เอกชัยโพสต์ให้พกพระโคตรปัญญาอ่อน! เลิกให้กำลังใจสู้ๆ มันงี่เง่า

จากกรณีวันนี้(4มิ.ย.) นายเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองและอดีตผู้ต้องหาตามความผิดมาตรา112 ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก เอกชัย หงส์กังวาน ถึงการถูกลอบทำร้ายหลายครั้งในปีที่ผ่านมารวมทั้งการทำร้ายนักเคลื่อนไหวทางการเมืองคนอื่นๆตามที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งยังเสนอการคุ้มครองด้วย และบางคำแนะนำบางอย่างที่มองว่าไม่ถูกนั้น ซึ่งข้อความทั้งหมดที่เอกชัยโพสต์ระบุว่า

 

 

ปีที่ผ่านมาผมถูกทำร้ายร่างกายหลายคร้้ง แต่ตำรวจไม่สามารถจับกุมผู้อยู่เบื้องหลัง ส่งผลให้คนร้ายเหล่านี้ย่ามใจมากขึ้น

ปีนี้การทำร้ายร่างกายขยายตัวเพิ่มขึ้น อนุรักษ์ เจนตวนิชย์ และ สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ กลายเป็นเหยื่อแบบเดียวกับผม

จุดอ่อนของนักเคลื่อนไหวอิสระคือ ไร้ความคุ้มครอง พวกเรามักเดินทางไปร่วมกิจกรรมทางการเมืองโดนปราศจากการคุ้มกันภัย

 

 

 

 

- บางคนเสนอให้มีเพื่อนร่วมเดินทาง แต่ทุกครั้งที่ผมถูกทำร้าย มีคนเห็นมากมาย แต่ไม่มีใครช่วยสักคน ทางเลือกนี้จึงผิด

- บางคนเสนอให้ทำประกันชีวิต มันช่วยผมยังไง ถ้าผมตายคนอื่นได้เงิน ไม่รู้คิดได้ยังไง ทางเลือกนี้จึงผิด

- บางคนเสนอให้ติดกล้อง-GPS ผมไม่เห็นอุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยคุ้มกันผมจากคนร้ายยังไง อย่าบอกนะ ใช้เป็นหลักฐาน ทุกกรณีของผมมีหลักฐาน แต่ตำรวจแทบจับคนร้ายไม่ได้ ทางเลือกนี้จึงผิด

- บางคนเสนอให้พกอาวุธ แต่ผมบอกได้เลย การถูกทำร้ายไม่เคยมีการเตือนล่วงหน้า คนร้ายจะจู่โจมอย่างรวดเร็ว และจากไปโดยที่คุณยังไม่ทันหยิบอาวุธ ทางเลือกนี้จึงผิด

 

 

- บางคนเสนอให้ผมตอบโต้อย่างรุนแรง ผมไม่เข้าใจคืออะไร จะให้ผมตั้งกองกำลังติดอาวุธหรอ ทางเลือกนี้จึงผิด

- บางคนเสนอให้พกพระเครื่อง ผมไม่อยากขัดศรัทธานะ แต่โคตรปัญญาอ่อน มันจะช่วยผมยังไง นี่ไม่ใช่ทางเลือกด้วยซ้ำ

 

การคุ้มครองการเดินทางเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับนักเคลื่อนไหว รถยนต์ที่ปลอดภัยรับ-ส่ง บอดี้การ์ดคุ้มครองระหว่างร่วมกิจกรรม

ถ้าคุณมีคำแนะนำที่ดีกว่าก็เสนอได้ แต่ขอร้องเถอะ ไอ้ประเภทให้กำลังใจ สู้สู้นะ หรือ อย่าไปไหนคนเดียว พอทีเถอะ มันเป็นคำแนะนำที่งี่เง่า

 

 

อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้ ( 3มิ.ย.62 ) นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วม ประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือนปช. เข้าเยี่ยมอาการนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ ที่ โรงพยาบาลมิชชั่น เขตดุสิต กทม. พร้อมมอบพระเครื่องรุ่นเก่าให้เป็นขวัญกำลังใจ

 

ทั้งนี้นายจตุพร ระบุว่ามองว่าสถานการณ์ของบ้านเมืองมาถึงจุดที่หนักหนาสาหัสสากรรจ์ ถ้าผู้มีอำนาจยังไม่รู้สึกรู้สา วันนี้จึงมาบอกเพื่อจะขอสันติจากผู้มีอำนาจ  ที่ผ่านมาแกนนำ นปช. ได้จัดระยะห่างจากการเคลื่อนไหวของนักศึกษา เพื่อให้เป็นพลังบริสุทธิ์ นปช.ยืนอยู่ในฐานที่มั่นมาโดยตลอด แต่เรื่องนี้เกินกว่าทนทานได้ เพราะเห็นว่าทำเกินไป โดยมองว่าการทำร้ายจ่านิว เป็นการส่งสัญญาณที่จะนำพาประเทศไปสู่ความรุนแรงและขัดแย้งอย่างหนักครั้งใหม่

 

 

“โดยให้ดูประวัติศาสตร์ก่อนเกิดเหตุการณ์ อาชญากรรมรัฐ 6 ตุลาคม 2519 ที่เริ่มจากนักศึกษาถูกยิงที่ป้ายรถเมล์และนักเคลื่อนไหวต่างๆถูกคุกคาม  พร้อมเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจดำเนินการเพื่อหยุดยั้ง ไม่ใช่ตอบคำถามสื่อมวลชนว่า "ไปทำอะไรเขาเข้าเขาถึงมาทำร้าย" ซึ่งสังคมรู้ดีว่าจ่านิวเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและเป็นผู้นำนักศึกษาจึงไม่มีเรื่องอื่นใดที่เป็นเหตุให้ถูกทำร้าย”

 

 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

- พิเชษฐ โพสต์เป็นลาง เสียดายน้ำดีอย่างอภิสิทธิ์ ท่ามกลางกระแสลาออกประชาธิปัตย์

- "ลุงตู่" ถ้าไม่สลัดทิ้งนักการเมืองน้ำเน่า ได้ตำแหน่งนายกฯมา ก็แพ้

- อดีตส.ส. ประชาธิปัตย์ รำคาญ ยึกยัก ร่วม-ไม่ร่วมรัฐบาล!! ชี้ได้ประธานสภา หมายถึงการเจรจาตกลงกันแล้ว

- "จตุพร"รุดเยี่ยม "จ่านิว"หลังถูกยำ เผยสัญญาณความรุนแรง เทียบคล้ายเหตุการณ์ 6ตุลา