- 19 ธ.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
เช้าวันอังคาร ที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๐ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปยังศาลาอบรมสงฆ์ วัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ทรงเปิดการประชุมสัมมนาพระปริยัตินิเทศก์ ประจำปี ๒๕๖๑
โอกาสนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระโอวาท ความตอนหนึ่งว่า
สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า รัชกาลปัจจุบัน ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ในฐานะที่ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก ทรงพระราชปรารภให้คณะสงฆ์และหน่วยงานที่รับผิดชอบ พยายามแสวงหาหนทางแก้ไข ปรับปรุง และพัฒนาการคณะสงฆ์ ด้วยน้ำพระราชหฤทัยหวังประโยชน์ยั่งยืนแห่งพระบวรพุทธศาสนาอยู่เสมอ
แนวทางพัฒนาพระสงฆ์และสังคมไทยแนวทางหนึ่งซึ่งทรงเน้นย้ำพระราชทานไว้ และสอดคล้องกับแนวพระราชปฏิบัติของสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ได้แก่การจัดการศึกษาพระปริยัติธรรม ให้มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ตลอดจนให้พระอุปัชฌาย์ และพระสังฆาธิการทุกระดับ เอาใจใส่อย่างจริงจัง ในการอบรมสั่งสอนพระภิกษุสามเณรในปกครอง รวมตลอดถึงประชาชน โดยเฉพาะในชุมชนที่สำนักเรียนหรือสำนักศาสนศึกษานั้นๆ ตั้งอยู่ เพื่อให้พระสงฆ์เป็นที่พึ่งของชุมชนได้อย่างแท้จริง ท่านทั้งหลายในฐานะพระสังฆาธิการ ในฐานะพระปริยัตินิเทศก์ และในฐานะพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ย่อมมีหน้าที่โดยตรงในการที่จะวางนโยบาย บริหารจัดการ ควบคุม ดูแล ประสานงาน เสนอแนะ และสนับสนุนงานด้านการศึกษา
ขอให้ทุกท่านตระหนักในภาระหน้าที่ของท่านว่าการทำหน้าที่ทางด้านพระปริยัติธรรม นอกจากเป็นการสืบอายุพระศาสนาให้ยั่งยืนนาน ยังเป็นการสนองพระราชประสงค์ของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ อีกด้วย
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสั่งสอนไว้ว่า ‘ถ้าพร่ำสอนผู้อื่นฉันใด ก็ควรทำตนฉันนั้น’ ทุกท่านในที่นี้เป็นนักการศึกษา ไม่ว่าเป็นบรรพชิตหรือคฤหัสถ์ก็ตาม ล้วนมีหน้าที่อบรมสั่งสอน และที่พิเศษไปกว่านั้นคือยังมีหน้าที่ควบคุมดูแลคนที่ทำหน้าที่สอนด้วย ท่านจึงได้ชื่อว่าเป็นครูของครูอีกชั้นหนึ่ง จึงขออย่าลืมพระวาจาของพระบรมครู คือพระพุทธเจ้า ที่ทรงเตือนเราไว้ว่าถ้าจะสอนอะไรใคร ก็ต้องทำตนให้เป็นแบบให้ได้ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช