ตอบทางการครั้งแรก กัมพูชายันไร้เบาะแส วันเฉลิม หายตัวไปไหน

ถือเป็นหนึ่งชนวนทางการเมืองสำคัญ ในการที่ฝ่ายตรงข้ามออกมาเคลื่อนไหวอย่างหนัก ในการวิพากษ์วิจารณ์โจมตีรัฐบาล พล.ประยุทธ์  จันทร์โอชา  ในหลากหลายมิติ  โดยเฉพาะเครือข่ายที่รวมตัวกันอยู่ในฝั่งอดีตพรรคอนาคตใหม่เดิม  สำหรับการหายตัวไปของ  นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์  แอดมินเพจ  “กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ”  

 

(คลิกอ่านข่าวประกอบ  :  เปิดฉากหลังนักปชต. วันเฉลิม ก่อนโดนอุ้มหาย บิดเบือนชีวิต อ.อัษฎางค์ บาปหนนั้นขออโหสิกรรม )

ขณะที่อีกมุมหนึ่งของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็มีคำถามมากมายว่าใครอยู่เบื้องหลัง  และเหตุผลของการอุัมตัวนายวันเฉลิม   คืออะไร  เพราะถ้าเปรียบเทียบในเชิงตรรกะ  ไม่มีเหตุผลใด ๆ เลยที่รัฐบาลไทยจะเข้าไปดำเนินการในเรื่องนี้   เนื่องจากบทบาทของนายวันเฉลิม    เป็นเพียงนักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง   ที่ไม่ได้มีบทบาทสำคัญถึงขั้นเป็นภัยความมั่นคงประเทศ  และสำคัญที่สุด นายวันเฉลิม ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 112  อย่างที่มีการกล่าวอ้าง เพื่อผลประโยชน์ในการโจมตีสถาบันเบื้องสูง

 

เหมือนกับมุมมองของ   นพ.วรงค์   เดชกิจวิกรม   ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรรครวมพลังประชาชาติไทย  ที่ให้ความเห็นไว้ก่อนหน้าว่า   "ใครได้ประโยชน์กรณี วันเฉลิม??"   "แม้ผมเป็นนักการเมืองมาหลายสมัย แต่ผมไม่เคยรู้จัก"วันเฉลิม" ฟังตอนแรกยังนึกว่าเป็นลูกชายนักการเมืองฝั่งธน  มาเอะใจตรงที่ มีการสร้างกระแสการหายตัวมากผิดปกติ จนดูแล้วตั้งใจสร้างเป็นขบวนการ ทั้งจากเอ็นจีโอต่างประเทศ นักเคลื่อนไหวในประเทศ และนักการเมืองฝ่ายค้าน

ที่หนักสุดก็คือ เรื่องนี้เกิดขึ้นในแผ่นดินเขมร แต่มาสร้างกระแสกดดันเหมือนเกิดขึ้นในแผ่นดินไทย และกล่าวหาว่ารัฐบาลไทย ต้องรับผิดชอบ ทั้งๆที่ความจริงเป็นอย่างไร ต้องอยู่ที่รัฐบาลเขมร และที่น่าตลกก็ตรงที่ มีความพยายามสร้างกระแสประโยคว่า"หายใจไม่ออก"เหมือนจอร์จฟลอยด์ และมีการลบโพสต์ที่เกี่ยวกับการปลูกกัญชาในเฟสของวันเฉลิม

ผมนึกไม่ออกจริงๆว่า รัฐบาลได้ประโยชน์อะไร ถ้าวันเฉลิมเสียชีวิต แต่ที่แน่ๆ มีคนได้ประโยชน์ ดูจากการโพสต์ของนายธนาธร "หน้าที่ของเราไม่ใช่แค่ตามหาคนหายแล้ว แต่คือการตามหาสิทธิเสรีภาพของพลเมือง ตามหาความเป็นธรรมที่ถูกรัฐอุ้มหายไป"  

มันสื่อว่า ต้องมีขบวนการสร้างกระแส ปลุกระดมการหายตัว เพื่อไปเชื่อมโยงการจัดกิจกรรมวันครบรอบ 24 มิถุนายน 2475 ที่ใกล้นี้ ลองติดตามดูนะครับว่า ผมจะทายแม่นไหม???

ล่าสุด   นายเชิดเกียรติ อัตถากร  อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ  กล่าวถึงความคืบหน้ากระบวนการติดตามตัว  นายวันเฉลิม    ว่า   ภายหลังจากที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ  มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา เพื่อขอให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว รวมทั้งขอรับข้อมูลที่จะช่วยหาตัวนายวันเฉลิม

 

ปรากฎว่าวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา  ได้มีหนังสือถึงสถานเอกอัครราชทูตฯ แจ้งว่านายวันเฉลิม  เดินทางเข้าออกกัมพูชาหลายครั้งในช่วงปี 2557-2558  และขอรับการตรวจลงตรา (วีซ่า) ซึ่งมีระยะเวลาพำนักชั่วคราวในกัมพูชาถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 

 

หลังจากนั้นนายวันเฉลิมฯ ไม่ได้ขอต่ออายุการตรวจลงตราอีก   นอกจากนี้ทางการกัมพูชาไม่มีข้อมูลและเบาะแสของการหายตัวไปของนายวันเฉลิมด้วย  อย่างไรก็ตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกัมพูชากำลังอยู่ระหว่างการสืบหาข้อเท็จจริง ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ จะได้ติดตามความคืบหน้าและประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทางการกัมพูชาในกรณีดังกล่าวต่อไป
 

ขณะที่ต้องไม่ลืมว่าในอีกมุมหนึ่งของ นายวันเฉลิม ถูกตีแผ่ว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจมือ ว่าด้วยการค้ากัญชาที่ถือเป็นการกระทำที่ผิดกม.ร้ายแรง ของประเทศกัมพูชา  หลังจากรัฐสภากัมพูชา  มีมติเห็นชอบให้เกิดกระบวนการแก้ไข  ปรัปปรุงข้อกม.ว่าด้วยการปราบปรามการค้ายาเสพติด    โดยเฉพาะการเพิ่มโทษที่รุนแรงมากกว่าเดิมอีก 2 เท่า คือ กรณีตรวจพบยาเสพติด  อยู่ในครอบครองมากกว่า 80 กรัมขึ้นไป  ต้องได้รับโทษถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต 

 

อีกทั้งการโพสต์ข้อความของนายวันเฉลิมที่ผ่านมา มีบางประโยคที่อาจเป็นข้อคำถามว่า  เจ้าตัวเหมือนจะรู้เช่นกันหรือไม่   เรื่องอันตรายในสิ่งที่ตนเองเข้าไปยุ่งเกี่ยว แม้ว่าพี่สาวจะอ้างว่าเป็นเพียงธุรกิจด้านเกษตรกรรมก็ตามที ...