บาปแห่งการทำแท้ง บาปสุดมหันต์ !!! ที่พระพุทธเจ้า ห้ามอย่างเด็ดขาด !?! "ไม่มีเหตุผลใด ที่ทำให้การทำบาป กลายเป็นไม่บาป" !!!

ในช่วงนี้มีข่าวเกี่ยวกับศพเด็กทารกที่โดนทำแท้ง รวมถึงก่อนหน้านี้ก็มีข่าวนักเรียน ม.ปลายทำแท้ง ผมคงจะไม่พูดถึงเรื่องของเหตุและผล ว่าหากมีเหตุจำเป็น ควรจะทำแท้งหรือไม่ เพราะในพระไตรปิฎกได้กล่าวเอาไว้ว่า "ไม่มีเหตุผลใด ที่ทำให้การทำบาป กลายเป็นไม่บาป" 

ฉะนั้นสิ่งที่ผมจะกล่าวถึง ก็คงเป็นเรื่องของขอบเขตของบาป ว่าทำแบบไหนเรียกว่าบาป อย่างแรกก็คือ ไม่ว่าในทางการแพทย์และทางกฎหมายจะมีข้อกำหนดอย่างไร แต่ชีวิตของมนุษย์นั้น ได้เริ่มต้นในตอนที่ปฏิสนธิแล้ว เหมือนพระพุทธเจ้าก็จะจุติลงพระครรภ์พระมารดา และอยู่ในพระครรภ์ ๑๐ เดือนถึงจะประสูติ

แปลว่าในตอนที่ปฏิสนธิ วิญญาณได้เคลื่อนจากภพอื่น มาอยู่ในท้องแล้ว ฉะนั้นหากทำแท้ง ไม่ว่าอายุครรภ์จะกี่วัน ก็ถือว่าบาปทั้งสิ้น (ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไร ทำแท้งก็บาปทั้งสิ้น)

อย่างที่สองก็คือ ผู้ที่มีส่วนส่งเสริม ช่วยเหลือ ยินดี สรรเสริญ ให้คนทำแท้ง ก็ล้วนแล้วแต่ได้บาปทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น คนทำ คนช่วยทำ คนแนะนำให้ทำ คนแนะนำสถานที่ให้ทำ คนออกเงินให้ทำ คนที่ยินดีที่เขาทำ คนที่ช่วยปิดบัง

ฉะนั้น ทุกคนในข่าวที่เกี่ยวข้อง ล้วนแล้วแต่ได้บาปทั้งสิ้น เรื่องเศร้ายิ่งกว่านั้นก็คือ ผมได้ดูข่าวเมื่อวาน แล้วได้ทราบว่า ผู้ที่เปิดคลีนิกนั้น เรียนรู้วิธีมาจากแม่ และแม่ก็เอาเงินที่ทำแท้งมาเลี้ยงลูกๆ รวมถึงผู้เปิดคลีนิกยังได้รับเลี้ยงเด็กที่ไม่ตายอีก ๘ คน

หากเป็นเช่นนั้นจริง แม่ของเขาก็ได้ทำบาปหนัก เพราะนอกจากตนจะทำบาปมากแล้ว ยังสอนให้ลูกทำบาปอีก ส่วนเงินที่เอามาเลี้ยงลูก ก็ยังเป็นเงินบาปอีกต่างหาก ส่วนเจ้าของคลีนิกที่เลี้ยงเด็กนั้น เขาก็ได้บุญในส่วนที่เลี้ยงเด็ก แต่เขาก็ได้บาปในส่วนที่ทำแท้ง (บุญก็ส่วนบุญ บาปก็ส่วนบาป)

และไม่ว่าเขาจะอ้างว่า การทำแท้งนั้นเป็นการช่วยผู้อื่น สิ่งนั้นก็เป็นการช่วยผู้อื่นทำบาป เขาจึงได้บาป ไม่ใช่ได้บุญ

ผมดูข่าวแล้ว รู้สึกสงสารผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะอาชีพที่พระพุทธเจ้าห้ามทำเด็ดขาดนั้นมีอยู่ ๕ อาชีพ ทั้ง ๕ อาชีพล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับบาปฆ่าสัตว์ทั้งนั้น เช่น ห้ามขายสัตว์ให้เขาเอาไปฆ่า ห้ามขายยาพิษ

ความจริงแล้วคลีนิกทำแท้ง ก็คือโรงงานฆ่ามนุษย์นั่นเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในอาชีพต้องห้าม ที่พระพุทธเจ้าห้ามอย่างเด็ดขาด เพราะบาปมากๆ และพระพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้ว่า คนที่ฆ่าสัตว์ไม่มีทางเจริญ และยิ่งคนที่ฆ่ามนุษย์ยิ่งไม่มีทางเจริญใหญ่

ดังเนื้อหาในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๒ ข้อ ๒๘๙ ที่ว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดีละ ข้อนั้นแม้เราก็ไม่ได้เห็นไม่ได้ฟังมาว่า  พรานเนื้อ ฆ่าเนื้อ ขายอยู่ ย่อมขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน เป็นเจ้าของโภคะ หรือครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่ เพราะกรรมนั้น เพราะอาชีพนั้น ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่าเขาย่อมเพ่งดูเนื้อเหล่านั้นที่พึงฆ่า ที่นำมาเพื่อฆ่า ด้วยใจที่เป็นบาป ฉะนั้น เขาจึงไม่ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน ไม่ได้เป็นเจ้าของโภคะ ไม่ได้ครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่ จะกล่าวอะไร ถึงบุคคลผู้เพ่งดูมนุษย์ที่พึงฆ่า ที่นำมาเพื่อฆ่า ด้วยใจที่เป็นบาปเล่า เพราะผลข้อนั้น ย่อมเป็นไปเพื่อสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ตลอดกาลนานแก่เขา เมื่อตายไปแล้วย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ฯลฯ

อ้างอิงข้อมูลจาก - www.nutpobtum.com