- 05 ก.พ. 2563
ถ้าพูดถึงเมนูสุดอร่อยและเป็นที่ถูกปากของคนไทย เชื่อว่าเมนู "กล้วยแขกทอด" ต้องติดหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน แต่บางครั้งเวลาเราซื้อทานตามร้านค้าก็จะเห็นได้ว่า น้ำมันที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้าใช้นั้นมีสีเข้มไปค่อนข้างดำ เนื่องจากการใช้ซ้ำเป็นจำนวนหลายครั้ง ซึ่งอย่างที่หลายคนรู้กันดีนั้นก็คือ การทานของทอดที่ใช้น้ำมันซ้ำนั้นอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ
ถ้าพูดถึงเมนูสุดอร่อยและเป็นที่ถูกปากของคนไทย เชื่อว่าเมนู "กล้วยแขกทอด" ต้องติดหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน แต่บางครั้งเวลาเราซื้อทานตามร้านค้าก็จะเห็นได้ว่า น้ำมันที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้าใช้นั้นมีสีเข้มไปค่อนข้างดำ เนื่องจากการใช้ซ้ำเป็นจำนวนหลายครั้ง ซึ่งอย่างที่หลายคนรู้กันดีนั้นก็คือ การทานของทอดที่ใช้น้ำมันซ้ำนั้นอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ
แต่จะดีกว่าไหมถ้าหากคุณสามารถทานเมนูสุดโปรดได้ โดยไม่ต้องเสี่ยงผลเสียต่อสุขภาพ แถมยังอร่อยได้ทุกที่ทุกเวลาอีกด้วย และวันนี้เราก็มีสูตรดีๆมาฝากไปทำกันเลย
สูตรที่ 1
วัตถุดิบ
1.กล้วยน้ำวาห่าม 1 หวี
2.แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย
3.แป้งสาลี 1 ถ้วย
4.มะพร้าวขูด 1 ถ้วยตวง
5.เกลือ 1/2 ช้อนชา
6.หัวกะทิ 1 1/2 ถ้วยตวง
7.งาคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
8.น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
9.น้ำปูนใส 1/2 ถ้วยตวง
10.น้ำมันพืช สำหรับทอด
วิธีทำ
1.นำแป้งข้าวเจ้า แป้งสาลี เกลือ นวดกับหัวกะทิ และมะพร้าวขูด นวดให้เข้ากัน ใส่น้ำปูนใส แล้วนวดต่อ ใส่งาลงไปให้ทั่ว
2.ตั้งกระทะไฟปานกลาง ใส่น้ำมันกะให้ท่วมกล้วยที่จะทอด เมื่อน้ำมันร้อนนำกล้วยที่หั่นตามยาว 3-4 ชิ้น ต่อ 1 ลูก (แล้วแต่ลูกใหญ่หรือเล็ก) ชุบแป้งที่ผสมไว้ตามข้อ 1 ใส่ในน้ำมันจนเต็มกระทะ
3.ทอดจนแป้งเหลืองกรอบ และเนื้อกล้วยสุก ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมันก่อนแล้วค่อยเสิร์ฟ
เคล็ดลับ สำหรับมันทอด เผือกทอด ฝักทองทอด กล้วยตากทอด ใช้สูตรเดียวกับกล้วยแขกได้เลย แต่เผือกและมันเทศนั้น หลังปอกเปลือก ให้แช่น้ำเอายางออก แล้วจึงหั่นชิ้นหนาประมาณ 0.5 – 1 เซนติเมตร
สูตรที่ 2 สูตรกล้วยแขกมหารวย
ส่วนผสม
1. แป้งข้าวจ้าวตราเหรียญทองคู่ 500 กรัม
2. แป้งข้าวโพดตราเหรียญทองคู่ 46.5 กรัม
3. มะพร้าวขูดขาว 385 กรัม
4. น้ำตาลทราย 155 กรัม
5. เกลือป่น 14 กรัม
6. หัวกะทิ 625 กรัม
7. น้ำปูนใส 115 กรัม
8. งาขาว 100 กรัม
9. ผงฟู 27 กรัม
10. กล้วยน้ำว้า
ขั้นตอนการทำ (เพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้น)
