- 10 มี.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เรื่องของวาจา ใช่ว่าไม่สำคัญ เพราะคำพูดทำให้คนรักกันได้และทำให้คนเกลียดกันได้ ฉะนั้นก่อนจะพูดสิ่งใดออกไป ควรมีสติคิดก่อนพูดอยู่เสมอๆ หากพูดดี ย่อมนำพาแต่สิ่งที่ดีๆมาให้กับตนและผู้อื่น หากพูดไม่ดีย่อมนำความเดือดเนื้อร้อนใจมาสู่ผู้อื่นและกรรมนั้นก็ย่อมตกถึงตัวผู้พูดด้วย
ในทางพระพุทธศาสนา การพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ เรียกว่า “วจีทุจริต” คือ การทำชั่วด้วยวาจา เป็นการกระทำบาปอย่างหนึ่ง ส่งผลให้เกิดกรรมตามมาต่อผู้กระทำหลากหลายประการ แต่จะหนักเบาไปตามเจตนา
การพูดเท็จ เป็นการพูดเพื่อปิดบังความจริง ทำให้ผู้ฟังเข้าใจผิด
พูดคำหยาบ เป็นคำพูดที่ไม่น่าฟัง ไม่สุภาพ ยิ่งมีเจตนาให้ผู้อื่นเจ็บช้ำน้ำใจกับคำพูดของตนด้วยแล้ว ยิ่งก่อให้เกิดกรรมไม่ดีมากเท่านั้น
พูดส่อเสียด เป็นคำพูดที่จงใจ เพื่อให้ผู้อื่นแตกแยกกัน ทะเลาะเบาะแว้งกัน
พูดเพ้อเจ้อ เป็นคำพูดที่ไม่มีสาระ พูดเหลวไหล พูดไม่รู้จักจบวกไปวนมา ทำให้เสียเวลาและเปล่าประโยชน์
ผลกรรมของ “วจีทุจริต” นั้นพระพุทธเจ้าแสดงไว้ใน สัพพลหุสสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕ อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต http://www.84000.org/tipitaka/book/v.php?B=23&A=5127&Z=5167
ความว่า
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย มุสาวาท(พูดเท็จ)อันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้เป็นไปในนรก ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัยวิบากแห่งมุสาวาทอย่างเบาที่สุดย่อมยังการกล่าวตู่ด้วยคำไม่เป็นจริงให้เป็นไปแก่ผู้มาเกิดเป็นมนุษย์
ปิสุณาวาจา(พูดส่อเสียด)อันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้เป็นไปในนรก ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัยวิบากแห่งปิสุณาวาจาอย่างเบาที่สุด ย่อมยังการแตกจากมิตรให้เป็นไปแก่ผู้มาเกิดเป็นมนุษย์
ผรุสวาจา(พูดคำหยาบ)อันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้เป็นไปในนรก ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัยวิบากแห่งผรุสวาจาอย่างเบาที่สุด ย่อมยังเสียงที่ไม่น่าพอใจให้เป็นไปแก่ผู้มาเกิดเป็นมนุษย์
สัมผัปปลาปะ(พูดเพ้อเจ้อ)อันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้เป็นไปในนรก ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัยวิบากแห่งสัมผัปปลาปะอย่างเบาที่สุด ย่อมยังคำไม่ควรเชื่อถือให้เป็นไปแก่ผู้มาเกิดเป็นมนุษย์
นอกจากนี้ยังมีคำสอนของ “หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ” ที่กล่าวสอนศิษย์ไว้เกี่ยวกับผลกรรมทางวาจาที่ร้ายแรงและให้ผลรวดเร็ว คำสอนนี้ได้เผยแผ่โดย เว็บไซต์อกาลิโก http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=14224 และเว็บไซต์พลังจิต https://palungjit.org/threads/หลวงปู่ดู่สอนศิษย์-เรื่อง-กรรมทางวาจา.180336/ โพสต์โดยคุณ J.Sayamol สมาชิก เว็บไซต์พลังจิต
ซึ่งผู้เขียนขอสรุปใจความโดยย่อ ในคำสอนของหลวงปู่ดู่เกี่ยวกับกรรมทางวาจา คือ “ผู้ที่ทำกรรมไม่ดีด้านวาจา จะแวดล้อมไปด้วยศัตรูทั้งภายนอกและภายใน เป็นที่รังเกียจแก่คนทั้งหลาย มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจอยู่เสมอทั้งกายและใจ หากบางคนที่สร้างกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่รู้ตัว ขณะเดียวกันกรรมดีที่ตนเคยสร้างมานั้นกลับน้อยลง กรรมชั่วที่สร้างอยู่นี้ก็จะให้ผลอย่างหนักทั้งภพปัจจุบันและภพหน้า”
หลวงปู่ดู่ท่านบอกไว้อีกว่า “กรรมทางวาจามีร้ายแรงมาก เพราะการพูดใส่ร้าย พูดไม่ดี พูดทำลายความหวังของผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ถ้ารู้ตัวแล้วก็ให้หยุดกระทำ หากไม่หยุดกระทำ กรรมย่อมสนองทั้งในชาตินี้และเมื่อตายไปก็ทำให้เกิดในนรกขุมต่างๆ” หลวงปู่ดู่ท่านยังได้สอนศิษย์ไว้เสมอว่า “คนดีเขาไม่ตีใคร” หมายถึง ไม่พูดจาทำให้ใครเดือดร้อน หรือทุกข์ใจ และ “คนดีเขาไม่ว่าใคร ถ้าแกไปว่าเขา แกก็จะเป็นคนไม่ดี”
สามารถอ่านคำสอนของหลวงปู่ดู่เรื่องกรรมทางวาจาฉบับเต็มได้ที่ https://palungjit.org/threads/หลวงปู่ดู่สอนศิษย์-เรื่อง-กรรมทางวาจา.180336/
กรรมทางวาจาจึงร้ายแรงนักดังที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้และหลวงปู่ดู่ได้สอนไว้ ซึ่งร้ายแรงที่สุดคือเกิดในนรก เป็นเปรต และสัตว์เดรัจฉาน แม้เกิดมาเป็นมนุษย์ก็ยังต้องได้รับเศษกรรมต่างๆ อันจะทำให้ตนต้องเดือดเนื้อร้อนใจอยู่เสมอ ฉะนั้นควรคิดก่อนพูดทุกครั้ง เพื่อหยุดกรรมชั่วทางวาจาในทุกรูปแบบ
อ้างอิงข้อมูลจาก : สัพพลหุสสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕ อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
http://www.84000.org/tipitaka/book/v.php?B=23&A=5127&Z=5167
หลวงปู่ดู่สอนศิษย์ จาก http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=14224 และ
https://palungjit.org/threads/หลวงปู่ดู่สอนศิษย์-เรื่อง-กรรมทางวาจา.180336/ โพสต์โดยคุณ J.Sayamol
เครดิตภาพ : เพจ : วัดพุทธพรหมปัญโญ : วัดถ้ำเมืองนะ https://web.facebook.com/watputtaprompanyo/
และ Napapawn