท่าน เรื่องที่น่าแปลกก็คือเวลามีคนมาบอกท่านว่า มีคนกำลังลักตัดไม้หรือยิงไก่ ยิงนกของท่าน แทนที่ท่านจะยิงกระสุนไปทางคนที่ลัก แต่ท่านกลับยิงออกไปตรงหน้าท่าน ซึ่งเป็นคนละทิศกับคนที่มาลัก แต่ผลปรากฏว่าลูกกระสุนไปถูกคนที่มาลักทุกที จนเป็นที่หวาดเกรงกันมาก ไม่มีใครกล้ามาตัดไม้ หรือขโมยของๆท่าน ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นที่โจษกันมากว่าหลวงพ่อท่านมีอาคมขลัง มีกระสุนวิถีโค้ง
การเล่นแร่แปรธาตุ ตามปกติหลวงพ่อทอง ท่านมีความสนใจในเรื่องนี้มาก ท่านจะมีเตาสูบเบ้าสำหรับหลอม และกระบอกสำหรับสูบ ท่านจะทำของท่านอยู่เป็นประจำ ส่วนจะได้ผลเป็นประการใดนั้น ไม่มีใครทราบ ทราบกันแต่เพียงว่าของที่ได้จากการนั้น ท่านจะทำเป็นลูกกลมๆคล้ายลูกอม นานๆท่านก็จะเอามาใส่ในลูกมะกรูด แล้วก็หว่านทานแจก ปรากฏว่าคนที่ได้ลูกอมของท่านไปใช้ มีความศักดิ์สิทธิ์ ในด้านอยู่คงกระพันดีมาก
การทำเครื่องรางของขลัง เท่าที่ทราบในสมัยที่หลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ นอกจากมีลูกอมและรดน้ำมนต์แล้ว หลวงพ่อไม่เคยทำสิ่งเหล่านี้เลย แม้แต่รูปถ่ายของท่าน ท่านก็ไม่ยอมให้ใครถ่าย มีคนมาแอบลักถ่ายรูปของท่านไปบ่อยๆ แต่ปรากฏว่าพอเอาฟิล์มไปล้าง แล้วฟิล์มเสียหมด ไม่มีภาพของท่านติดเลยแม้แต่ภาพเดียว รูปถ่ายของหลวงพ่อมีเพียงภาพเดียวและครั้งเดียวเท่านั้นที่หลวงพ่ออนุญาต คือภาพที่ท่านกำลังนั่งบนธรรมาสน์ กำลังถือใบลานเทศน์อยู่
ทั้งนี้ก็เพราะทนความอ้อนวอนรบเร้าของบรรดาพวกลูกศิษย์ไม่ไหว เพื่อขอไว้เป็นที่ระลึก เคารพบูชาเท่านั้น พูดถึงน้ำมนต์ของหลวงพ่อมีความศักดิ์สิทธิ์มาก มีคนมาขอให้หลวงพ่อรดน้ำมนต์ให้เป็นประจำทุกวันมิได้ขาดและได้ผลตามความปรารถนาทุกราย
พูดถึงเรื่องน้ำมนต์ของหลวงพ่อทองมีเรื่องแปลกแต่จริงเรื่องหนึ่งก็ คือ ผู้ที่มาขอน้ำมนต์หลวงพ่อไปอาบ เพื่อให้รอดพ้นจากการเป็นทหารในตอนคัดเลือก ปรากฏว่าทุกรายที่อาบน้ำมนต์ของหลวงพ่อจะต้องถูกเป็นทหารหมด จนเป็นที่รู้กันโดยทั่วไป ที่เป็นเช่นนี้เข้าใจว่า หลวงพ่อท่านคงจะเห็นว่า เราเกิดมาเป็นผู้ชายคนไทย ไม่ควรเป็นคนเห็นแก่ตัว ควรจะเป็นทหารรับใช้ประเทศชาติ เพื่อรักษาเอกราชและอธิปไตยชาติเราเข้าไว้ก็อาจเป็นได้
ตากบ-ยายเขียด
ตากบ ยายเขียด เป็นรูปปั้นด้วยปูนปิดทองสวยงาม ตั้งอยู่ที่ซุ้มหน้าประตูอุโบสถทั้งสองข้าง ไม่มีใครทราบประวัติว่ามีความเป็นมาอย่างไร เพราะหลวงพ่อท่านไม่ได้บอกเข้าไว้ ทราบแต่เพียงว่า เมื่อหลวงพ่อท่านซ่อมอุโบสถเสร็จแล้ว ท่านได้ปั้นเข้าไว้ เข้าใจว่าที่หลวงพ่อท่านทำไว้คงจะมีความหมายอะไรสักอย่างเป็นแน่ แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็ถือว่าเป็นของเก่าของหลวงพ่อ มีประชาชนไปกราบไหว้ขอความปรารถนากันทุกวันมิได้ขาด
ที่มา นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
ศักดิ์ศรี สำนักข่าวทีนิวส์.