ถวายงานครั้งสุดท้าย!! ด้วยน้ำพระทัยสมเด็จแม่ โครงการศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด สู่..ความภูมิใจได้รับหน้าที่สร้างประติมากรรมประดับพระเมรุมาศในหลวง

 

              เมื่อวันนี้ (๙ กันยายน ๒๕๖๐) ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ ที่ตรงนี้ มีกำลังใจ กลุ่มจิตอาสา ใต้ร่มพระบารมี ได้โพสต์รูปภาพพร้อมเกี่ยวกับกรณี โครงการศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด ที่หลอมรวมเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง สู่การได้เป็นช่างรับหน้าที่สำคัญสร้างประติมากรรมประดับพระเมรุมาศ ร.๙ ข้อความว่า 

 

            จากน้ำพระทัย สู่ โครงการศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด หลอมรวมเป็น...หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ความภูมิใจในชีวิตของพวกเขาในวันนี้..คือการได้เป็นช่าง
รับหน้าที่สำคัญสร้างประติมากรรมประดับพระเมรุมาศ ร.๙ 

              สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเล็งเห็นถึงปัญหาการขาดแคลนที่ดินทำกินในภายภาคหน้า เนื่องจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ผืนดินยังคงมีจำนวนเท่าเดิม ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาขาดแคลนที่ทำกินในอนาคต พระองค์จึงทรงให้หาต้นแบบ ในการทำมาหากินที่จะช่วยให้ราษฎรสามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้ โดยมีแนวคิดว่า...

            ให้พ่อบ้านเข้าเป็นแรงงานของโครงการศิลปาชีพ สำหรับแม่บ้านให้ทำงานบ้าน ทำงานเกษตรโดยขอให้เป็นเกษตรปลอดสารพิษ และเมื่อพ่อบ้านว่างจากการทำงานหลักแล้ว ให้มาช่วยทำงานเกษตร ซึ่งถือเป็นวิถีชีวิตดั้งเดิมของเกษตรกรไทย ทรงมีพระราชประสงค์จะจัดตั้งศูนย์ศิลปาชีพแห่งใหม่ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์รวมศิลปวัฒนธรรมของทุกภาค ซึ่งจะเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนไทยให้คงอยู่สืบไป โดยทรงให้เลือกหาสถานที่ที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครมากนัก  ซึ่งคณะกรรมการดำเนินงาน จึงได้พิจารณาเลือกพื้นที่บริเวณตำบลเกาะเกิด อำเภอปางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นสถานที่ก่อสร้างศูนย์ศิลปาชีพแห่งใหม่

 

           โครงการศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด ตำบลเกาะเกิด อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การคัดเลือกครอบครัวเข้ามาสู่โครงการ จะคัดเลือกครอบครัวขนาดกลางที่มีสมาชิกไม่เกิน ๕ คน ต้องมีความขยันขันแข็ง ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เมื่อเข้ามาอยู่จะได้รับการจัดสรรที่ดินให้ครัวเรือนละ ๒ ไร่ เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน โดยให้อยู่รวมกันในรูปแบบหมู่บ้านมีผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้ปกครองดูแลให้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

             หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ดำเนินการมาแล้วกว่า ๘ ปี บนเนื้อที่ประมาณกว่า ๗๐ ไร่ ปัจจุบันมีครัวเรือนจำนวน ๒๑ ครัวเรือน อาศัยอยู่ร่วมกัน ต่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ประการสำคัญพวกเขาสามารถใช้อาชีพเกษตรกรรมเลี้ยงชีพได้อย่างมั่นคง มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสมดั่งเจตนารมณ์ ประติมากรรมประดับพระเมรุมาศจำนวนมากมายในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความตั้งใจของผู้คนที่ต้องการถวายงานเป็นครั้งสุดท้าย คนเบื้องหลังอีกกลุ่มคือนักเรียน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นชาวปกาเกอะญอ มาศึกษาวิชาศิลปะที่ศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด รับหน้าที่สำคัญสร้างประติมากรรมเทพนม ประดับฐานไพฑีและบันไดนาค นี่คือความภูมิใจสูงสุดครั้งหนึ่งในชีวิตของพวกเขา

 

 

 

ขอบคุณที่มาจาก : เฟสบุ๊ค ที่ตรงนี้ มีกำลังใจ