สะเทือนถึงไต! คำถามจาก "พล.ท.นันทเดช" อย่าลืม จุฬาฯมีชื่อเสียงได้เพราะพระมหากรุณาธิคุณของใคร?สงสัย... “เนติวิทย์” เคยกราบแม่ตัวเองไหม!

ภายหลังจากนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองชื่อดัง ได้รับการเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2560 ด้วยคะแนนเสียง 27 เสียง จากองค์ประชุมทั้งหมด 36 คน

ทั้งนี้ นายเนติวิทย์ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ กล่าวว่า ระบบการศึกษาและประเทศไทยควรต้องเดินหน้า เพราะระบบเผด็จการนั้นครอบงำบ้านเมืองอยู่ ตนพร้อมจะเป็นแบบอย่างและโมเดลที่ดี เพื่อให้สภานิสิตจุฬาเป็นแบบอย่างให้แก่สภาเยาวชนทั่วประเทศ โดยหลังวันที่ 1 มิ.ย. จะเริ่มปฏิรูปการรับน้อง โดยรุ่นพี่ต้องไม่กดขี่รุ่นน้อง

ส่วนประเพณีถวายบังคมพระบรมรูปทรงม้า บริเวณลานพระราชวังดุสิต เนื่องในวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในวันปิยมหาราช 23 ตุลาคมนี้ นายเนติวิทย์ กล่าวว่า "คุณต้องเปิดพื้นที่ให้คนที่ไม่อยากถวายบังคมแบบหมอบคลาน เปิดพื้นที่ให้เขายืนเคารพก็ได้ บางคณะยังบังคับกันอยู่ เราจะลงไปดูแล" 

นอกจากนี้ จะลงพื้นที่รับฟังทุกเสียงในจุฬา อาทิ ทั้งนักศึกษา อาจารย์ ผู้บริหาร ไม่ว่าจะมีความคิดเห็นกับตนอย่างไร ตามที่ได้มีการเสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น

 

จากกรณีดังกล่าวนี้ หัวค่ำของวันที่ 4 พค.  "พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์" ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุข้อความทั้งหมดว่า...

 

"จุฬาฯครบ100ปี"

กรณี นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ได้รับเลือกเป็น ประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2560 ด้วยคะแนน 27 เสียง จากองค์ประชุม 36 คน บ่งบอกอะไรแก่เราบ้าง

(1) ตามปกติการเลือกสภาฯ ในสมัยผม  ต้องติดรูปเปิดเผยบอกว่าใครจะลงตำแหน่งอะไรบ้างในทีม โดยการแข่งขัน แบ่งออกเป็นทีมต่างๆ เพื่อหาเสียงก่อนการเลือกตั้งอย่างน้อย 15 วัน มีการหาเสียงแข่งกันอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ปัจจุบันนี้ ไม่มีแล้วงุบงิบกัน
เอง คงเหลือ ท่ีมีการเลือกตั้งกันจริงๆ อยู่ท่ีรามคำแหงแห่งเดียว ส่วนเด็กจุฬา,ธรรมศาสตร์ ส่งคืนภาระการต่อสู้ไปอยู่ตามโรงภาพยนต์กันหมดแล้ว

(2) เสียงแค่ 27คนจะมาเป็นตัวแทนนิสิตจุฬาฯเกือบหมื่นคนได้อย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ย่อมขึ้นอยู่กับ 
ประชากรของจุฬาฯจะตัดสินใจกันเอง

(3) เสียง27คนนั้นใช้ได้สำหรับเลือกหัวหน้าห้องเรียนเท่านั้นครับ ซึ่งมีประมาณแค่ 45คน 
แต่ก็ไม่ถือว่าสมบูรณ์ พอที่จะเป็นเสียงแทนนักเรียนทั้งชั้นได้ นี่เลือกยังลงคะแนนลับอีก เพราะถ้าลงเปิดเผย ไอ้เด็กท่ีสนับสนุนเนติวิทย์ฯจะไม่กล้าลงคะแนนให้แน่ ดังนั้น น้องคนไหนเป็นกรรมการสภานิสิตปีนี้ลาออกได้แล้ว ไม่เช่นนั้นจะโดนเพื่อนอำไปตลอดชีวิตเลยครับ

สุดท้าย นาย เนติวิทย์ฯ ให้สัมภาษเพื่อนกันเองว่า ประเพณีถวายบังคมท่ีลานพระรูป ร.5
ต้องเปิดพื้นท่ีให้พวกท่ียืนเคารพบ้าง คงไม่รู้มั้งว่า ท่ีจุฬามีชื่อเสียง มีเงินมากกว่ามหาลัยอื่นๆ นั้นมาจากทรัพย์สมบัติของใครท่ีทิ้งไว้ให้ 
ถามจริงๆเกิดมาเคยกราบแม่ตัวเองไหม!