- 13 มี.ค. 2561
ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมายได้ที่ https://www.facebook.com/partiharn99/
สมเด็จพระพุฒาจารย์ หรือนามที่นิยมเรียก "สมเด็จโต" "หลวงปู่โต" หรือ "สมเด็จวัดระฆัง" เป็นพระภิกษุมหานิกาย เป็นพระมหาเถระรูปสำคัญที่ได้รับความนิยมนับถืออย่างมากในประเทศไทย นับเป็นพระเกจิเถราจารย์ผู้มีปฏิปทาจริยาวัตรน่าเลื่อมใส เป็นที่เคารพนับถือทั่วไปมาตั้งแต่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ตั้งแต่พระมหากษัตริย์จนถึงสามัญชน และนอกจากจริยาวัตรด้านความสมถะอันโดดเด่นของท่านแล้ว ท่านยังทรงคุณทางด้านวิชชาคาถาอาคม เมตตามหานิยมอีกด้วย
ในสมัยรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จฯพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดฯ ให้สร้างสระบัวขึ้นที่ตำบลปทุมวัน แล้วทรงให้สร้างวัดขึ้นวัดหนึ่งชื่อ วัดปทุมวนาราม ให้เป็นวัดของสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี ครั้งหนึ่ง ทรงมีพระราชประสงค์จะทรงบาตร ในสระนั้น โปรดฯ ให้อาราธนาเจ้าประคุณสมเด็จฯ กับพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ผู้ใหญ่ผู้น้อยอีกหลายรูป ลงเรือสำปั้นเล็กที่เรียกว่า เรือบิณฑบาตพายไปรับบาตร เมื่อเจ้าประคุณสมเด็จฯ รับบาตรแล้วก็ไม่กลับ ยังพายวนเวียนอยู่หน้าพระที่นั่ง บางทีพายเขาไปใกล้เรือพระราชาคณะที่คอยรับบาตรอยู่นั้น แล้วยกพายขึ้นบังศรีษะพระราชาคณะรูปนั้น บอกว่า "ฉันช่วยบังแดดให้นะจ๊ะ"
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทอดพระเนตรเห็นมีพระราชดำรัสว่า
"เขาให้แล้ว ยังไม่ไปอีก เที่ยวพายวนเวียนอยู่นี่เอง จะเอาอะไรอีกเล่า"
เจ้าประคุณสมเด็จฯ ถวายพระพรว่า
"เกรงพระราชาคณะที่แก่เฒ่าและไม่ชำนาญพายเรือ ถ้าเรือล่มลงจะได้ช่วยท่านทัน"
แล้วก็พายเลยกลับไป ว่าตั้งแต่นั้นมาก็เลิก มิได้ทรงบาตรในสระนั้นอีก เรื่องที่เจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านห่วงก็เกิดขึ้นจริงๆ จนได้ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ สระที่เสด็จขึ้นไปประทับที่พระราชวังบางปะอิน อยุธยานั้น โปรดฯ ให้นิมนต์พระสงฆ์วัดนิเวศน์ธรรมประวัติกับวัดชุมพลนิกายาราม เข้าไปรับบิณฑบาต ในพระราชวัง ๒ ครั้ง
ครั้งแรก เป็นการบิณฑบาตทางบก ใช้บาตรสะพายคล้องไหล่ มีสายโยงตามอย่างโบราณ พระสงฆ์วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ เป็นฝ่ายธรรมยุติ ค่อนข้างลำบากในการใช้บาตรแบบมีสายสะพายเพราะเคยแต่อุ้มบาตร ต้องใช้เวลาฝึกหัดซ้อมรับบาตรแบบสายสะพายกันอยู่นาน ด้วยเกรงว่าฝาบาตรหรือตัวบาตรจะพลัดตกลงไป แต่พอถึงวันจริง ทุกอย่างก็เป็นไปเรียบร้อยด้วยดี
ครั้งหลัง โปรดฯ ให้เข้ารับบิณฑบาตทางเรือ พระสงฆ์ต่างลงเรือสำปั้นเล็ก ตั้งบาตรไว้ข้างหน้าพายไปเอง เหมือนทีพระไปเที่ยวรับบิณฑบาตทางเรือโดยปกติ วันนั้นพระสงฆ์ที่ไม่ชำนาญการพายเรือ เพราะไม่เคยมาก่อนได้รับความลำบากพอสมควรถึงขนาดเรือพระครูธรรมทิวากร (โห้) เจ้าอาวาสวัดชุมพลฯ เข้าไปล่มในพระราชวัง ต้องช่วยกันเอะอะไปหมด เป็นที่ทุลักทุเลยิ่งนัก
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.appgeji.com ที่มา…ลีลาวาทะสมเด็จโตฯโดย ร้อยเอกประชุม สุขสำราญ , เพจ ตำนานเล่าขานพระผู้ทรงฌานอภิญญา ครูบาอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคม