ประชาธิปัตย์ชัดร่วมพลังประชารัฐ แต่จะกลายเป็นประเด็นปัญหาพรรคร่วมหรือไม่โปรดติดตาม

ในรายการเที่ยงตรงกับสนธิญาณ ได้นำเสนอในตอน ประชาธิปัตย์ชัดร่วมพลังประชารัฐ แต่จะกลายเป็นประเด็นปัญหาพรรคร่วมหรือไม่โปรดติดตาม โดยคุณ สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม โดยระบุว่า สถานการณ์ทางการเมืองต้องเกาะติดกันวันต่อวันนะครับในช่วงนี้ ดุเดือดเร้าใจ แต่ไม่ว่าจะมองไปทางมุมไหนนะครับ คนที่น่าจะเหนื่อยหนักที่สุดน่าจะเป็นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งจะต้องแบกรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในห้วงระยะเวลาต่อไป คงจะต้องเริ่มต้นจากการประชุมพรรคประชาธิปัตย์นะครับซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญนะครับ เงื่อนไขหนึ่งของรัฐบาลใหม่ว่าจะเข้มแข็ง ว่าจะมั่นคงหรือไม่นะครับ เมื่อวานมีการประชุม สส. นะครับ เพื่อที่จะกำหนดท่าทีในการร่วมรัฐบาลนะครับ แล้วก็มีวาระอื่นๆ เริ่มต้นก็โดยคุณชวน หลีกภัยนะครับ ผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรคและเป็นผู้อาวุโสของพรรค ก็ได้ให้โอกาสแก่บรรดา สส. โดยเฉพาะ สส.ใหม่นะครับ พูดถึงอุดมการณ์นะครับและก็ทิศทางของพรรคประชาธิปัตย์นะครับ

 

 แต่ปรากฏว่าในที่ประชุมนะครับก็ได้มีการกล่าวถึงคุณพีระพันธ์ สารีรัฐวิภาค ซึ่งลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคกับคุณจุรินทร์ ลักษณะวิสิตนะครับ และคุณพีระพันธ์ได้ออกมาโพสต์นะครับบทความว่า มีผู้มีบารมีในพรรคนะครับไม่วางตัวเป็นกลาง เคลื่อนไหวนะครับ ทำให้การเลือกตั้งนะครับมีประเด็นเป็นปัญหาขึ้น ปรากฏว่าคุณชวนนะครับได้กล่าวคุณพีระพันธ์ว่า มีคนมาให้กำลังใจคุณชวนมากมาย เพราะเนื้อหาของคุณพีระพันธ์นั้นพูดและกล่าวหาคุณชวน

 

เอาสรุปย่อๆนะครับคุณพีระพันธ์นะครับก็ยืนยันกลับไปว่าไม่ได้ว่าคุณชวน เว้นแต่ว่าคุณชวนมีพฤติกรรมอย่างนั้นจริง ดูเป็นคำตอบเรียบๆง่ายๆในคำถามที่ถามมา แต่เรื่องนี้ยืนยันว่า ยังจะต้องเป็นปมปัญหาไม่จบในพรรคประชาธิปัตย์ต่อไปครับ ไม่เพียงเท่านั้นล่ะครับ ยังมีประเด็นพูดคุยกันถึงเรื่องเงินภายนอกพรรคที่เข้ามาสนับสนุน จะเรียกว่าซื้อหรืออย่างไรก็ตามแต่ภายในพรรคประชาธิปัตย์นะครับ ซึ่งในเรื่องนี้คุณชวนก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ข้างนอกด้วย ว่าเรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่คราวเลือกตั้งหัวหน้าพรรคที่ผ่านมา

 

 และก็ได้มีการพูดถึงคุณถาวรในเรื่องที่ออกมาเปิดหน้าว่าจะไปร่วมรัฐบาล ทั้งๆที่พรรคยังไม่มีมตินะครับ ซึ่งเรื่องนี้คุณถาวรก็บอกว่าเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ส่วนที่ประชุมพรรคในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็ตามแต่เพราะประชาชนรอคำตอบร้อนใจอยู่ คุณถาวรก็จึงพูดออกไปและก็ยังพูดถึงการเคลื่อนไหวของ กปปส.นะครับที่คุณชวน คุณอภิสิทธิ์ และผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรค ก็เคยไปสนับสนุนให้กำลังใจ กปปส. ตนเองและพวก 9 คนนะครับ ไปทำหน้าที่ใน กปปส.ก็เป็นการต่อสู้กับระบอบทักษิณ

 

ประเด็นนี้จะเชื่อมโยงกับเรื่องเงินที่เข้ามาใช้ในพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ก็เป็นประเด็นอยู่นะครับ เพราะคำถามมันมีอยู่ว่าใครเป็นคนให้เงินนั้นมา ทหาร หรือเป็นคุณสุเทพ เทือกสุบรรณนะครับ ไม่ปรากฏชัด แต่ภายใต้ข่าวสารที่ออกมา กระแสมันก็พุ่งเป้าไปที่ทหารและก็คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณวันนี้จะเป็นคนนอกนะครับ หรือจะเป็นคนที่มีความผูกพันพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้นนะครับ

 

นั่นก็เป็นเรื่องของคุณสุเทพกับคนในพรรคประชาธิปัตย์ แต่ประเด็นนี้นะครับมีนัยยะสำคัญ ก็คือว่าพรรคประชาธิปัตย์นี่นะครับที่ยืนยันว่ามีอุดมการณ์นะครับ ผู้คนทั้งหลายที่อยู่ในพรรคล้วนเป็น สส.มาอย่างยาวนาน หากมีการเอาเงินจากภายนอกพรรคและมาใช้ในการซื้อเสียงกันจริงนี่นะครับ คนที่จะซื้อเสียงก็เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์กันเองนะครับ ไม่ได้มีที่คนนอก และคนที่แข่งขันกันก็ล้วนแต่เป็น สส. มาอย่างยาวนานนะครับ

 

 เรื่องนี้นะครับใครไม่ถาม ผมจะถามไปถึงพรรคประชาธิปัตย์นะครับว่า ใครที่ไปรับเงินมานะครับ มีการรับเงินจริงหรือไม่ ถ้าไม่จริงพรรคประชาธิปัตย์ต้องปฏิเสธ แต่นั่นหมายความว่าคุณชวนจะเสียหาย แต่ถ้าจริง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีความเสียหายอยู่แล้วก็ต้องเปิดเผยว่าใครที่ทำให้ปลาตัวเดียวเหม็นไปทั้งห้อง เรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ครับ เอาสองเรื่องนี้นะครับก็เหนื่อยแล้ว เพราะถามว่าบรรดาผู้ที่สนับสนุนหมอวรงค์ในครั้งก่อน สู้กับคุณอภิสิทธิ์

 

ความหมายของคุณชวนที่มีเงินจากภายนอกไม่น่าจะมาสนับสนุนคุณอภิสิทธิ์ ก็น่าจะเป็นสนับสนุนฝ่ายตรงข้ามคุณอภิสิทธิ์ก็คือหมอวรงค์นะครับ ซึ่งแน่นอนล่ะครับคนที่ออกตัวอย่างชัดเจนก็คือคุณถาวร เสนเนียมและบรรดาพรรคพวกนะครับ การร่วมรัฐบาลนี่นะครับ แม้จะต้องใช้มติกรรมการบริหารการบริหารพรรคนะครับ ใช้มติกรรมการบริหารพรรคเป็นเรื่องใหญ่ แต่อย่าลืมนะครับ เข้าไปในสภา คณะกรรมการบริหารพรรคเข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ เป็นเรื่องของมือ สส. ล้วนๆ เพราะฉะนั้นจากความร้าวฉานในเรื่องนี้นะครับต่อเนื่องไปจนถึงการร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ

ซึ่งหรือไม่นี่เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังนะครับว่ามติเขาเป็นอย่างไร เมื่อไปร่วมรัฐบาลนี่นะครับ ถ้าในการจัดสรรตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีเฉพาะผู้ที่สนับสนุนฝากฝั่งคุณจุรินทร์ อีกฝากฝั่งหนึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเลย ฟันธงได้เลยครับ มีปัญหาในสภาแน่ ไม่ใช่ว่าฝั่งที่ไม่ได้ต่อรองตำแหน่งแล้วโกรธเคือง แต่นั่นเป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่จัดการเรื่องต่างๆให้ลงตัวเรียบร้อยกันเองภายในพรรค และทำให้เกิดผลกระทบต่อพรรคร่วมรัฐบาลได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลต้องคิดนะครับ ก็ต้องจับตาดูแหละครับว่าเมื่อมีการร่วมรัฐบาลแล้วการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์จะออกมาในทิศทางไหนครับ

 

สุดท้ายนะครับสรุปตอกย้ำกันเหมือนเดิมนะครับว่าไม่ว่านะครับจะมีการเคลื่อนไหว ดำเนินการต่อรองกันยังไงก็ตามแต่ นายกรัฐมนตรีชื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาแน่นอน เพราะการโหวตนายกรัฐมนตรีที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 พฤษภาคมนั้นนะครับ ใช้เสียง สส.เพียง 126 เสียงนะครับ บวกกับวุฒิสมาชิกนะครับ 250 ก็โหวตได้แล้วนะครับ เพราะฉะนั้นนี่นายกรัฐมนตรีจะเป็นชื่ออื่นเป็นไปไม่ได้

 

 และที่สำคัญโดยเฉพาะฝากฝั่งของพรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่และบรรดาพันธมิตรรวบรวมแล้วเสียงไม่เกินครึ่งนะครับ ชื่ออื่นไม่มีเด็ดขาด แต่ย้ำนะครับว่าโหวตนายกผ่านไปแล้วนะครับ ตอนวันโหวตนะครับ เสียงในการโหวตชัดเจนนะครับ ว่าจะต้องได้ 250 เสียงขึ้น ถึงจะดูมีเอกภาพ และก็จะเห็นได้ว่าบรรดา สส.พรรคร่วมรัฐบาลที่มีการเจรจากันโหวตให้พลเอกประยุทธ์จริง หากต่ำกว่า 500 นะครับ แน่นอน เตรียมตั้งรับไว้ได้เลยครับว่ารัฐบาลมีปัญหาแน่นะครับ ถ้าเกิน 500 ก็ชัดเจน

 

เดินหน้าไปด้วยกัน หลังจากนั้นนะครับ จะมีงูเห่าออกมาก็จะเป็นขั้นตอนหลังที่จะมาร่วมนะครับกับพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหลายนะครับ แต่ถ้าออกมาเป็นประเด็นแรกนะครับ หนีไปทางไหนไม่ได้ ยุบสภาทางเดียวเท่านั้น ซึ่งโดยส่วนตัวนะครับเป็นทางที่ผมเชียร์พลเอกประยุทธ์ให้ตัดสินใจอย่างนี้นะครับ โยนการตัดสินใจกลับไปให้ประชาชนนะครับ เพราะที่เห็นและเป็นอยู่นี่เหนื่อยและก็น่าเบื่อหน่ายเหลือเกินครับสำหรับพฤติกรรมของนักการเมืองทั้งหลาย สวัสดีครับ

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

- อดีตผู้พิพากษา กางรธน.ปี50 เทียบ ปี60 สอนกฎหมาย อ.ปิยบุตร จับแพะชนแกะ -ปลุกระดมสาวกล่วงหน้า

- โอ๊คถึงเวลาแล้ว!ศาลนัดพิพากษาคดีฟอกเงินปล่อยกู้กรุงไทย

- พายุกระหน่ำ “ชวน หลีกภัย” บททดสอบการเมือง ในวัน ใบมีดโกน สิ้นมนต์ขลัง?

- มิ่งขวัญลั่น6ส.ส.รักษาสัญญาเทิดทูนสถาบันหลังลาออกหน.พรรค