ประชาชนข้องใจ ผู้นำฟิลิปปินส์ วันๆ ไม่ทำอะไร ได้แต่หลงระเริงในต่างประเทศ

ปธน.เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ถูกฝ่ายตรงข้ามถล่มยับ หลงระเริงอยู่ที่สิงคโปร์ในขณะที่ประชาชนเผชิญเคราะห์กรรมจากไต้ฝุ่นโนรู

ประชาชนข้องใจ ผู้นำฟิลิปปินส์ วันๆ ไม่ทำอะไร ได้แต่หลงระเริงในต่างประเทศ หลังจากที่ มาร์กอส รับตำแหน่งได้ 4 เดือน งานหลักของประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ คือ การไปร่วมงานอีเวนต์ต่างๆ ที่รวมทั้งงานปาร์ตี้เลี้ยงฉลองวันเกิดหรูหรา 4 งาน ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่าเขากำลังหลงระเริงกับอำนาจที่ได้มา ทั้งยังสร้างเซอร์ไพรซ์ด้วยการไปชมการแข่งขัน "Formula One Singapore Grand Prix" ที่สิงคโปร์ 

 

ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โดนซัดยับ หลงระเริงในต่างประเทศขณะที่ประชาชนเผชิญเคราะห์กรรมจากไต้ฝุ่นโนรู

ในขณะที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นโนรู และแม้จะอ้างว่า 'เขาจำเป็น' ต้องไปเพื่อพบปะนักลงทุนรายใหญ่ที่มีศักยภาพ แต่มันไปเข้าทางนักวิจารณ์บางคนที่บอกว่า เขายังคงติด 'วิถีชีวิตแบบเจ็ตเซ็ต' (jet-setting lifestyle) ที่ใช้เรียกกลุ่มคนร่ำรวยที่ชื่นชอบการเดินทางโดยเครื่องบินไอพ่น และละเลยภารกิจที่จำเป็นเร่งด่วน 

 

ขณะที่ พวกนักวิจารณ์ เช่น พันมิตรผู้รักชาติใหม่ (New Patriotic Alliance) ซึ่งเป็นพันธมิตรองค์การฝ่ายซ้ายของฟิลิปปินส์ และรู้จักกันในชื่อ "บายัน" (Bayan) ได้ประนามมาร์กอส จูเนียร์ ว่า "ใช้ชีวิตอภิสิทธิ์ชนอย่างไร้ยางอายและใจดำ" ด้วยการไปดู Formula One ที่สิงคโปร์ เมื่อสุดสัปดาห์ ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศยังคงผันผวน และเพิ่งจะเจอซูเปอร์ไต้ฝุ่นโนรู พัดถล่มทั่วเกาะลูซอนจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก


สำหรับ Formula One Singapore Grand Prix ถูกกำหนดให้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี นับตั้งแต่ซื้อลิขสิทธิ์มาเมื่อปี 2551 และจัดเรื่อยมาจนกระทั่งปี 2562 ก่อนหยุดไปเมื่อปี 2563-2564 เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 และจะกลับมาจัดใหม่ในปีนี้ ซึ่งนอกจากจะมีการแข่งขันรถ Formula One แล้ว ยังถูกใช้เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการ "ดีลธุรกิจ" กันนอกรอบอีกด้วย

ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โดนซัดยับ หลงระเริงในต่างประเทศขณะที่ประชาชนเผชิญเคราะห์กรรมจากไต้ฝุ่นโนรู  
 

โดยก่อนหน้านี้การแข่งขัน ก็มีการจัดประชุมธุรกิจที่สำคัญในสิงคโปร์ ที่รวมทั้ง Milken Institute Asia Summit ครั้งที่ 9 ที่ผู้นำระดับภูมิภาคและระดับโลกจาก 23 ประเทศ มาพูดคุยกันในธีม "The World Transformed" (โลกที่เปลี่ยนไป)


ความไม่พอใจ มาร์กอส มีสาเหตุหลักมาจาก สำนักงานของเขา "ขาดความโปร่งใส" ที่ไม่มีการเปิดเผยแต่แรก และมีการตั้งถามด้วยว่าค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาจากกองทุนของรัฐหรือไม่ ซึ่งแอนโธนี ลีชอน แพทย์ ที่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาอาวุโสในคณะทำงานเฉพาะกิจด้านโควิด-19 กล่าวว่า การไปของประธานาธิบดีถือเป็น "วิสัยทัศน์ที่ไม่ดี" และสะท้อนถึง "การขาดความเห็นอกเห็นใจ (ที่เกิดจาก) ค่านิยมความเป็นคนเจ้าสำราญของเขา" 


