- 11 ก.ค. 2562
เนื่องในวันที่ ๑๑ กรกฎาคม เป็นวันคล้ายวันสวรรคต ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช หรือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๓ หรือ สมเด็จพระรามาธิบดีศรีสรรเพชญ เป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ ๒๗ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เสด็จพระบรมราชสมภพ เมื่อวันจันทร์ เดือนยี่ ปีวอก พ.ศ. ๒๑๗๕ เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง กับพระนางศิริธิดา ต่อมาภายหลังยกเป็นพระราชเทวี และมีพระขนิษฐาร่วมพระมารดาคือสมเด็จเจ้าฟ้าศรีสุพรรณ กรมหลวงโยธาทิพ หรือพระราชกัลยาณี
เนื่องในวันที่ ๑๑ กรกฎาคม เป็นวันคล้ายวันสวรรคต ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช หรือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๓ หรือ สมเด็จพระรามาธิบดีศรีสรรเพชญ เป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ ๒๗ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เสด็จพระบรมราชสมภพ เมื่อวันจันทร์ เดือนยี่ ปีวอก พ.ศ. ๒๑๗๕ เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง กับพระนางศิริธิดา ต่อมาภายหลังยกเป็นพระราชเทวี และมีพระขนิษฐาร่วมพระมารดาคือสมเด็จเจ้าฟ้าศรีสุพรรณ กรมหลวงโยธาทิพ หรือพระราชกัลยาณี
สมเด็จพระนารายณ์มีส่วนสำคัญในการขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระศรีสุธรรมราชา โดยพระองค์ได้ร่วมมือกับสมเด็จพระศรีสุธรรมราชาในการชิงราชสมบัติจากสมเด็จเจ้าฟ้าไชย ซึ่งเป็นพระเชษฐาของพระองค์ โดยหลังจากที่พระองค์ช่วยสมเด็จพระศรีสุธรรมราชาขึ้นครองราชสมบัติได้แล้วนั้น สมเด็จพระศรีสุธรรมราชาทรงแต่งตั้งให้พระองค์ดำรงตำแหน่งพระมหาอุปราชและให้เสด็จไปประทับที่พระราชวังบวรสถานมงคล หลังจากสมเด็จพระศรีสุธรรมราชาขึ้นครองราชสมบัติได้ ๒ เดือนเศษ พระองค์ทรงชิงราชสมบัติจากสมเด็จพระศรีสุธรรมราชา
สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ เมื่อเวลาสองนาฬิกา วันพฤหัสบดี แรม ๒ ค่ำ เดือน ๑๒ จุลศักราช ๑๐๑๘ ปีวอก (ตรงกับวันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๑๙๙) มีพระนามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระรามาธิบดี เป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ ๒๗ แห่งกรุงศรีอยุธยา ขณะมีพระชนมายุ ๒๕ พรรษา หลังจากประทับในกรุงศรีอยุธยาได้ ๑๐ ปี พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเมืองลพบุรีขึ้นเป็นราชธานีแห่งที่ ๒ เมื่อปี พ.ศ. ๒๒๐๙ และเสด็จไปประทับที่ลพบุรีทุกๆ ปี ครั้งละเป็นเวลานานหลายเดือน
ขณะสมเด็จพระนารายณ์ประชวรหนักอยู่ที่พระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์นั้น เจ้าพระยาวิชเยนทร์คิดจะใช้ทหารฝรั่งเศสเข้ายึดอำนาจเมื่อพระองค์สวรรคต แล้วยกพระปีย์ ลูกข้าราชการชั้นผู้น้อยคนหนึ่งที่ทรงเลี้ยงดูเสมือนเป็นราชโอรส แต่ยอมเข้ารีตไปแล้ว ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์สยามพระองค์แรกที่เป็นคริสเตียน จึงเรียกทหารฝรั่งเศสของนายพลเดฟาชที่ประจำอยู่ป้อมบางกอกให้ขึ้นมาลพบุรี