- 07 ก.ค. 2565
พระเอกในตำนาน พอล ภัทรพล เผยสาเหตุอำลาวงการ ก่อนผันตัวทำธุรกิจ แต่เจ๊งไม่เป็นท่า ล่าสุดชีวิตพลิกวันนี้มีเป็นพันล้าน
เรียกว่าเป็นพระเอกในตำนาน ไปแล้วสำหรับ "พอล ภัทรพล ศิลปาจารย์" ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันดีว่า "หนุ่มพอล" นั้นมีผลงานในวงการบันเทิงมากมาย ทั้งการแสดงและรวมไปถึงการเป็นพิธีกร ก่อนที่เจ้าตัวจะหันหลังให้งานในวงการบันเทิงไป
ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ออกมาเปิดใจทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ SHOW
พิธีกร : ไม่ออกทีวีนานเท่าไหร่แล้ว ?
พอล : ล่าสุดครั้งแต่งงาน น่าจะ 4-5 ปีแล้ว
พิธีกร : ตอนนั้นกำลังรุ่งในวงการบันเทิง ทำไมถึงหยุด ?
พอล : เราไม่ได้ตั้งใจอยู่วงการบันเทิงตลอดชีวิตอยู่แล้ว เป้าหมายของผมตั้งแต่เด็กคืออยากเกษียณเร็ว วงการบันเทิงก็รายได้ดี แต่เข้าใจว่าถ้าอยากเกษียณเร็วต้องเก็บเงินได้มากกว่านั้น คิดไว้ 2 อย่าง ธุรกิจส่วนตัวกับลงทุน นั่นเป็นที่มาเราเลยทำธุรกิจส่วนตัวคู่กันมาตลอด พอธุรกิจเริ่มใหญ่ขึ้นมันเริ่มใช้เวลาเรามากขึ้น คงต้องเอาเวลาไปทุ่มธุรกิจเต็มตัวแล้ว เราคิดดีแล้วว่าอันนั้นมันใช้เวลาแต่คุ้ม แต่ก็เสี่ยง กังวลเหมือนกัน แต่ถ้าเราไม่ทุ่มเทเต็มที่มันไม่มีทางจะเกิดได้
พิธีกร : กลัวมั้ยว่าออกไปแล้วไม่สำเร็จ ?
พอล : สารภาพว่ามีบ้าง มันเป็นตัวขับเคลื่อนเราต้องทำให้สำเร็จกว่าเดิม
พิธีกร : ออกจากวงการบันเทิงไป 10 กว่าปีแล้ว จับธุรกิจอะไรบ้าง ?
พอล : จริง ๆ ก็หลายอย่างครับ เจ๊งก็เยอะ ที่อยู่ได้เป็นธุรกิจอาหารเสริมเกรดยา
พิธีกร : หลายพันล้าน ?
พอล : ประมาณซักพันครับ
พิธีกร : อยู่บ้านเฉย ๆ เงินไหลเข้าบัญชีทุกวัน ?
พอล : ก็พอได้ มันมาจากเราทุ่มเท เรามีจำหน่ายทั่วโลกเวลามันต่างกัน มันเกิดการซื้อขายตลอดเวลา
พิธีกร : มาทำยูทูบ ?
พอล : มันเป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่เราอยากทำมานานแล้ว ที่เราอยากเกษียณเร็ว เราอยากทำอะไรบางอย่างให้กับสังคม ปัญหาเรื่องความรู้ด้านการเงินของประเทศไทยผมว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก ตอนเด็กเรามีปัญหาด้านการเงินเหมือนกันเลยรู้สึกว่าถ้ามีคนมาบอกเราเหมือนเป็นทางลัดมันจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคน
พิธีกร : ธุรกิจอะไรที่เจ๊ง ?
พอล : รายการทีวี อีเวนต์ออกแกไนเซอร์ คลีนิค ฟิตเนส สปา อีกเยอะเลย ล้มเหลวมากกว่าสำเร็จ อยากจะบอกว่าคุณไม่ต้องสำเร็จทุกครั้ง บางทีสำเร็จแค่ครั้งเดียวก็ชดเชยความล้มเหลวเป็นสิบเป็นร้อยครั้งของคุณได้ รวม ๆ สักประมาณ 8 หลัก เราจะเก่งขึ้นตอนเราพลาดตอนเราล้ม
พิธีกร : โดนโกงด้วย ?
พอล : มีครับ เราไปเป็นหุ้นส่วนเปิดคลีนิคกับฟิตเนส เราก็ฟ้องพาร์ตเนอร์ ตอนนั้นเครียดเราไม่เคยขึ้นศาล แต่ถือเป็นข้อดีถือว่าเรียนกฎหมายเพิ่ม ไม่โกรธนะ ขณะที่มีคดีกันเรายังส่งลูกค้าให้เค้า เค้าเป็นคนเก่ง แต่บางเรื่องเค้าทำไม่ถูก
พิธีกร : ตอนเด็ก ๆ มีปัญหาเรื่องเงิน ?
พอล : ตอนนั้นปี 40 ต้มยำกุ้ง ผมว่าทุกคนลำบาก ที่บ้านมีหนี้จำนวนมาก ทรัพย์สินไปติดที่ธนาคาร เรารู้สึกว่าถ้าเรามีตังค์จะช่วยพ่อแม่ได้ มันเหมือนเป็นปมอย่างนึง เราโชคดีเริ่มทำงานหาเงินตั้งแต่มหาลัย ได้รายได้ก็ผ่อนแบ้งจ่ายหนี้ทำอยู่หลายปี ทุกอย่างประหยัดได้ประหยัดหมด
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ thainewsonline