ทั้งนี้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียบางคนประเมินว่า เที่ยวบินขากลับของเครื่องบินประจำตำแหน่งประธานาธิบดี Gulfstream G280 น่าจะมีค่าใช้จ่าย 32,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ เกือบ 1 ล้าน 2 แสนบาท แต่ดูเหมือนมาร์กอสจะไม่สะทกสะท้านกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ โดยข้อความที่โพสต์ในเฟซบุ๊กระบุว่า "พวกเขามักพูดว่าการเล่นกอล์ฟเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการผลักดันธุรกิจ แต่ผมขอบอกว่า Formula One เป็นอะไรที่สร้างสรรค์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์" 

ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โดนซัดยับ หลงระเริงในต่างประเทศขณะที่ประชาชนเผชิญเคราะห์กรรมจากไต้ฝุ่นโนรู


เขาระบุด้วยว่าเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้รับเชิญร่วมกับบุคคลสำคัญหลายคน และได้พบเพื่อนใหม่ในแวดวงธุรกิจ ที่แสดงให้เห็นว่าพร้อมและเต็มใจที่จะลงทุนในฟิลิปปินส์ แต่ ส.ส.อาร์ลีน โบรซัส จากพรรคสตรีกาเบรียลา (Gabriela Women's Party) ได้ตำหนิว่า น้ำที่ท่วมขังในนาข้าวหลายแห่งยังไม่ทันจะลด ประธานาธิบดีก็ไปสิงคโปร์เพื่อไปดู F1 Grand Prix ซึ่งซูเปอร์ไต้ฝุ่นโนรูได้คร่าชีวิตประชาชน และสร้างความเสียหายให้นาข้าวเป็นมูลค่าหลายพันล้านเปโซ 


ส่วนนูเอล ดูเตร์เต หลานของอดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ที่วิพากษ์วิจารณ์ตระกูลมาร์กอส อย่างเผ็ดร้อนบอกว่า ข้อความของประธานาธิบดีที่ส่งผ่านการไปสิงคโปร์ของเขา ก็คือ "เขาให้ความสำคัญกับงานอดิเรกมากกว่างานที่เขาสมัครรับเลือกตั้งเข้ามา" และ "เขาเชื่อว่ามีสิทธิ์ที่จะทำตามใจตัวเอง แต่ในฐานะประธานาธิบดี ที่เขาควรจะต้องให้ความสำคัญกับสวัสดิการของประชาชนมากกว่าตัวเองสิ" 


ทริปสิงคโปร์ของมาร์กอส เริ่มจากข่าวลือในโซเชียลมีเดียเมื่อวันศุกร์ที่แล้วที่ระบุว่า พวกแขก VIP ได้เข้าชมการซ้อมเมื่อวันศุกร์ ก่อนคัดเลือกเมื่อวันเสาร์และแข่งจริงวันอาทิตย์ ฝ่ายสิงคโปร์รวมทั้งนายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง และตัน สี เล็ง รัฐมนตรีแรงงานได้โพสต์ในโซเชียลมีเดีย ที่แสดงให้เห็นพวกเขาได้พบกับมาร์กอสเมื่อวันอาทิตย์ ที่ระบุว่าเป็นการกระชับความสัมพันธ์ด้านพลังงานกับแลกเปลี่ยนนโยบายด้านแรงงานนอกรอบการชมการแข่งขัน 

ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โดนซัดยับ หลงระเริงในต่างประเทศขณะที่ประชาชนเผชิญเคราะห์กรรมจากไต้ฝุ่นโนรู

ส่วนพวกที่สนับสนุนมาร์กอสพากัน "ดิ้น" ว่า จะเป็นการทำลายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ถ้าฝ่ายสิงคโปร์เชิญมาแล้วมาร์กอสไม่ไป แต่ก็โดนโต้กลับว่าถ้าไปทำงาน เหตุใดจึงไม่พาที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจคนสำคัญไปด้วย ทั้งยังมีคนตั้งประเด็นคำถามในโซเชียลมีเดียด้วยว่า มาร์กอสจะต้องไปสิงคโปร์อีกทำไม ในเมื่อเขาเพิ่งจะไปเยือนแบบรัฐพิธีเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน และสิงคโปร์ก็รับปากว่าจะเข้าไปลงทุนในฟิลิปปินส์เป็นมูลค่า 6,080 ล้านดอลลาร์ 


และดูเหมือนความเห็นของ เอ็ดวิน ลาเซียร์ดา โฆษกของอดีตประธานาธิบดีเบนิกโญ่ อากิโน ผู้ล่วงลับ จะเป็นเสมือนตะปูตอกปิดฝาโลงคำแก้ตัวของมาร์กอส ด้วยข้อความในทวิตเตอร์ที่ว่า "ในสมัยนั้น เมื่่อประธานาธิบดีจะออกจากทำเนียบไปเจรจาธุรกิจ จะต้องนำสมาชิกในคณะรัฐมนตรีที่เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ ไปด้วยอย่างไม่ต้องมีข้อกังขา" 

ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โดนซัดยับ หลงระเริงในต่างประเทศขณะที่ประชาชนเผชิญเคราะห์กรรมจากไต้ฝุ่นโนรู

ภาพจาก Bongbong Marcos
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline