- 14 ส.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมาย ได้ที่ http://www.tnews.co.th
เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องของ "วิญญาณผีตายโหง" ที่เข้ามาข้องเกี่ยวกับ "หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ" วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรื่องมีอยู่ว่า
มีครอบครัวหนึ่งอยู่ที่อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครอบครัวนี้อยู่กันมาด้วยความปกติสุข จนกระทั่งวันหนึ่ง ลูกสาวคนหนึ่งไปธุระนอกบ้าน พอกลับมาถึงบ้านก็ล้มฟุบลงไปเหมือนคนหมดสติกะทันหัน พ่อแม่ญาติพี่น้องพากันตระหนกตกใจ รีบเข้าไปปฐมพยาบาลอย่างโกลาหล
ครั้นลูกสาวฟื้นคืนสติก็กลับมีลักษณะท่าทางผิดแปลกไปจากเดิมดุจเป็นคนละคน แววตาขุ่นขวางน่ากลัว เวลาเอ่ยปากพูดออกมาก็เปลี่ยนน้ำเสียงเป็นแหบห้าวประหนึ่งเสียงผู้ชาย รวมทั้งถ้อยคำวาจาก็เหมือนเป็นคนอื่นพูด มีการเรียกเอาอาหารสด อาหารคาว มากินอย่างมูมมาม คล้ายกับอดอยากหิวโหยมานาน
พ่อแม่เห็นลูกสาวมีกิริยาอาการเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน แถมยังพูดกันไม่รู้ความเหมือนเสียสติ ก็รู้แน่ว่าคงจะมีวิญญาณร้ายมาเข้าสิง จึงออกไปตระเวนหาหมอผีผู้มีอาคมแก่กล้ามาขับไล่วิญญาณที่เข้าสิงให้ออกไป เมื่อหมอผีมาถึงบ้านก็เริ่มทำพิธีไล่ผีด้วยคาถาอาคม ซึ่งมันก็ออกไปอย่างง่าย ๆ พ่อแม่ญาติพี่น้องจึงโล่งอกโล่งใจ...คิดว่าเหตุร้ายคงจะยุติลงเพียงเท่านี้
แต่ที่ไหนได้... อีกไม่กี่วันต่อมา วิญญาณร้ายตนเดิมก็มาเข้าสิงลูกสาวอีก คราวนี้มันถึงกับประกาศว่า "มันคือวิญญาณของชายคนหนึ่งซึ่งถูกยิงตายบริเวณหลังวัดใกล้ ๆ บ้าน เมื่อเห็นลูกสาวเจ้าของบ้านคนนี้เดินผ่านไป มันจึงเกิดความพอใจและต้องการจะเอาไปเป็นเมียให้ได้"!!
คราวนี้พ่อแม่ของหญิงสาวก็ยิ่งตื่นตระหนกตกใจ เพราะถ้าผีตายโหงถึงขั้นจะเอาลูกสาวของตนไปเป็นเมียเช่นนี้ก็เท่ากับว่ามันมีเจตนาจะทำให้ถึงตายแน่ ๆ พ่อแม่ของหญิงสาวจึงต้องตระเวนหาสารพัดหมอผีมาขับไล่วิญญาณร้ายออกไปให้ได้ แต่ก็ไม่มีผู้ใดทำได้สำเร็จแม้แต่รายเดียว
หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
เป็นเวลานานถึงสามปีเต็ม ๆ ที่หญิงสาวถูกวิญญาณร้ายเข้าสิง สภาพของเธอตอนนี้ไม่ต่างกับคนตกเป็นทาสของผีตายโหงซึ่งจะคอยรังควานเป็นระยะ ๆ เธอไม่เป็นอันกินอันนอน ร่างกายผ่ายผอมทรุดลงอย่างน่าใจหาย ภาวะเช่นนี้ได้กดดันบีบคั้นครอบครัวนี้ให้เผชิญกับความทุกข์ทรมานใจอย่างแสนสาหัส และถ้าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากวิบากกรรมครั้งนี้ก็เชื่อแน่ได้ว่าหญิงสาวคงจะต้องถึงแก่ชีวิตอย่างแน่นอน
แต่เดชะบุญที่วาสนากรรมดีของหญิงสาวผู้นี้ยังมีอยู่...เมื่อมีคนที่รู้จักกับพ่อของเธอมาบอกว่า ควรจะไปขอความเมตตาจากหลวงปู่ดู่ วัดสะแก เพราะท่านเป็นพระเถระที่มีอานุภาพจิตสูงมาก สามารถช่วยขจัดปัดเป่าความทุกข์ทรมานของหญิงสาวจากการย่ำยีบีฑาของวิญญาณร้ายได้ ผู้เป็นพ่อจึงตกลงใจเดินทางไปยังวัดสะแกทันที
