ที่สุดแห่งการค้นพบ "เรือขนสมบัติสมัย ร.๕" อายุกว่า ๑๐๐ ปี !!! เหตุการณ์...อาถรรพ์ ที่นักดำน้ำลองดี...ไม่มีวันลืม !!!

ถือว่าเป็นเรื่องสุดฮือฮามาก เมื่อมีนักดำน้ำในพื้นที่ ริมแม่น้ำประแสร์ ต.เนินฆ้อ อ.แกลง จ.ระยอง พบเรือขนสมบัติอยู่ใต้พื้นทะเลใน จ.ระยอง ซึ่งค้นพบที่บริเวณ เกาะมันนอก หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า จุดกองหินเมย์ หลังจากมีข่าวออกไปทำให้นักดำน้ำมากมายจากทั่วทุกสารทิศแห่เข้าทำน้ำในบริเวณนี้เป็นจำนวนมากแต่ส่วนใหญ่ก็ไม่พบ

จากการสอบถามไปที่ นายอนุรักษ์ ดีนาน ประธานสภาเทศบาลตำบลเนินฆ้อ ว่าข่าวที่ว่าพบเรือขนสมบัติที่เป็นข่าวดังนั้นเป็นจริงหรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบว่าเป็นจริง โดยคนที่พบคนแรกคือ นายวิเชียร สิงโตทอง อายุ ๕๗ ปี นักดำน้ำมือฉมังของพื้นที่ โดยนายวิเชียร ได้โชว์แบบภาพร่างของเรือมาแสดง พร้อมด้วยเหรียญกษาปณ์ยุค ร.๕ ตอนปลาย และ ยุค ร.๖ ตอนนี้ น่าจะเป็นประมาณปี พ.ศ.๒๔๕๙ โดยนายวิเชียร ยังเล่าต่อว่าครั้งแรกที่พบเรือดังกล่าวคือเมื่อ ๒๕ ปีที่ผ่านมา

โดยเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๕ มีเรื่องเล่าจาก นายเปรม วัชรางกูร หัวหน้าโบราณคดีใต้น้ำค่ายเนินวง กรมศิลปากร จ.จันทบุรี ได้เล่าให้ฟังว่า ได้พานักศึกษาและคณะครู ซึ่งให้ตนช่วยหาพื้นที่ฝึกดำน้ำลึกประมาณ ๒๐ เมตร จึงนึกขึ้นได้ว่า มีจุดที่เคยพบซากเรือโบราณ มีความลึกประมาณ ๒๐ ม. พอดี จึงพาคณะลงไปดำจุดนั้น ซึ่งนักศึกษาที่ร่วมคณะต่างตกตะลึงกับภาพเรือโบราณที่เห็นเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ได้แต่ดูอยู่ห่างๆไม่กล้าที่จะเข้าใกล้ แต่มีนักศึกษาคนหนึ่งเข้าไปในตัวเรือ แต่ก็รีบออกมา พร้อมกับแสดงท่าบอกว่าต้องการขึ้นผิวน้ำจึงรีบพาขึ้น เมื่อสอบถามก็บอกด้วยอาการปากคอสั่น หวาดกลัวอย่างรุนแรงหลังตั้งสติ ได้เล่าว่า เจอภาพคนกำลังนั่งกันอยู่ในเรือแล้วก็หายไปต่อหน้า

นายเปรม ยังได้เล่าอีกว่า เคยมีครูดำน้ำชื่อดังว่า บิลลี่ มาปรึกษากับตนเรื่องการสำรวจเรือโบราณลำนี้ จนเกิดการทำพิธีขอขมาใหญ่โตว่า หากมีสิ่งใดที่จะให้นำขึ้นมา ก็ขอให้เห็น หากไม่ต้องการก็อย่าปรากฎให้เห็น แล้วจึงเริ่มดำน้ำลงไป ก็เห็นเรือโบราณลำดังกล่าวโดยการวัดตัวเรือ ยาว ๔๑.๒๐ ม. กว้าง ๖.๕ ม. สำรวจในเรือพบว่าเป็นเรือกลไฟ เพราะมีเครื่องกลอยู่ในเรือ และยังพบกองฟืนหนึ่งกอง พอใช้มือปัดทราย ก็ต้องตะลึง เพราะเหรียญเงินลอยกระจายขึ้นมามากมาย จึงช่วยกันเก็บใส่ถุง ได้มากกว่าหนึ่งพันเหรียญ เป็นเหรียญยุค ร.๕ ตอนปลาย และยุคร.๖ ตอนต้น

ส่วนทางด้าน นายวิเชียร สิงโตทอง ผู้ที่พบเจอครั้งแรกและกระจายข่าวเรื่องนี้เนื่องจากตนอยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำเรือโบราณนี้ขึ้นมาจากน้ำเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษากันต่อไป

อ้างอิงข้อมูลจาก - INN