เปิด 7 ขั้นตอนรีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อให้ผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้น

ต้องบอกเลยว่ายุคสมัยนี้การซื้อ-ขายบ้านเป็นเรื่องที่ไม่ได้ทำได้ยากเช่นเมื่อก่อน มีการยืดหย่อนขึ้นมากกว่าจากเดิม และยังมีอีกหนึ่งเคล็ดลับที่หลายๆคนอาจจะยังไม่ทราบว่าทำให้ดอกเบี้ยลดน้อยลงอย่าง "การรีไฟแนนซ์" ซึ่งหมายความว่า เป็นการขอเงินกู้จากธนาคารใหม่ เพื่อปลดภาระเงินกู้จากธนาคารเก่า ซึ่งทางด้าน Supalai Society ได้มาสรุปง่ายๆเพียง 7 ขั้นตอนดังนี้ 

7 ขั้นตอน รีไฟแนนซ์บ้าน

1.พิจารณาระหว่างธนาคารเดิมกับธนาคารใหม่
สิ่งที่ต้องเปรียบเทียบคือ ค่าธรรมเนียมในการรีไฟแนนซ์ และดอกเบี้ยที่ธนาคารใหม่เสนอให้

 

2.ตรวจสอบสัญญาการกู้
ตรวจสอบว่า กำหนดการที่สามารถให้รีไฟแนนซ์ได้เมื่อไร โดยส่วนใหญ่แล้วธนาคารจะอนุญาตให้รีไฟแนนซ์ได้หลังผ่อนชำระครบ 3 ปี
 

3.ตรวจสอบข้อมูลยอดหนี้คงเหลือ
การตรวจสอบข้อมูลยอดหนี้คงเหลือ สามารถทำได้ผ่านการติดต่อกับสถาบันทางเงินเดิมเพื่อสรุปยอดหนี้สินในการผ่อนชำระ โดยข้อมูลเหล่านี้เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยเลือกธนาคารใหม่ ผ่านการนำยอดหนี้ที่คงเหลือไปคำนวณกับข้อเสนอที่ธนาคารมอบให้

 

4.เตรียมเอกสารให้พร้อม
แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้

4.1เอกสารข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านและทะเบียนสมรส เป็นต้น
4.2เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน และรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน เป็นต้น
4.3เอกสารหลักประกัน เช่น โฉนดที่ดินและสัญญาเงินกู้จากธนาคารเดิม เป็นต้น

5.ยื่นขอสินเชื่อสำหรับการรีไฟแนนซ์
หลังเตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว ผู้ขอสินเชื่อสามารถเข้าไปขอสินเชื่อกับทางธนาคารได้ โดยเมื่อธนาคารรับเรื่องแล้วจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปประเมินราคาหลักประกันเพื่อประกอบการอนุมัติ และเมื่อได้รับการอนุมัติแล้วทางธนาคารจะติดต่อกับธนาคารเดิมเพื่อสอบถามหนี้คงเหลือและนัดวันไถ่ถอนต่อไป

 

6.เตรียมค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ
โดยค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมมี ดังนี้ ค่าประเมินราคา ค่าจดจำนอง จ่ายให้กรมที่ดิน ค่าประกันอัคคีภัย ค่าอากรแสตมป์ และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ของธนาคาร

 

7.ทำสัญญาและจดจำนองที่กรมที่ดิน
สำหรับการทำสัญญา ทางธนาคารจะมีเจ้าหน้าที่ถือสัญญาไปให้เซ็นที่กรมที่ดิน พร้อมกับการทำสัญญาจดจำนองในวันเดียวกัน หลังทำสัญญาและจดจำนองเรียบร้อยแล้ว ก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการรีไฟแนนซ์

ขอบคุณ Supalai Society,ฐานเศรษกิฐ

 ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ thainews