- 12 เม.ย. 2562
คนขวัญอ่อนดูเอาไว้?! 7 ความเชื่อ ป้องกันผีหลอกผีอำ เมื่อต้องนอนต่างถิ่น ทำไว้ไม่เสียหลาย
ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว หลายๆคนที่อยากท่องเที่ยวพักผ่อนต่างจังหวัด ก็จำเป็นต้องหาที่พักอาศัย ห้องเช่าต่างๆเพื่อหลับนอน หากแต่หลายคนที่อาจเกิดความกลัวหรือมีความกังวลใจเกี่ยวกับสิ่งที่มองไม่เห็น ซึ่งเชื่อว่าเป็นเจ้าของสถานที่นั้นๆ จนทำให้นอนไม่หลับ หรือบางคนก็ฝันร้าย ถูกผีอำ ผีหลอก ทำให้มีความเชื่อที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกผีหลอกผีอำหากต้องนอนต่างที่ต่างถิ่น ได้แก่
1. เคาะประตูก่อนเข้าห้อง มีความเชื่อว่า หากต้องไปพักค้างอ้างแรมที่ไหน ก็ควรจะเคาะประตูห้องก่อนเข้าไปในครั้งแรก เพื่อเป็นการบอกกล่าวล่วงหน้า ให้สิ่งที่มองไม่เห็นที่อาศัยอยู่ในห้องได้รับรู้ก่อน พร้อมตั้งจิตบอกกล่าวกับเจ้าที่เจ้าทาง ว่าเรามาขอพักอาศัยเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาอื่นใด หรือหากในสถานที่พักนั้นๆมีศาลเจ้าที่ ก็ควรจุดธูปบอกกล่าวด้วยก็จะดีเพื่อให้เจ้าที่รักษาคุ้มครอง
2.ซื้อเตียง หรือ ซื้อที่ ความเชื่อนี้ ถือว่าได้รับการปฏิบัติสืบต่อกันมานานเช่นเดียวกัน เพราะไม่ว่าจะไปนอนพักที่โรงแรม ห้องพัก ห้องเช่า ก็สามารถใช้วิธีนี้ได้ โดยให้นำเหรียญบาท จำนวน 1-3 เหรียญ ไปวางไว้ใต้หมอน บนหัวนอน หัวเตียง ใต้เตียง หรือลิ้นชักก็ได้ เพื่อของซื้อที่จากวิญญาณต่างๆที่อยู่ในบริเวณนั้นให้รับทราบว่า เรามาอยู่ในฐานะผู้อาศัยได้ทำการซื้อที่หลับนอนได้อย่างถูกต้องแล้ว ต่อจากนี้เจ้าที่จึงต้องให้การดูแลเป็นอย่างดี ไม่มารบกวนผู้อาศัยให้ต้องหวาดกลัว และขากลับก็ไม่ต้องเอาเหรียญออกมา ให้ปล่อยไว้อย่างนั้น เพราะถือว่าได้ซื้อที่ไปแล้ว
3. อย่าปล่อยให้เตียงว่าง มีความเชื่อว่า หากใครที่เข้าพักในโรงแรมหรือห้องพักแต่ในห้องมีเตียงคู่ มิหนำซ้ำตนเองต้องเข้าพักคนเดียว ก็อย่าปล่อยให้อีกเตียงว่าง หรือหากนอนในเตียงใหญ่ๆ แล้วมีหมอนสองใบ ก็อย่าปล่อยให้พื้นที่ข้างๆว่าง ควรนำกระเป๋าข้าวของต่างๆไปวางไว้ เพราะเชื่อว่าหากปล่อยให้เตียงว่าง อาจมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมานอนเป็นเพื่อน
