- 23 มิ.ย. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ tnews.co.th
ในเดือนเมษายน ปีพุทธศักราช ๒๕๐๘ ขณะนั้น สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ พระสังฆราช หรือ พระมหาอัม อมฺพโร ในขณะนั้น ได้เดินทางไปร่วมภาวนากับ พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ หลวงตามหาบัว ณ วัดป่าบ้านตาด จ. อุดร พร้อมด้วยครูบาอาจารย์วัดราชบพิธ
ซึ่งต่อมาท่านได้สมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระราชาคณะถึงสององค์ ได้แก่ท่านเจ้าคุณจินดาภรณ์มุนี(ทองเจือ จินฺตากโร)นั้น คือสมเด็จพระพุทธปาพจนบดี อดีตเจ้าอาวาสวัดราชบพิธองค์ที่ ๕ อีกองค์หนึ่งก็คือท่านมหาอัมพร (อัมพร อมฺพโร) เป็นสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เจ้าอาวาสวัดราชบพิธองค์ที่ ๖ ในปัจจุบันและได้รับการสถาปนาเป็น สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๒๐
และต่อจากนั้นก็เดินทางออกจากวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ไปวัดถ้ำขาม จ.สกลนคร เพื่อมาพักภาวนากับ "หลวงปู่ฝั้น อาจาโร" ณ วัดถ้ำขาม จ.สกลนคร และในครั้งนั้นเอง ท่านพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ได้กล่าวกับ พระมหาอัมพร อัมพโร ว่า
"มหาฯ ภาวนาดีดีนะ ต่อไปจะได้เป็นสมเด็จ"
ไม่น่าเชื่อเลยว่าด้วยอภิญญาทางจิตที่สามารถรู้ได้ล่วงหน้า ต่อมาพระมหาอัมพร ก็ได้รับสมณศักดิ์และเลี่อนขึ้นตามอันดับถึงที่สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ ตามคำกล่าวของท่านพระอาจารย์ฝั้น กระทั่งได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๒๐ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ขอขอบคุณภาพจาก : ม.ล.ชัยนิมิตร นวรัตน
และข้อมูลจาก : เพจศิษย์พระอาจารย์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร