บังแจ็ค โป๊ะแล้วหนึ่ง หลังเปิดคลิปเสียงแตงโม จุดนี้ก็รู้เจตนาแท้จริงแล้ว

บังแจ็ค โป๊ะแล้วหนึ่ง หลังเปิดคลิปเสียงแตงโม จุดนี้ก็รู้เจตนาแท้จริงแล้ว เหมือนจะเริ่มออกทะเลไปกันใหญ่จริงๆ หลังจากที่ คุณแม่แตงโม ยอมรับว่าได้ส่งมือถือลูกสาวไปให้กับ บังแจ็ค ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีค่าส่งประมาร 2,500 บาท หลังจากนั้น บังแจ็ค ก็ได้โพสต์ภาพวันเกิดเหตุบนเรือสปีดโบ๊ทเรื่อยมาตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.65 เป็นต้นมา กระทั่งความจริงหลายอย่างเปิดเผย จนมีส่วนทำให้ ทนายเดชา ถอนตัวออกจากการเป็น ทนายความแม่แตงโม 

ตั้งแต่รู้ตัวคนโพสต์ภาพว่าคือบังแจ็ค ก็มีทีมข่าวจากประเทศไทยในหลายๆ สำนักได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ บังแจ็คอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทาง นายราชา ไฮเดอร์ ก็ไม่ได้ปฏิเสธจะให้ข่าวแต่อย่างใด อีกทั้งยังโชว์ โทรศัพท์แตงโมให้สื่อมวลชนได้ดูอีกด้วย ขณะที่บางรายการได้รับฟังคลิปเสียงที่บังแจ็คอ้างว่าเป็นเสียงของ แตงโม พูดทำนองว่าเธอถูกทำร้ายจิตใจ

- บังแจ็ค เปิดคลิปลับ อ้างเป็นเสียงแตงโม นิดา บอกโดนทำร้ายร่างกายและจิตใจ

โดยคำพูดเต็มๆ ของแตงโมนั้น ได้ระบุว่า "...ไม่โอเคกับมันให้...ไปหามันทำไม" และอีกเสียงหนึ่งเหมือนกับพูดว่า สิ่งที่คุณทำอยู่มันเป็นการกักขังหน่วงเหนี่ยว คุณรู้ไหม มันผิดกฎหมาย และมีเสียงเหมือนคนร้องไห้ และพูดว่า เราจะไม่ไปไหน หลังจากนี้จะไม่เลิกกัน ก่อนจะมีอีกคำพูดหนึ่งที่ค่อนข้างชัดเจนที่พูดว่า 

"เหมือนเขาก็ถูกทำร้ายจิตใจ เขาเป็นเพศแม่ตัวเอง ตัวเองเป็นเพศพ่อ แต่ตัวเองทำกับเขาแบบนั้น แต่ตัวเองมานั่งเรียกร้องกับเขา บอกว่าโดนทำร้ายจิตใจ เขาโดนอะไรบ้าง ร่างกายโดนนะ จิตใจโดนนะ แล้วทำไมเขาถึงอยู่กับตัวเองได้ และคิดจะอยู่กับตัวเองต่อไป หลังจากนี้ก็จะไม่เลิกกัน เชื่อไหม เขาไม่เข้าใจ ว่า โน่ มีปัญหาอะไร อยู่คนเดียว"

ล่าสุด สรยุทธ สุทัศนะจินดา ที่กำลังจัดรายการเรื่องเล่าเช้านี้อยุ่นั้น ได้เล่าข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า อันนี้เปิดเผยมาเหมือนทำให้เข้าใจว่ามีอะไรเชื่อมโยงกับเหตุการณ์บนเรือหรือไม่ แต่ตนได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ผมเชื่อถือ อันนี้เป็นคลิปที่ความจริงมีภาพ เป็นภาพกับคนอีกคนหนึ่ง เป็นการคุยกัน แล้วถูกเอาแต่เสียงมาใช้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจว่ามันโยงกับเหตุการณ์บนเรือ 

"แต่ถ้ากู้มาได้จริง แหล่งข่าวของผมซึ่งผมก็เชื่อของผม บอกว่าคลิปนี้เป็นการคุยกัน และไม่ใช่อดีตคนรักของแตงโมด้วย ที่พูดถึง โน่ ถ้าข้อมูลที่แหล่งข่าวคนนี้บอกกับผมเป็นความจริง ก็แปลว่าคลิปนี้ถูกเอามาบิดให้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง" สรยุทธ สุทัศนะจินดา อธิบายอย่างชัดเจน