4.อย่าปล่อยให้ห้องมืด มีความเชื่อว่า วิญญาณนั้นมักจะชอบที่มืด ชอบออกมาตอนกลางคืน ดังนั้นจึงต้องแก้เคล็ดด้วยแสงสว่าง ไม่ว่าจะเป็นแสงไฟ หรือจากแสงอาทิตย์ก็ดี จะทำให้วิญญาณไม่กล้าออกมา ต้องเปิดไฟทิ้งไว้ เช่น ไฟนอกระเบียง หรือไฟในห้องน้ำ อย่าปล่อยให้ห้องมืดเด็ดขาด จะทำให้ผู้อาศัยหลับนอนได้อย่างสบายใจมากขึ้น
5. อย่านอนหันศรีษะไปทางทิศตะวันตก หรือ นอนตรงทางเข้าประตู เรื่องนี้เป็นความเชื่อที่มีมาอย่างยาวนานเช่นกัน ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านของตนเอง หรือ ต้องไปนอนต่างถิ่นต่างที่ก็ต้องดูทิศการนอนด้วย คือ อย่านอนหันศรีษะไปทางทิศตะวันตกหรือทิศใต้ ให้นอนหันศรีษะไปทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ และไม่ควรนอนตรงประตู เพราะเชื่อว่าเป็นทางเข้าออกของวิญญาณ อาจจะทำให้ถูกผีอำ หรือฝันร้ายได้
6. สวดมนต์ แผ่เมตตา ก่อนนอนควรสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย ตามด้วย “บทกรณียเมตตสูตร” เพื่อขอความเป็นมิตรกับเทวดา ภูติผีปีศาจ เจ้าที่เจ้าทาง ให้รักใคร่เมตตาเอ็นดู ปกปักษ์รักษา โดยบทกรณียเมตตสูตรนี้ สามารถสวดและใช้ได้ทุกที่ไม่ว่าจะไปนอนค้างอ้างแรมที่ไหนก็ตาม เพราะทุกสถานที่นั้นมีความเชื่อว่ามีเจ้าของ มีเจ้าที่ที่ดูแลรักษาอยู่ จากนั้นให้แผ่เมตตาให้กับเทวดา เจ้าที่ ดวงวิญญาณทั้งหลาย ไม่ให้เบียดเบียนซึ่งกันและกัน แต่หากสวดมนต์แผ่เมตตาแล้ว แต่ยังกลัวอยู่ สามารถสวดบทชินบัญชร บทสวดป้องกันภัยต่างๆ หรือ บทบูชาท้าวเวสสุวรรณ เพื่อป้องกันภัยจากภูตผีได้
7.เครื่องรางของขลัง สำหรับคนที่กลัวผีมากๆ ก็สามารถบูชาท้าวเวสสุวรรณคล้องคอไปด้วย เพื่อความอุ่นใจสบายใจ เพราะท้าวเวสสุวรรณนั้นถือว่า เป็นหนึ่งในท้าวจตุโลกบาลทั้ง4 หน้าที่โดยทั่วไปของท้าวเวสสุวรรณคือ การดูแลปกครองบริวาร ไม่ว่าจะเป็นภูติผีปีศาจ ให้อยู่ในความสงบ ไม่ให้มารบกวนมนุษย์ จึงนิยมทำวัตถุมงคลเกี่ยวกับท้าวเวสสุวรรณออกมาเป็นรูปเหมือน คือ รูปปั้นยักษ์ที่มีเขี้ยวขนาดใหญ่ ถือตะบอง ดูน่าเกรงขาม เป็นที่เกรงกลัวของภูตผีปีศาจทั้งหลาย หรือเป็นผ้ายันต์ เพื่อพกพาบูชาติดตัว เชื่อว่า ผีสางจะเกรงกลัวท้าวเวสสุวรรณมาก ขณะเดียวกันหากสวดคาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณด้วยก็ยิ่งจะทำให้ปลอดภัยจากเหล่าภูติผี
เคล็ดความเชื่อเหล่านี้เป็นความเชื่อเฉพาะบุคคล ต้องใช้วิจารณญาณ แต่เพื่อความสบายใจของคนขี้กลัว คนขวัญอ่อนที่นอนไม่ค่อยจะหลับ… ทำไว้ก็ไม่เสียหลาย?!!
เครดิตภาพ : Napapawn