ซาอุฯ-รัสเซีย ดัน โอเปกพลัส ลดผลิตน้ำมันเพื่อดันราคา ตอกย้ำ โจ ไบเดน ล้มเหลว

ถ้าแนวคิดนี้สำเร็จขึ้นมาจริงๆ ดูเหมือนว่าประเทศที่ยังต้องใช้ "น้ำมัน" เห็นทีจะต้องยอมจ่ายอย่างเลี่ยงไม่ได้ซะแล้ว เมื่อมีรายงานว่า ซาอุดิอาระเบียกับรัสเซียกำลังผลักดันให้ชาติสมาชิก OPEC ลดการผลิตน้ำมันเพื่อดันราคา ในขณะที่โลกกำลังพยายามต่อสู้เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงาน เท่ากับการเยือนซาอุดิอาระเบียของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก่อนหน้านี้ 'ไร้ประสิทธิผลอย่างสิ้นเชิง'

 

ในรายละเอียดระบุว่า ซาอุดิอาระเบียกับรัสเซียกำลังผลักดันให้ชาติสมาชิกองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (Organization of the Petroleum Exporting Countries) หรือ OPEC ใช้แผนลดการผลิตน้ำมันเพื่อดันราคาในการประชุมร่วมกันที่กรุงเวียนนาของออสเตรีย ที่ประกอบด้วย 13 ชาติสมาชิก นำโดยซาอุดิอาระเบีย และ 11 ชาติพันธมิตร นำโดยรัสเซีย หรือ OPEC +11 ในวันพุธที่ 7 ตุลาคม 2565 โดยเป็นการประชุมแบบเผชิญหน้าร่วมกันครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2563 ซึ่งหลังนั้นต้องจัดประชุมทางไกลอันเนื่องมาจากการระบาดของโควิด-19

ซึ่งแผนการผลักดันให้สมาชิกและพันธมิตรลดการผลิตน้ำมัน เกิดขึ้นในขณะที่โลกกำลังพยายามต่อสู้เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงาน หลังจากราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน สั่งบุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ฉุดอัตราเงินเฟ้อขึ้นไปสู่ระดับสูงในรอบหลายทศวรรษ ที่สร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจทั่วโลก และเกิดวิกฤตค่าครองชีพลุกลามในหลายประเทศ 

ถึงแม้ราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวลดลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แต่ประเทศผู้บริโภคน้ำมันได้ผลักดันให้ชาติสมาชิก OPEC+ (โอเปกพลัส) ผลิตน้ำมันดิบเพิ่มเพื่อกดราคาลงมา ขณะที่ตะวันตกพากันรุมตำหนิว่าเป็นข้อเรียกร้องที่ถูกเมินเพื่อความพึงพอใจของปูติน ที่ถูกมองว่าใช้อิทธิพลที่อยู่เหนือตลาดน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เพื่อตอบโต้การคว่ำบาตรของตะวันตกต่อรัสเซียกรณีการบุกยูเครน 

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ จะเดินทางไปเยือนซาอุดิอาระเบียเมื่อเดือนกรกฎาคม เพื่อโน้มน้าวให้เพิ่มการผลิตน้ำมัน โดยเป็นการ "เข้าพบ" มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน "ผู้ครองราชอาณาจักรโดยพฤตินัย" หรือที่รู้จักกันในชื่อ MBS โดยแม้ไบเดนจะเคยสัญญาว่าจะทำให้ MBS กลายเป็นคนนอกคอก (pariah) เพราะเชื่อว่าเป็นผู้บงการสังหาร จามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวของวอชิงตันโพสต์ เมื่อปี 2561 

ทั้งนี้การเยือนของไบเดนนอกจากจะคว้าน้ำเหลวยังเป็นการฟอกขาวให้ MBS อย่างช่วยไม่ได้ เพราะไบเดนยืนแถลงข่าวอยู่คนเดียว ในขณะที่ MBS นั่งมองและมีรอยยิ้่มที่มุมปาก และพระองค์ก็ไม่ได้บอกด้วยว่าจะผลิตน้ำมันป้อนตลาดโลกเพิ่มขึ้น เพียงแต่พูดถึงเรื่องที่จะมีการประชุมของ OPEC ที่กำลังจะเกิดขึ้น และพูดถึงราคาน้ำมันโลกที่ลดต่ำลง นั่นหมายถึงว่า 'พระองค์ได้ปฏิเสธข้อเสนอของไบเดนอย่างสุภาพ'

แต่ไบเดนเสียอีกที่นอกจากจะเสียรู้ MBS แล้ว ยังเสียหน้าเมื่อถูกนักข่าวกดดันหนักว่า ในเมื่อมาเจอตัวเป็นๆ ทั้งที ทำไมไม่ทำอย่างที่พูดไว้ตอนหาเสียง จนเขาต้องเดินออกจากโพเดียมไปดื้อๆ นอกจากนี้ยังถูกจับผิดว่าเสียศูนย์ เพราะมีการ "เดินเซ" เหมือนไม่มีสติ เหม่อลอยและไปผิดทาง ที่น่าจะเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งอายุมาก ทั้งภารกิจที่สาหัสและเร่งรีบเกินกว่าที่ชายวัยใกล้ 80 ปีจะรับไหว

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline