- 23 ก.พ. 2562
นักวิชาการอิสระ วิจารณ์ประเด็นเกี่ยวกับ หนี้สาธารณะ ของรัฐบาลชุด คสช. ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี
สื่บเนื่องจากกรณีการปราศรัยหาเสียงของพรรคการเมืองขั้วตรงข้ามรัฐบาล คสช. ได้หยิบยกประเด็นหนี้สาธารณะว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันขาดการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ พฤติกรรมลักษณะดังกล่าวเป็นการหวังผลทางการเมืองอย่างชัดเจน และได้นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
ต่อกรณีดังกล่าว บนเฟสบุ๊ก "Kittitouch Chaiprasith" ซึ่งเป็นของนักวิชาการอิสระที่ติดตามการดำเนินงานของรัฐบาลมาโดยตลอดได้โพสต์ข้อความระบุว่า
[เล่าความจริงเพียงเสี้ยวเดียว]
ชำแหละกลยุทธ์ทางการเมือง
เรื่อง #หนี้สาธารณะในปัจจุบัน
------------------------
ความจริงเพียงเสี้ยวเดียว
------------------------
- ที่ผ่านมากลุ่มการเมืองฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาลปัจจุบัน ได้มีความพยายามในสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนในสังคมไทยอย่างแพร่หลาย ในเรื่องหนี้สาธารณะ
- โดยพวกเขาจะใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า [การเล่าความจริงเพียงเสี้ยวเดียว] ด้วยการหยิบตัวเลขหนี้สาธารณะมาพูดลอยๆ หรือบ้างก็พูดเพียงว่ามันที่เพิ่มสูงขึ้นจากในอดีต แล้วจึงชี้นำไปว่า...
"รัฐบาลนี้ทำงานไม่เป็น ดีแต่สร้างหนี้"
- โดยทางฝ่ายการเมืองที่ปั่นกระแส มักจะพูดที่ปี 2549 ว่าหลังมีการรัฐประหารรัฐบาลทักษิณในเวลานั้น ประเทศไทยก็มีแต่หนี้ และย่ำแย่มาโดยตลอด
- โดยพวกเขาจะใช้อัตราหนี้สาธารณะในปี 2549 ที่ 3.3 ล้านล้านมาบอกว่าพอปี 2561 หนี้สาธารณะเพิ่มเป็น 6.6 ล้านล้าน หรือเพิ่มขึ้นมาสองเท่าตัว
------------------------
ความจริงที่ครบถ้วน
------------------------
แต่ความเป็นจริงคือ หนี้สาธารณะเวลาพิจารณาต้องดูเป็นสัดส่วน [หนี้ต่อ GDP] หรือ [หนี้ต่อรายได้ของประเทศ]
เวลารัฐบาลทั่วโลกบริหารประเทศจะใช้หลักการง่ายๆ ดูว่า หนี้สาธารณะไม่ควรเกินที่ระดับเท่าไรต่อ GDP (ซึ่งมีปัจจัยมากมายว่าควรหรือไม่ควรเกินเท่าไรแต่เราจะไม่พูดถึงเพราะไม่ใช่สาระของโพสท์นี้)
ที่ผ่านมาหนี้สาธารณะของประเทศไทยอยู่ที่ราว 40-45% ในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ส่วนหนี้สาธารณะสูงสุดรอบ 20 ปีอยู่ในช่วงสมัยรัฐบาลทักษิณคือ 59.98% ต่อ GDP (ซึ่งก็พอเข้าใจได้ว่าเป็นช่วงหลังวิกฤตต้มยำกุ้ง)
โดยของไทยนั้นธนาคารโลกมองว่า ไทยมีศักยภาพที่จะสามารถลงทุนเพิ่มได้ ในระดับที่หนี้สาธารณะไม่เกิน 60% ต่อ GDP
ซึ่งถ้าเรานำ GDP ของประเทศไทย
ตั้งแต่ปี 2549-2560 มาดูจะพบว่า
- 2549 ไทยมี GDP 221.8 พันล้านเหรียญ
- 2560 ไทยมี GDP 455.2 พันล้านเหรียญ
หรือก็คือในช่วง 10 กว่าปีมานี้
ประเทศไทยมีรายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว
(แต่ทั้งนี้ต้องรวมอัตราเงินเฟ้อไปด้วย)
*** หนี้สาธารณะจาก 3.3 ล้านล้านแม้จะเพิ่มมากเป็น 6.6 ล้านล้าน แต่มันก็คือการเพิ่มมาตามสัดส่วนรายได้ที่เกิดจากการลงทุนของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศ และ 6.6 ล้านล้านนั้นก็ยังอยู่ในระดับ 41% เช่นเดิม
------------------------
*** โพสท์นี้ผมเขียนขึ้นมาเพื่อให้สังคมไทย รู้เท่าทันกลยุทธ์ [เล่าความจริงเพียงเสี้ยวเดียว] บรรดานักการเมืองหรือนักปลุกระดม ที่ชอบใช้วิธีนี้มาหลอกมวลชนอยู่เรื่อยๆ
เพราะสังคมใด ถ้าจะใช้ประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือในการบริหารบ้านเมือง จำเป็นต้องให้ความรู้และข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนกับพลเมืองในสังคมนั้นเสียก่อน มิฉะนั้นแล้วบ้านเมืองจะเสียหาย
*** เนื่องจากบรรดาผู้นำมวลชนที่เจ้าเล่ห์และฉ้อฉลนั้น มักจะใช้จุดอ่อนของประชาธิปไตยดังกล่าว มาปั่นกระแสมวลชน ด้วยเทคนิคมากมาย
เช่น การให้ข้อมูลที่ผิดๆ บิดเบือน หรือเล่าความจริงเสี้ยวเดียว แล้วค่อยแบ่งแยกผู้คน ทำให้คนรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ และตัวเองค่อยอาสามาเป็นผู้ปลดปล่อยเสียเอง
ซึ่งนี่เป็นวิธีการโบราณที่ใช้มาตั้งแต่ 4-5 พันปีที่แล้ว และก็ยังคงใช้ได้ผลอยู่เสมอจนปัจจุบัน....
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ม.จ.จุลเจิม โพสต์ล่าสุด ทหารเข้ามากู้ชาติ คุมอำนาจนักการเมืองทุนสามานย์ ปล้นชาติคุกคามสถาบัน
- ชำแหละเทือกเถาเหล่ากอ! “ทษช”เบี้ยหมากการเมือง สัมพันธ์แนบแน่น”ชินวัตร” กรุยทางสู่การเป็นปฏิปักษ์การปกครอง