หวีดร้องระงม !!! นาทีชีวิต 2 ฮีโร่ช่วยคนจากรถจมน้ำ ชนปุ๊ปโดดช่วยปั๊ป...บุญคุณนี้จดจำชั่วชีวิต (มีคลิป)

นาทีชีวิต 2 ฮีโร่ช่วยคนจากรถจมน้ำ ชนปุ๊ปโดดช่วยปั๊ป...บุญคุณนี้จดจำชั่วชีวิต

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2560 ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า รัชชานนท์ มิวล์  ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดระทึกและสุดประทับใจในคราวเดียวกัน เมื่อมีรถยนต์คันหนึ่งตกลงไปในน้ำ และมีชาย2คนกระโดดลงไปช่วยคนที่อยู่ในรถ

ซึ่งเจ้าของคลิประบุว่า "น้ำใจคนไทย ชนปุ้บช่วยปั้บ เหตุเกิดคลองก่อนถึงลูกแก"

หวีดร้องระงม !!! นาทีชีวิต 2 ฮีโร่ช่วยคนจากรถจมน้ำ ชนปุ๊ปโดดช่วยปั๊ป...บุญคุณนี้จดจำชั่วชีวิต (มีคลิป)

หวีดร้องระงม !!! นาทีชีวิต 2 ฮีโร่ช่วยคนจากรถจมน้ำ ชนปุ๊ปโดดช่วยปั๊ป...บุญคุณนี้จดจำชั่วชีวิต (มีคลิป)

หวีดร้องระงม !!! นาทีชีวิต 2 ฮีโร่ช่วยคนจากรถจมน้ำ ชนปุ๊ปโดดช่วยปั๊ป...บุญคุณนี้จดจำชั่วชีวิต (มีคลิป)

หวีดร้องระงม !!! นาทีชีวิต 2 ฮีโร่ช่วยคนจากรถจมน้ำ ชนปุ๊ปโดดช่วยปั๊ป...บุญคุณนี้จดจำชั่วชีวิต (มีคลิป)

ในคลิปมีรถยนต์สีแดง-ขาว คันหนึ่งตกลงไปในน้ำ โดยส่วนหน้าของรถจมลงไปเกือบหมด โดยมีชาย2คนเกาะอยู่นอกตัวรถและพยายามทุบกระจกเพื่อช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ข้างใน ท่ามกลางเสียงร้องเชียร์ และเสียงอุทานลุ้นระทึกกับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าของผู้คนบนฝั่ง เมื่อชายคนหนึ่งทุบกระจกรถแตก ก็มีชายเสื้อขาวปีนออกมาจากที่นั่งคนขับ และช่วยกันประคองตัวรถให้เข้าฝั่งเพื่อความปลอดภัย โดยมีผู้อยู่ในเหตุการณ์ให้ข้อมูลว่าเหตุการณ์นี้มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด3คน แต่ทุกคนปลอดภัยเพราะน้ำใจจากคนไทยด้วยกัน

ทั้งนี้เมื่อคลิปถูกเผยแพร่ออกไปก็มีบางความคิดเห็นต่อว่าว่าทำไมไม่ยอมเปิดประตู จึงได้หาวิธีปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุรถจมน้ำเพื่อมาเผยแพร่ให้กับประชาชนได้รับทราบ โดยสืบค้นจาก ศูนย์ข่าวสารด้านการแพทย์ฉุกเฉินไทย เรื่อง  ทำอย่างไร ...เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ตกน้ำ...รู้ไว้....ในนาทีวิกฤต... มีรายละเอียดดังนี้

ให้พึงระลึกไว้เสมอว่า เรายังมีเวลาพอที่จะทำอะไรหรือแก้ไขได้ เพราะขณะที่รถยนต์ตกน้ำ (รถยนต์ส่วนบุคคลสมัยนี้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ มักปิดกระจกขณะขับขี่) รถจะไม่จมลงในทันทีแต่จะค่อย ๆ จมลงอย่างช้า ๆ อย่างต่อเนื่องประมาณ 17 - 20 วินาที ในนาทีวิกฤตนี้ ควรตั้งสติให้ดี และ ปฏิบัติดังต่อไปนี้

1. ปลด SAFETY BELT ออกทุกๆคน รวมทั้งผู้โดยสารด้วย

2. อย่าออกแรงใดๆ เพื่อสงวนการใช้อากาศหายใจซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนจำกัด

3. ให้ยกส่วนศีรษะให้สูงเหนือระดับน้ำที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นในรถ

4. ปลดล็อกประตูรถทุกบาน

5. หมุนกระจกให้น้ำไหลเข้าในรถเพื่อปรับความดันในรถและนอกรถให้เท่ากัน มิฉะนั้นท่านจะเปิดประตูรถไม่ออก เพราะน้ำจากภายนอกตัวรถจะดันประตูไว้

6. เมื่อความดันใกล้เคียงกันแล้วให้ผลักบานประตูออกให้กว้างสุด แล้วท่านก็ออกจากห้องโดยสารของรถได้

7. จากนั้นท่านอาจจะปล่อยตัวให้ลอยขึ้นเหนือน้ำตามธรรมชาติ หรือจะว่ายน้ำขึ้นมาก็ได้

ทั้งนี้หากเป็นรถที่ใช้ระบบไฟฟ้า การทำงานจะขัดข้องจนไม่สามารถเปิดกระจกได้ ให้ใช้ค้อนเหล็ก หรือของแข็งที่มีอยู่ในรถทุบกระจกด้านข้างให้แตก ไม่ควรทุบกระจกหน้าหรือหลัง เพราะเป็นกระจกนิรภัยจะแตกยากกว่า

ในกรณีนี้หากน้ำลึกมากๆ อาจจะมองไม่เห็นว่าทิศใดเหนือน้ำ ทิศใดใต้น้ำเพราะว่า มืดไปหมด ไม่ควรใช้วิธีว่ายน้ำ เพราะอาจจะว่ายไปในทิศทางที่ไม่ขึ้นเหนือน้ำ กรณีเช่นนี้ควรปล่อยตัวให้ลอยขึ้นตามธรรมชาติ หรือลองเป่าปากดูว่าฟองอากาศลอยไปในทิศทางใด ให้ว่ายน้ำไปในทิศทางที่ฟองอากาศลอยไป ก็จะไม่มีอาการหลงน้ำ นอกจากนั้นก่อนออกจากรถหากท่านมีผู้โดยสารที่เป็นเด็กๆ อาจจะหนีบเด็กๆ นั้นออกมากับท่านได้อีกหนึ่งคน ดังนั้นหากท่านปฏิบัติตามวิธีการเหล่านี้ ก็จะช่วยให้ชีวิตของท่านปลอดภัยได้ในยามคับขัน

ขอบคุณ รัชชานนท์ มิวล์  และ ศูนย์ข่าวสารด้านการแพทย์ฉุกเฉินไทย