1. ผสมแป้งทั้งสองชนิดให้เข้ากัน ใส่มะพร้าว น้ำตาลทราย เกลือ งาขาว ผงฟู และใส่หัวกะทิ น้ำปูนใสให้เข้ากัน
2. ปอกกล้วยน้ำว้า หั่นตามยาวเป็นสามส่วน นำกล้วยที่ปอกแล้วใส่ในส่วนผสมที่เตรียมไว้
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันมากหน่อย ทอดกล้วยแขกด้วยไฟปานกลาง จนกล้วยสุกเหลือง
สูตรที่ 3
ส่วนผสม
1.กล้วยน้ำว้า 1 หวี (วันนี้ใช้ไปแค่ 8 ลูก เพราะว่าลูกใหญ่)
2.แป้งทอดกรอบ (โกกิ) 1 ถ้วย (แป้งสาลีอเนกประสงค์หรือแป้งข้าวเจ้า)
3.กะทิ 1/2 ถ้วย
4.น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
5.น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
6.มะพร้าวขูด 1 ถ้วย
7.งาขาวคั่ว 1 ถ้วย
8.น้ำปูนใส 2 ช้อนโต๊ะ
8.เกลือ 1 ช้อนชา
9.น้ำมันสำหรับทอด 2 ถ้วย
วิธีทำกล้วยทอด
1.ใส่แป้งโกกิหรือแป้งทอดกรอบลงในอ่างใหญ่หน่อย
2.ใส่กะทิลงไป
3.คลุกเคล้าผสมกะทิกับแป้งให้เข้ากันดี
4.ใส่น้ำเปล่าลงไป ตาใส่น้ำอุณหภูมิห้อง แต่ถ้าเป็นน้ำเย็นจัดน่าจะกรอบกว่า คน ๆ ให้ส่วนผสมละลายเข้ากันเลย
5.เติมน้ำตาลทรายแล้วคนอีกเรื่อย ๆ ให้น้ำตาลทรายละลายเลย
6.เมื่อน้ำตาลทรายกับแป้งละลายเข้ากันดีแล้วใส่มะพร้าวขูดลงไป
7.ตามด้วยงาขาว ตาคั่วงาก่อนนิดหนึ่งไม่ต้องให้เหลืองมากแล้วผสมทุกอย่างให้เข้ากัน
8.คนจนส่วนผสมแป้งข้นนิด ๆ แบบนี้
9.ใส่น้ำปูนใสลงไปด้วย จะทำให้กล้วยทอดกรอบนาน (วิธีทำน้ำปูนใส ตาเอาปูนแดงที่ซื้อมาจากร้านเอเชีย 2 ช้อนโต๊ะ แล้วก็เทน้ำใส่ขวดขนาดที่เห็น ปิดฝาเขย่าให้ปูนละลาย แล้วก็ตั้งไว้ปล่อยให้ปูนแดงตกลงก้นขวด เอาน้ำใส ๆ มาทำอาหารกันได้เลย ส่วนน้ำปูนใสที่เหลือ ตาเก็บไว้อุณหภูมิห้องธรรมดา เก็บไว้ได้นานเดียว)
10.ใส่เกลือด้วย
11.คนส่วนผสมให้เข้ากัน
12.ต่อไปเราจะนำกล้วยน้ำว้าฝานใส่ลงไปในส่วนผสมแป้งแล้วทอดกัน ลูกหนึ่งนี้ตาฝานแค่ 3 ชิ้น ตาชอบเป็นชิ้นหนา ๆ ไม่ชอบแบบบาง ๆ
13.เสร็จแล้วก็ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง ๆ ไปทางร้อนใส่น้ำมันลงไป เอากล้วยชุบแป้งลงทอดเลย ตาอุตส่าห์เอากระทะทองเหลืองมาทอดนึกว่าจะไม่ติดก้นกระทะ ที่ไหนได้ ติดเหมือนกัน ใครมีกระทะเทฟลอนก็ใช้ได้นะคะ แต่เวลาทอดนี่ต้องคนตลอดเวลาเลย แนะนำให้หากระทะที่ใหญ่ ๆ จะดีกว่า
14.เวลาทอดก็อย่าใส่กล้วยให้แน่นมาก เวลากลับกล้วยทอดจะได้สะดวก
15.พอทอดจนกล้วยเหลืองกรอบได้ที่แล้วตักขึ้นเลยค่ะ พักไว้บนกระดาษอเนกประสงค์
16.เสร็จแล้ว กล้วยทอดหรือกล้วยแขก สูตรนี้ง่าย ๆ แต่กรอบมาก ตาพักไว้บนตะแกรงแบบนี้ ไม่ต้องปิดฝา ถ้าเอาไปใส่ภาชนะที่มีฝาปิด จะเป็นไอน้ำ ทำให้กล้วยแขกไม่กรอบ ตาเดินกินกันทั้งวันก็ยังกรอบจนถึงตอนเย็นเลย สูตรนี้ง่ายสุด ๆ แล้ว อร่อยด้วย ลองทำกันดู
อ้างอิงข้อมูลจาก สมาชิกพันทิป หมายเลข 2287288 , คุณ tukata001 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ขอบคุณคลิปจาก Tukata Thai Kitchen