แต่ฝ่ายพระเพทราชาและขุนหลวงสรศักดิ์ซึ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อชาวตะวันตก รู้การเคลื่อนไหวของเจ้าพระยาวิชเยนทร์ จึงชิงส่งทหารเข้าล้อมวังอย่างเงียบ ๆ และปลอมหมายรับสั่งเรียกเจ้าพระยาวิชเยนทร์ไปเข้าเฝ้า เจ้าพระยาเชื้อชาติกรีกก็เข้าวังไปอย่างมั่นใจ โดยมีทั้งทหารฝรั่งเศสและอังกฤษเป็นองครักษ์ แต่เสียท่าตอนจะเข้าวังต้องปลดอาวุธตามทำเนียม ฉะนั้นพอเจ้าพระยาวิชเยนทร์ผ่านประตูเข้าไปก็ถูกทหารไทยล้อมจับ ทหารอังกฤษและฝรั่งเศสต่างหนีเอาตัวรอด เจ้าพระยาวิชเยนทร์เลยถูกนำตัวไปหลักประหาร
สมเด็จพระนารายณ์ทรงทราบที่พระเพทราชาและขุนหลวงสรศักดิ์สองพ่อลูกคิดกบฏ แต่อาการประชวรของพระองค์ก็คงจะมีพระชนม์ชีพได้ไม่เกิน ๓ วัน สิ่งที่พระองค์ทรงเป็นห่วงอย่างยิ่งในขณะนั้นก็คือ ชีวิตของบรรดาข้าราชบริพารที่เฝ้ารับใช้พระองค์อยู่ จะไม่มีใครได้รอดชีวิต เพราะความโหดอำมหิตของสองพ่อลูก จึงมีรับสั่งให้อาราธนาพระราชาคณะเข้ามาประมาณ ๒๐ รูป แล้วดำรัสให้นำข้าราชบริพารทั้ง ๑๕ คนออกไปอุปสมบท หวังจะให้เอาผ้าเหลืองคุ้มชีวิต แต่พระราชาคณะทั้งหลายถวายพระพรว่า การจะนำคนเหล่านี้ออกไปจากวังนั้น ทหารที่เฝ้าอย่างแน่นหนาคงไม่ให้ออกไปแน่ ที่เข้ามาได้นี้ก็เพราะเป็นพระสงฆ์ ทรงสลดพระทัยที่ต้องตกอยู่ในความควบคุมของสองพ่อลูกกบฏ จึงมีพระราชดำรัสให้ทำพิธีอุปสมบทคนเหล่านี้ในพระมหาปราสาทเสียเลย แล้วห่มผ้าเหลืองออกไป
พระที่นั่งสุทธาสวรรย์
พระราชาคณะก็ถวายพระพรว่า พิธีอุปสมบทจะทำได้ก็แต่ในเขตวิสุงคามเสมาเท่านั้น ทั้งยังถวายคำแนะนำว่า ถ้าพระองค์จะมีพระราชอุทิศพระมหาปราสาทถวายเป็นวิสุงคามสีมาแล้ว ก็จะทำพิธีอุปสมบท ณ ที่นี้ได้ สมเด็จพระนารายณ์จึงทรงทำตามที่พระราชาคณะทูล อุทิศถวายพระที่นั่งสุทธาสวรรย์เป็นวิสุงคามสีมา พระราชาคณะจึงทำพิธีอุปสมบทข้าราชบริพารทั้งหลายเป็นพระภิกษุสงฆ์ แล้วนำออกจากวังเป็นขบวนไปวัด รอดชีวิตกันได้ทุกคน เหลือแต่พระปีย์ที่จะขออยู่รับใช้เบื้องยุคลบาทตลอดไป
แม้สมเด็จพระนารายณ์จะรับสั่งให้หนี พระปีย์ก็ไม่ยอมไป ทรงคาดการณ์ได้ดีจึงรับสั่งว่า "งั้นมึงก็ตายพร้อมกูแหละอ้ายเตี้ย" และแล้วก็เป็นไปตามที่ทรงคาด เช้าต่อมาพระปีย์ออกไปล้างหน้าบ้วนปากที่ระเบียง คนของขุนหลวงสรศักดิ์แอบซุ่มอยู่จึงผลักตกจากระเบียง พระปีย์ร้องขึ้นว่า "ทูลกระหม่อมช่วยลูกด้วย" สมเด็จพระนารายณ์ได้ยินก็ทรงคว้าพระแสงปืน ชันพระกายจะลุกขึ้นยิงคนที่ทำร้ายพระปีย์ แต่ไม่มีพระกำลัง ทรงทรุดลงสิ้นพระชนม์อย่างโดดเดี่ยวเพียงพระองค์เดียว
สมเด็จพระนารายณ์มหาราชสวรรคตใน พ.ศ. ๒๒๓๑ แต่คนไทยเรามีความกตัญญูรู้คุณอยู่ในสายเลือด สำนึกในคุณงามความดีของคนที่สร้างคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่อยู่ในสถานะใดของสังคม ถ้าผู้มีบทบาทในบ้านเมืองทุกวันนี้ จะคำนึงถึงบันทึกของประวัติศาสตร์ไว้บ้าง ก็จะทำให้คนรุ่นหลังสรรเสริญกราบไหว้ แทนการสาปแช่ง พระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๒๓๑ ณ พระที่นั่งสุทธาสวรรย์ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จังหวัดลพบุรี รวมครองราชสมบัติเป็นเวลา ๓๒ ปี มีพระชนมายุ ๕๖ พรรษา
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระนารายณ์มหาราช