- 10 ม.ค. 2562
ไม่ถอย “ยงยุทธ” หงายไพ่ต่อเนื่อง อ้างเพื่อสันติ เปิดโต๊ะเจารจา กลยุทธ์ แฝงพา”ทักษิณ”กลับบ้าน??
สืบเนื่องจากกรณีที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภ ในฐานะกองเชียร์พรรคเพื่อชาติ ได้ลงพื้นที่จ.พิษณุโลกเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 61และได้ร่วมปราศรัย ใจความตอนหนึ่งระบุว่า "เราได้พยายามให้ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาประเทศไทย 3 ครั้งแล้วแต่ไม่สำเร็จ จึงขอโอกาสครั้งนี้ซึ่งถือว่าเป็นครั้งที่ 4 หากได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนเลือกพรรคเพื่อชาติ...” ตลอดจนเคลื่อนไหวผ่านโซเชียล โพสต์เฟสบุ๊กเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รัฐบาล ตั้งโต๊ะเทียบเชิญให้นายทักเษิณ นักโทษหนีคดีร่วมเจรจา โดยอ้างเพื่อสร้างความปรองดอง ซึ่งประเด็นดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมาในสังคม
ทั้ง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต่างส่ายหน้า ไม่มีความจำเป็นต้องเจรจา สำทับในท่วงทำนองเดียวกันว่า ไม่มีใครห้ามนายทักษิณกลับเมืองไทย อีกทั้งนายทักษิณก็เป็นฝ่ายเลือกที่หนีคดีไปเอง ถ้าไม่ผิดก็กลับมาต่อสู่ตามกระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ก็ไม่ได้ลดละความพยายาม หงายไพ่ “ขอเจรจา”แบบต่อเนื่องอีกครั้ง เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 61 "นายยงยุทธ" ได้ให้สัมภาษณ์รายการ "เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand" เกี่ยวกับประเด็นเรื่องการตั้งโต๊ะเจรจา และการพานายทักษิณ กลับบ้าน
ทั้งนี้ พิธีกรถามว่ากรณีการปราศรัยที่ จ.พิษณุโลก ที่ขอโอกาสครั้งที่ 4 พานายทักษิณกลับบ้าน ช่วยกันเลือกพรรคเพื่อชาติ จึงเกิดคำถามว่าตอนตั้งพรรคเพื่อชาติ เห็นบอกว่าจะเป็นเกาะกลางให้คนทุกสี นายยงยุทธ กล่าวว่า ความหมายของตน คือ ตนยกตัวอย่างให้ฟังว่าการหาเสียงของพรรคการเมืองทุกครั้ง มักจะอ้างว่าจะเอานายทักษิณ กลับบ้าน ผ่านมา 3 ครั้งแล้ว ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 4 ตนก็ไม่เห็นว่าการเป็นรัฐบาลจะช่วยให้กลับบ้านได้ ดังนั้นการจะกลับบ้านได้ เราต้องมีพื้นที่ในการพูดคุยกันได้ เหมือนเช่นหมู่บ้านปันมุนจอมที่เกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ ใช้ในการพูดคุย ดังนั้นพรรคเพื่อชาติ เมื่อมีนโยบายแก้ไขความขัดแย้ง จึงไม่จำเป็นต้องไปใช้ “น้องเกี่ยวก้อย” มันต้องใช้มนุษย์มาคุยกัน ต้องมีพื้นที่พูดคุยกัน การพูดคุยเป็นเรื่องที่ดี
"นายยงยุทธ" กล่าวอีกว่า ส่วนที่ใครเห็นแนวทางของพรรคเพื่อชาติว่าเป็นแนวทางที่ดี ก็ให้สนับสนุน ตนเห็นเป็นเรื่องที่ดีจึงเข้ามาสนับสนุน มาช่วยเชียร์ เพราะเห็นว่ามีนโยบายลดปัญหาความขัดแย้ง เป็นเกาะกลาง ตนยืนยันว่าใครที่ไม่เข้าใจให้ไปอ่านในเฟซบุ๊กของตน “แต่ถ้าใครอยากให้เป็นประเด็นการเมือง ผมจะเล่าให้ฟังตรงๆว่าผมก็เป็นคนหนึ่งที่ถูกปฏิวัติ มีทหารไปทุบบ้านผม จับตัวผมไปขังครึ่งเดือน ผมก็ไม่ว่า
แต่วันนี้การยึดอำนาจทุกครั้งที่ผ่านมามันจะต้องมีข้ออ้างทุกครั้ง คือ เรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น ตนไม่เคยมีความศรัทธาว่าการยึดอำนาจจะช่วยแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นได้ เช่น จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ , จอมพลถนอม กิตติขจร หรือจอมพลประภาส จารุเสถียร เบื้องหลังชีวิตก็ถูกยึดทรัพย์หมด เพราะขาดการตรวจสอบถ่วงดุล ส่วนพี่น้องพรรคเพื่อไทย ก็อย่าไปโมโหว่าผมมาแย่งซีนว่าจะเอานายทักษิณกลับบ้าน เพราะไม่มีเรื่องที่จะมาพูดเพื่อให้ได้เสียงมาก เสียงน้อย” นายยงยุทธ กล่าว
นายยงยุทธ กล่าวย้ำว่า แต่สิ่งที่พรรคเพื่อชาติประสบความสำเร็จ คือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ยืนอยู่บนพื้นที่ของเสื้อแดง แต่เมื่อเห็นบ้านเมืองเป็นเช่นนี้ ก็มายืนอยู่บนหมู่บ้านปันมุนจอมด้วยกัน เพราะอยากให้บ้านเมืองสงบ พวกตนใครมาอยู่ตรงนี้โดนเพื่อนฝูงด่ากันทุกคน ไม่มีใครแฮปปี้ เพราะกลัวถูกแย่งเสียง แต่แท้ที่จริงเราอยากให้บ้านเมืองมันเดินได้ ทุกวันนี้ตนจึงประกาศตัวเองว่าไม่ต้องไปมีตำแหน่งอะไร ชาติหน้าก็ไม่สนใจ ขอเพียงส่งมรดกดีๆให้ลูกหลาน
“ทีนี้เมื่อสิ่งต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้นมา บางคนบอกว่าเป็นรัฐบาลจะแก้ความขัดแย้ง แต่นี่พรรคเพื่อชาติยังไม่เป็นรัฐบาลเราก็ทำสำเร็จแล้ว คือ เอาคนที่มีท่าทีเดียวกันมาอยู่ด้วยกัน ก็ถือว่าสำเร็จแล้ว เราจะได้ ส.ส. หรือไม่ได้ ส.ส. 0 คน ก็ไม่เป็นไร แต่มันต้องมีพื้นที่ที่จะทำให้สังคมได้เห็นว่ายังมีคนกลุ่มหนึ่งที่อยากเห็นบ้านเมืองเดินไปด้วยสันติ ความรัก ความสามัคคีกัน คอนเซปต์มีแค่นี้ ไม่ต้องไปคิดไกลเป็นเรื่องการเมือง” นายยงยุทธ กล่าว
นายยงยุทธ กล่าวอีกว่า ครั้งที่ 3 ครั้งที่ 4 ไม่ได้หมายความว่าเป็นรัฐบาลแล้วจะเอานายทักษิณกลับมา มันไม่ใช่ มันกลับไม่ได้ แต่สิ่งที่จะให้กลับได้ คือ 1.เราเห็นสังคมโลกทุกวันนี้ นายทักษิณบินไปไหนมาไหนได้ คือ กลุ่มที่ยึดอำนาจคงไม่มีใครบอกว่าคนที่ถูกยึดอำนาจเป็นคนดี มันก็ต้องตั้งข้อหา ดังนั้นเมื่อมีตั้งข้อหา เช่น กรณีเงินกู้เมียนมา ถูกตั้งข้อหาผลประโยชน์ทับซ้อน ทุกวันนี้เขาคืนหมด เราก็ได้ความสัมพันธ์ที่ดี อีกทั้งคดีต่างๆเวลาขึ้นศาล ก็ยังความดี มีการบรรเทาโทษอยู่ สิ่งเหล่านี้เวลาเรากล่าวหากันทางการเมือง มันเป็นแรงจูงใจ
“แล้ววันนี้ถ้านายทักษิณกลับมา คนก็กลัวว่าตัวเองจะเสียอำนาจ พูดชัดๆนะ คือ กลัวตัวเองจะเสียความนิยม ดังนั้นก็คุยกันเสียสิพี่น้องเตรียมทหาร จะบอกว่าพี่ไม่ต้องกลับมาไปอยู่ต่างประเทศ ทำโน่นนี่ก็ว่ากันไป ส่วนคดีผมเดาใจว่าเขาคงไม่กลับมา เพราะบางขั้นตอนการได้มาซึ่งหลักฐานมันไม่ได้เป็นไปอย่างโลกสวยตามที่เราเข้าใจ เราต้องยอมรับตรงนี้ด้วยใจใสๆก่อน ดังนั้นมันต้องพูดคุยกัน หาหนทางที่ดีให้กับชาติบ้านเมือง” นายยงยุทธ กล่าว
นายยงยุทธ ยืนยันว่า สิ่งที่ตนพูดไม่ใช่การนำนายทักษิณกลับมาด้วยการเป็นรัฐบาล แต่หมายถึงกลับมาตามแนวทางของพรรคเพื่อชาติ คือ การมีหมู่บ้านปันมุนจอม คือ ต้องคุยกัน เพราะตนเห็นว่าแนวทาง 3 ครั้งที่ผ่านมา ไม่เคยสำเร็จ คนที่ไม่เข้าใจความหมายของตน ขอให้ไปอ่านเฟซบุ๊กแล้วจะเข้าใจ เป้าหมายที่เราอยู่พรรคเพื่อชาติ เป้าหมายเดียว คือ ปัญหาความขัดแย้ง เราต้องช่วยกันขจัดให้หมดไป บางอย่างแก้ด้วยนิติศาสตร์ไม่ได้ มันต้องแก้ด้วยรัฐศาสตร์ “ตราบใดที่คนที่ได้ประโยชน์บอกแค่ว่า “เอามาติดคุกสิ” มันต้องดูที่เนื้อในว่ามาสิๆ ถ้าเป็นคุณจะมาหรือเปล่า ถ้าเจอสภาพอย่างนี้ อันนี้ผมพูดชัดเลยนะ” นายยงยุทธ กล่าว
นายยงยุทธ กล่าวทิ้งท้ายว่า ถ้าคนมองพรรคเพื่อชาติว่าแอบแฝงเพื่อนายทักษิณ วันนี้ไม่ต้องสนใจเลย วันนี้พรรคเพื่อชาติทำทุกอย่างเพื่อเอาสังคมที่ดีงามกลับคืนมา ความขัดแย้งเหตุเกิดที่ไหน เราเป็นลูกของพระพุทธเจ้าเราก็ต้องแก้ที่นั่น ปัญหาวันนี้ทุกเรื่อองก็วนไปเป็นวัวพันหลัก ไปอยู่ที่นายทักษิณ “วันนี้เราแก้ปัญหาด้วยกฎหมาย ด้วยอารมณ์ ความโมโหไม่ได้ การเมืองเป็นแหล่งรวมของผลประโยชน์ เมื่อเป็นเช่นนี้ต้องใช้หลายด้านในการแก้ไขปัญหา มันต้องมีรัฐศาสตร์ การบริหารด้วย วันนี้เราใช้วิชาเดียว คือ วิชาที่กูได้ประโยชน์ มันก็ไม่สงบหรอกบ้านเมือง” นายยงยุทธ กล่าว
อย่างไรก็ตามหากดูประวัติทางการเมืองของ "นาย ยงยุทธ ติยะไพรัช" ต้องถือว่าเป็หนึ่งในผู้ใกล้ชิด-รับใช้ "ทักษิณ" อย่างสุดจิตสุดใจและได้รับความไว้วางใจจากทั้ง "นายใหญ่และนายหญิง" เขาเป็นอดีตประธานรัฐสภา และอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สมัยรัฐบาล "ทักษิณ" และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงราย
นอกจากนี้ ต้องไม่ลืมว่าบุตรชายนายยงยุทธ นั้นก็คือ"นาย มิตติ ติยะไพรัช" เป็นถึงเลขาธิการพรรคไทยรักษาชาติ พรรคการเมืองเครือข่ายระบอบทักษิณ สะท้อนให้เห็นสายสัมพันธ์อันแนบชิดสนิมสนม และเป็นไปได้หรือไม่ว่า การสร้างกระแส “พาทักษิณกลับบ้าน” ปลุกผี กองเชียร์ให้คึกคัก คงได้สัญญาณ “ไฟเขียว” จาก นายทักษิณ หากไม่เช่นนั้นนายยงยุทธ มีหรือจะกล้าพูด “โยนหินถามทาง” พร้อมๆกับเช็คเรตติ้ง