เมื่อพ่อของหญิงสาวเดินทางไปถึงวัดสะแกก็พบว่าหลวงปู่ดู่กำลังพูดคุยอยู่กับศิษย์คนหนึ่งของท่าน พ่อของหญิงสาวจึงเข้าไปกราบนมัสการท่าน ท่านก็ทักทายปราศรัยถามไปว่ามีเรื่องอะไรถึงได้มาที่นี่ ชายผู้แบกทุกข์ก็เล่าเรื่องที่เกิดกับลูกสาวให้ท่านฟังอย่างละเอียด และขอความเมตตาจากท่านให้ช่วยกรุณาปลดเปลื้องความทุกข์ให้ด้วย
หลวงปู่ดู่นั่งรับฟังเงียบ ๆ เมื่อทราบจุดประสงค์ของพ่อของหญิงสาวแล้ว ท่านก็หันไปบอกลูกศิษย์ซึ่งนั่งอยู่ใกล้ ๆ ว่า
"แกช่วยเขาที... เอาบุญ"
ศิษย์ผู้นี้เป็นนักปฏิบัติธรรม ฝึกความเพียรทางจิตอยู่กับหลวงปู่ดู่มานานพอสมควรจนเป็นที่ไว้วางใจของท่าน เมื่อท่านสั่งเช่นนั้น เขาก็ประนมมือรับคำ
พ่อของหญิงสาวจึงถามหลวงปู่ดู่ว่าจะให้นำตัวลูกสาวมาที่วัดหรือไม่ ... ท่านตอบสั้น ๆ ว่า "ไม่ต้อง"
จากนั้น หลวงปู่ดู่และศิษย์ของท่านก็นั่งหลับตาเจริญสมาธิพร้อม ๆ กัน ณ ที่ตรงนั้นเลย โดยไม่ต้องจัดเครื่องสักการะบัตรพลีมาประกอบพิธีแต่อย่างใด แม้แต่ดอกไม้ธูปเทียนก็ไม่มีแม้แต่อย่างเดียว พ่อของหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายจึงแอบคิดลังเลสงสัยว่า หลวงปู่ดู่จะช่วยลูกสาวให้พ้นจากอำนาจผีร้ายได้อย่างไร เพราะไม่เห็นมีพิธีกรรมอันเข้มขลังดังเช่นที่เคยเห็นพวกหมอผีผู้มีวิชาอาคมกระทำกันมา
เวลาผ่านไปไม่ถึงอึดใจ หลวงปู่ดู่ก็พูดขึ้นเพื่อบอกกับศิษย์ของท่านว่า
"เรียกผีมารับบุญหลวงปู่ทวด...รับบุญข้า ให้โมทนาซะ...จะได้ไปดี เป็นผีก็ไปเอาเมียผี ไม่ใช่เอาเมียคน รับบุญไปจะได้เมียนางฟ้าเยอะแยะ ... ดูด้วยว่าผีรับแล้วหรือยัง"!!
ศิษย์ของท่านนั่งสงบนิ่งอยู่ในสมาธิ คงจะติดต่อกับหลวงปู่ดู่ด้วยจิต จากนั้นหลวงปู่ก็พูดขึ้นอีกว่า
"รับแล้วใช่ไหม...ไปเกิดซะ! เอาละ...หมดเรื่อง!"
พ่อของหญิงสาวแม้จะเคารพหลวงปู่ดู่เพียงไรก็ยังไม่วายลังเลสงสัยว่า ท่านจะช่วยลูกสาวให้พ้นจากอำนาจผีร้ายได้อย่างไร เพราะไม่เห็นท่านประกอบพิธีที่ชวนให้เกิดความขลังอย่างใดเลย อีกทั้งลูกสาวก็อยู่ไกลถึงอำเภอนครหลวง ซึ่งท่านก็ไม่รู้ว่าบ้านเรือนตั้งอยู่ที่ไหน กิริยาอาการที่วิญญาณผีตายโหงเข้าสิงลูกสาวเป็นอย่างไร และท่านก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นลูกสาวคนไหนที่ถูกผีสิง
เมื่อหลวงปู่ดู่และศิษย์ถอนจิตออกจากสมาธิและผ่อนคลายอิริยาบถแล้ว ศิษย์ของท่านก็บอกกับชายคนนั้นว่า
"ตอนนี้เขาไปเกิดแล้ว ... ผีเป็นเหตุ! ลุงกลับบ้านไปลองดู ... ถ้าลูกสาวไม่เป็นอะไรแสดงว่าหาย"
พ่อของหญิงสาวเคราะห์ร้ายก้มกราบหลวงปู่ดู่ด้วยความปีติยินดี แล้วก็นมัสการลากลับไป
เวลาผ่านไปเกือบเดือน ชายคนเดิมก็เดินทางมาที่วัดสะแกอีกครั้ง เขาเข้าไปกราบนมัสการหลวงปู่ดู่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส แล้วรายงานให้หลวงปู่ทราบว่า
"ลูกสาวหายดีแล้วครับ ... ตั้งแต่วันนั้นไม่มีอาการผีสิงอีกเลย เพราะหลวงปู่เมตตาไว้ครับ"!!
ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพและที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้ : หนังสือ “วิญญาณอาถรรพ์” (www.bp.or.th/webboard)
เพื่อเผยแผ่บารมีเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติคุณครูบาอาจารย์