ต้อม รชนีกร เผยภาพเดียวที่รับไม่ได้ สวนทันทีหากโดนฟ้องกลับจะไม่มีเงินจ่าย

ติดตามกันอย่างต่อเนื่องกรณีที่ ต้อม รชนีกร พันธุ์มณี ตัดสินใจฟ้อง ปิ่น เลอลักษณ์ 50 ล้าน เนื่องจาก ต้อม นักแสดงชื่อดังได้ตัดสินใจทำศัลยกรรมผ่าตัดใบหน้าใหม่ในวัย 52 ปี ทว่าหลังจากนั้นได้เกิดความผิดพลาด ทำให้มีการเดินหน้าฟ้องร้องสถาบันเสริมความงามดังกล่าว โดยจะฟ้องโรงพยาบาลและคุณหมอที่ทำการคนผ่าตัด

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : "ต้อม รัชนีกร" ลั่น ความพิการเกิดขึ้น เผยปมฟ้อง "ปิ่น เลอลักษณ์" 50 ล้าน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้าน ทนายเชอร์เบท ได้อธิบายถึง สิ่งที่ทำให้เสียหายจนต้องฟ้องสถาบันเสริมความงามว่า มันคือสัญญาข้อสุดท้าย ที่เขียนไว้ว่า สามารถนำรูปภาพมาใช้สำหรับขึ้นป้ายโฆษณาบิลบอร์ดตลอดระยะเวลาสัญญา 2 ปี ซึ่งก่อนจะดีลในสัญญา ได้มีการตกลงอย่างชัดเจนว่าก่อนจะเอารูปอะไรของพี่ต้อมไปลงจะต้องขออนุญาตก่อน

 

ขณะที่ ต้อม รชนีกร พูดเสริมว่า แต่ว่าประเด็นตอนนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับบิลบอร์ด แต่ที่เขาออกสื่อไป คือสัญญารีวิว มันก็ต้องรีวิว แต่การทำงานของคนที่เป็นพรีเซ็นเตอร์เป็นปกติอยู่แล้วที่เราจะต้องรีวิวให้เขา เราก็ต้องขึ้นบิลบอร์ดอยู่แล้ว 2 ปีครึ่ง รีวิวเราต้องทำให้อยู่แล้ว ไลฟ์สดก็ต้องทำ และออกอีเว้นท์เราก็ต้องออก แล้วแต่ว่าเขาจะให้เราไปออกอีเว้นท์กี่ครั้ง นั่นคือสัญญา แต่พอเวลาออกมาพูดมันคือแค่รีวิว ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าเรารับจ้างรีวิว

 

ต้อม รชนีกร อธิบายต่อไปว่า แน่นอนว่าเราก็ต้องมีการฉีกสัญญา เพราะเขาละเมิดเราตั้งแต่แรก แต่เราก็ไม่คิดจะมีปัญหากับเขาด้วยซ้ำ ก็เราว่าเมื่อไหร่เขาจะมาคุยกับเรา แต่กลับกลายเป็นเขาไม่ได้คุยอะไรเลย วันที่ 4 ม.ค. จะต้องมีการเช็กอัพกับคุณหมอ หลังจากที่เราทำหน้าเสร็จแล้ว ซึ่ง ณ ตอนนั้น เราก็มีความรู้สึกว่า การคุยยังไม่ลงตัว ในการที่เขาเอาภาพไปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเราตามข้อตกลง 

 

เราก็เขียนจดหมายให้ขอบรรเทาเรื่องรูปตกแต่งบิดเบือนจากความเป็นจริง ก็เลยมีความรู้สึกว่าพี่เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะมาคุยกับเราจริงๆ มีแค่โทรมาคุยกับแฟนเราแค่ครั้งเดียว จริงๆถ้ามีปัญหากับเราโทรคุยกับเราก็ได้ คือไม่ได้มีประเด็นอะไรไปมากกว่านั้นเลยตอนแรก ก็แค่รูปที่เขาทำให้เราเสียหายจากการเราเสียงานไป แต่เขาก็ไม่คิดที่จะเจรจา ซึ่งถ้ามีการเจรจากับต้อมโดยตรงอาจจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

