- 01 มิ.ย. 2562
เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที หลายคนก็อาจจะอยู่บนโลกใบนี้เพื่อใช้ชีวิตให้คุ้ม หรืออยู่กับคนที่คุณรักไปนานๆ ใช่ไหมล่ะคะ เคล็ดลับการมีอายุยืนที่จะแนะนำต่อไปนี้ มาจากคนที่มีอายุเกิน 100 ปี ทั้งชาวอิตาลี ญี่ปุ่น และคอสตาริกา ซึ่งการมีอายุยืนเป็นหัวข้องานวิจัยในหลายประเทศทั่วโลก จึงทำให้ทราบว่านอกเหนือจากลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็นตัวกำหนดการมีอายุยืนยาวแล้ว พฤติกรรมการกิน การใช้ชีวิต ก็มีผลให้เราอายุยืนหรือสั้นได้เช่นกันค่ะ
1) กินถั่วให้มากในชีวิตประจำวัน
ถั่วเป็นอาหารสุขภาพที่ให้ประโยชน์สูงกับร่างกาย เช่น ถั่วเหลือง อุดมด้วยโปรตีนจากพืช และวิตามินอี ช่วยป้องกันภาวะหลอดเลือดแข็งตัว ทั้งอุดมด้วยสารพอลิฟีนอลที่ออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่ชรา แต่การกินของหวานที่ทำจากถั่ว เช่น ถั่วเขียวต้มน้ำตาลคงไม่เหมาะกับการรับประทานบ่อยๆ เพราะยิ่งทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไป ลองเปลี่ยนมาหุงข้าวธัญพืชที่ใส่ถั่ว หรือโรยถั่วในสลัดผักสดๆ จะดีกว่าค่ะ
2) กินผักให้หลากหลาย
"คนไม่กินผักอายุสั้น" คำกล่าวนี้เป็นเรื่องจริงอย่างไม่ต้องสงสัย แม้จะเป็นคนที่กินปลาเยอะ แต่ถ้ากินผักน้อยก็จะอายุสั้น ปริมาณผักที่เหมาะสมในการบริโภคต่อวันคือ 350 กรัม ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องเป็นผักหลายชนิด ปริมาณพอๆ กับสองฝ่ามือพูนๆ ควรจัดผักให้มีหลากหลายชนิดในหนึ่งมื้อ เช่น บรอกโคลี ผักกาดขาว และมะเขือเทศ ซึ่งมีสารอาหารแตกต่างกันเพื่อให้ร่างกายได้รับทั้งวิตามินและแร่ธาตุ นอกจากนี้ควรกินผักปลอดสารเคมี ซึ่งเติบโตตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับคนที่เมืองโลมานิดา พวกเขาพยายามเลิกใช้สารเคมีในเกษตรกรรมและแหล่งอาหารให้มากที่สุดค่ะ
3) อย่าปล่อยให้ตัวเองว่าง
ในยุคที่คนญี่ปุ่นในพื้นที่ห่างไกลทำการเกษตร ประมง ป่าไม้ และใช้แรงงานอื่นๆ ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยไม่มีคำว่าเกษียณอายุ พบว่า คนที่ทำงานหนักจะมีอายุยืนยาว สิ่งที่สังเกตเห็นนี้เกิดขึ้นเหมือนกันทั่วโลก อย่างหมู่บ้านไซลานัส ในเกาะซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี มีประชากรที่อายุมากกว่า 100 ปี หลายคนที่ยังเลี้ยงแกะ ซึ่งเป็นงานใช้แรงงานอยู่ทุกวัน
4) มองเห็นคุณค่าในชีวิตเสมอ
คนที่มีสุขภาพจิตดี มองโลกในแง่บวก สนุกกับการใช้ชีวิต และเห็นคุณค่าของตัวเอง เป็นคนที่พร้อมจะมีชีวิตยืนยาวถึง 100 ปีได้ เรื่องนี้ไม่ใช้สิ่งมหัศจรรย์อะไร เพราะการเห็นคุณค่าในทุกสิ่งที่ทำในแต่ละวัน อย่างคนเลี้ยงแกะที่เกาะซาร์ดิเนียเป็นเรื่องดี ไม่ว่าจะมีอายุเท่าไร ก็ควรมีกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำ แทนการนั่งเหม่อลอย ดูโทรทัศน์ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ยังสามารถทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง จะรู้สึกถึงความกระฉับกระเฉง กระปรี้กระเปร่า และสนุกกับการมีชีวิตต่อไป
5) กฎข้อที่ 5 อย่ากินมากเกินไป
หนึ่งในโรคที่มาพร้อมกับความเจริญก้าวหน้าของสังคม คือโรคเบาหวานซึ่งเกิดมาจากนิสัยการกินมากเกินไป ข้อมูลอ้างอิงจากอาจารย์ฮิโรเสะ โนบุโยชิ ศาสตราจารย์พิเศษศูนย์วิจัยทางการแพทย์เกี่ยวกับผู้ที่มีอายุเกินกว่าหนึ่งร้อยปี ระบุว่า คนจะมีอายุยืนต้อง "กินแค่พออิ่ม" ถ้ากินน้อยไปก็ไม่มีเรี่ยวแรง แต่ถ้ากินมากเกินไปก็ไม่ดี หลายคนมีความสุขกับการกินของอร่อย บางครั้งเราจึงเผลอกินอาหารมากเกินไปจนเต็มท้อง โดยเฉพาะเวลาหิวจัด การกินแค่พออิ่มหรือประมาณ 80% ของกระเพาะอาหาร ต้องเริ่มจากการตัดวงจร "หิวมากจนกินไม่ยั้ง" ออกไปก่อนเพื่อฝึกควบคุมการกินของตัวเอง โดยเริ่มต้นจาก เพิ่มจำนวนมื้ออาหารย่อยในแต่ละวัน กินช้าลงเพื่อให้สมองส่วนกลางส่งสัญญาณว่าอิ่มออกมาได้ทัน และกินอาหารที่ต้องใช้เวลาเคี้ยวนานและเคี้ยวเยอะค่ะ