- 08 ม.ค. 2563
จากจุดเริ่มต้นการสร้างความขัดแย้งในภูมิภาคโลก โดยการส่งกองกำลังทางอากาศบุกทิ้งระเบิดในบริเวณสนามบิน กรุงแบกแดด ของอิรัก ส่งผลทำให้มีบุคคลสำคัญอย่างน้อย 2 ราย ประกอบด้วย พลตรี กาเซ็ม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลัง “คัดส์” ซึ่งเป็นหน่วยรบพิเศษของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน และ อาบู มาห์ดี อัล-มูฮานดิส ผู้นำกองกำลังติดอาวุธในอิรัก เสียชีวิตจากปฏิบัติการดังกล่าว ตามมาด้วยถลงการณ์ของอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ระบุว่า สหรัฐฯ จะถูกอิหร่านตอบโต้อย่างรุนแรง "ผู้ใดก็ตามที่ปลิดชีวิตของนายพลโซเลมานีและพรรคพวก จงรอคอยการแก้แค้นอย่างสาสม"
จากจุดเริ่มต้นการสร้างความขัดแย้งในภูมิภาคโลก โดยการส่งกองกำลังทางอากาศบุกทิ้งระเบิดในบริเวณสนามบิน กรุงแบกแดด ของอิรัก ส่งผลทำให้มีบุคคลสำคัญอย่างน้อย 2 ราย ประกอบด้วย พลตรี กาเซ็ม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลัง “คัดส์” ซึ่งเป็นหน่วยรบพิเศษของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน และ อาบู มาห์ดี อัล-มูฮานดิส ผู้นำกองกำลังติดอาวุธในอิรัก เสียชีวิตจากปฏิบัติการดังกล่าว ตามมาด้วยถลงการณ์ของอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ระบุว่า สหรัฐฯ จะถูกอิหร่านตอบโต้อย่างรุนแรง "ผู้ใดก็ตามที่ปลิดชีวิตของนายพลโซเลมานีและพรรคพวก จงรอคอยการแก้แค้นอย่างสาสม"
(คลิกอ่านข่าวประกอบ : อิหร่านชักธงแดงเหนือ ยอดสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์ ประกาศพร้อมสู่ภาวะสงคราม เริ่มยิงขีปนาวุธถล่มเขตทหาร สถานทูตมะกัน)
จากนั้นไม่นานกองกำลัง พิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน IRGC ได้เริ่มปฏิบัติการแก้แค้น โดยการยิงขีปนาวุธเข้าถล่มฐานกำลังทหารสหรัฐฯ ในอิรัก 2 จุด ประกอบด้วย Al-assad และ Irbil
(คลิกอ่านข่าวประกอบ : อิหร่านเปิดฉากระดมยิงขีปนาวุธ ถล่มฐานทัพมะกันในอิรัก )
ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กดังอย่าง ThaiArmedForce.com ได้นำเสนอข้อมูลทางการทหารที่น่าสนใจ โดยระบุว่า ทางด้าน สำนักข่าว FARS ของอิหร่านเผยแพร่คลิปการปล่อยขีปนาวุธจากฐานยิงในอิหร่านไปยังฐานทัพอากาศสหรัฐในอิรัก พร้อมมีการเปิดเผยว่า ขีปนาวุธชุดดังกล่าว เป็นแบบ Fateh-110 ที่อิหร่านผลิตขึ้นเอง
นอกจากนี้ ยังให้รายละเอียดด้วยว่า Fateh-110 เป็นจรวดเชื้อเพลิงแข็ง มีระยะยิง 300 กิโลเมตร เดินทางที่ความเร็วราวมัค 3.5 หรือเร็วกว่าเสียง 3.5 เท่า นำวิถีด้วยความเฉื่อยหรือดาวเทียม และสามารถนำวิถีด้วยระบบ Electro-Optic ได้ในช่วงสุดท้ายของการเดินทางเข้าสู่เป้าหมาย
โดยมีความคลาดเคลื่อนน่าจะเป็น (Circular Error Probable: CEP) ที่ 3 เมตร และสามารถบรรจุหัวรบได้ราว 450 - 600 กิโลกรัม แล้วแต่รุ่นของจรวด นอกจากนั้นยังมีรุ่นโจมตีเรือผิวน้ำ (Hormoz 1 และ 2) และรุ่นขยายระยะยิง (Zolfaghar) ที่สามารถทำการยิงได้ไกล 750 กิโลเมตร
ขณะที่ในภาพเป็นประมาณการตำแหน่งยิงของ Fateh-110 และจุดสีน้ำเงินคือจุดที่คาดว่าเป็นเป้าหมายของจรวดคือฐานทัพอากาศ Ain al-Asad ฐานทัพใน Erbil ในเขตปกครองตนเองของเคิร์ด และภาพการยิงจรวด Fateh-110 จากโทรทัศน์อิหร่าน รวมถึงซากจรวดที่พบในเมือง Erbil ซึ่งคาดว่าถูกสกัดได้โดยระบบป้องกันภัยทางอากาศของสหรัฐ ภาพสุดท้ายคือภาพจรวด Fateh-110 ที่อยู่ในลักษณะตั้งเตรียมยิง
ล่าสุด นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ โพสต์ทวิตแสดงให้เห็นความไม่ยี่หระ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเน้นย้ำว่ากองทัพสหรัฐ คือ หน่วยทหารที่ยังคงอานุภาพและทันสมัยที่สุด โดยจะมีการแถลงการณ์อย่างเป็นทางการอีกครั้ง เกี่ยวกับสถานการณ์ความรุนแรงทั้งหมด
และมีรายงานเพิ่มเติมว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าว ภายหลังพบหารือกับนายกรัฐมนตรี ประเทศกรีซ ว่า สหรัฐยังมั่นคงในการเตรียมรับมือ ปฏิบัติการโจมตีของอิหร่าน และพร้อมตอบโต้อย่างเต็มกำลัง แม้ว่าหวังจะพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ไม่ให้ความขัดแย้งขยายตัวเป็นสงคราม