"ทางเขามีการโทรมาแค่ครั้งเดียวคือวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งไม่ได้คุยกับเราด้วยคุยกับแฟนเรา นอกนั้นทั้ง มิสคอล หรือ ไลน์ ก็ไม่มี" ต้อม รชนีกร อธิบาย 

 

พร้อมกันนี้ ทนายเชอร์เบท ยังได้กล่าวเสริมอีกว่า อย่างแรกในส่วนการผิดพลาดในการศัลยกรรม แล้วฟ้องเป็นคดีละเมิด แผนกคดีผู้บริโภคเป็นจำนวนทุนทรัพย์ 50 ล้าน โดยจะฟ้องโรงพยาบาลและคุณหมอที่เป็นคนผ่าตัดและเรื่องรูปตอนที่พี่ต้อมอยู่ในห้องผ่าตัด จะมาอ้างสัญญารีวิวไม่ได้ 

 

 

พ.ร.บ. สถานพยาบาล กำหนดไว้ว่า การที่คลินิกศัลยกรรมจะเอารูปไปโฆษณา หรือหากำไรให้ตนเอง ต้องมีการขออนุญาตจากสบส. ต้องเป็นไปตามมาตรฐานของเขา ซึ่งอยากจะทราบว่าโรงพยาบาลนี้ได้เป็นไปตามขั้นตอนถูกต้องหรือยัง ซึ่งตอนนี้เดินหน้าคดีละเมิด 50 ล้านแล้ว แต่ส่วนการเอารูปขณะผ่าตัดมาเผยแพร่ กำลังดำเนินการตามไป

 

ส่วนประเด็นที่ ฝั่งคู่กรณีก็ได้ออกมาบอกว่า มีตังค์จ่าย 50 ล้านได้ แต่ถ้าจะฟ้องกลับกลัวทาง ต้อม อาจจะไม่มีเงินจ่าย นั้น ต้อม อธิบายว่า เธอได้เห็นที่พูดแล้ว ซึ่ง เราอาจจะไม่มีเงิน แต่เรามีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และที่สำคัญมีความจริง ที่พูดกี่ครั้งก็ยังไม่ตาย ถ้ามีการเจรจากันด้วยดีก็คงไม่มีวันนี้ หลายๆ อย่าง หลายๆ คลิป 

สิ่งที่เค้าพูดจริง 10 หรือ 20 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ประชาชนเข้าใจเราผิด เราอยากจะถามคนทั่วไปว่าคนมีเงินเท่านั้นเหรอที่จะชนะ ไม่ใช่ ความยุติธรรมมันต้องมี พี่ไม่เข้าใจว่าตอนนี้ทุกคนที่มาคอมเม้นท์ด่าพี่ คือเรื่องหิวเงิน หิวแสง พี่ไม่ได้หิวเงินหิวแสง พี่อยู่ตรงนี้มา 33 ปี ไม่จำเป็นต้องหิวแสง ส่วนเงินพี่อาจไม่ได้รวยมากมาย แต่ตั้งแต่เกิดมาพี่ไม่เคยลำบาก แต่เขามาพูดตีค่าให้พี่ดูต่ำขนาดนั้น หลังจากนี้พี่ก็คงไม่น่ายอมได้แล้ว เจอกันที่ศาล

 

ส่วนจะดำเนินการเจอคู่กรณีเมื่อไหร่ ทนายเชอร์เบท อธิบายว่าจะเแนในช่วงวันที่ 19 สิงหาคม นัดแรก เจอกันที่ศาลจ.นนทบุรี ซึ่งได้ส่งหมายให้เขาเรียบร้อยแล้ว และในคลิป เขาแจ้งว่าได้รับหมายแล้ว

 

ก่อนที่ ต้อมจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เล่าถึงภาพแรกที่ออกมาได้รับผลกระทบ ซึ่งภาพนั้นเป็นภาพที่ต่อท่ออ็อกซิเจนอยู่ แบบนี้รับไม่ได้ ขณะที่ ทนายเชอร์เบท ระบุว่า เราฟ้องในฐานะที่เขาเอาออกสื่อ ซึ่ง ภาพนี้ผิดกฎหมายหลายตัวเลย นอกจากจะผิด pdpa ผิดกฎหมายอาญา - แพ่ง. พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ และกฎหมายละเมิดสิทธิผู้ป่วย